ความจำเริญในการรับประทานอาหารนั้นก็คือ การที่ได้รับความเมตตา อย่างต่อเนื่อง และแน่นอน บารอกะฮฺในการรับประทานอาหารซาโฮรนั้นมีมากมาย
ความจำเริญในการรับประทานซาโฮร ในเดือนรอมฏอน
ความจำเริญในการรับประทานอาหารนั้นก็คือ การที่ได้รับความเมตตา อย่างต่อเนื่อง และแน่นอน บารอกะฮฺในการรับประทานอาหารซาโฮรนั้นมีมากมาย
รอซูลลุลลอฮฺศ็อลลัลลอฮฮูอาลัยฮีวาซัลลัม ได้กล่าวไว้ว่า :
تَسَحَّرُوا فَإِنَّ فِي السَّحُورِ بَرَكَة
”พวกท่านจงรับประทานอาหารยามค่ำคืนเถิด เพราะในการรับประทานนั้นมีความจำเริญอย่างมากมาย”
[HR. Al-Bukhari dan Muslim dari Anas bin Malik radhiyallahu’anhu]
ความดีที่ได้รับในการรับประทานซาโฮร : [1]
1) การอีบาดะฮฺต่อพระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานาฮูวาตาอาลา
2) การได้ฟื้นฟูซุนนะฮฺของท่านนบีมูฮำหมัด ศ็อลลัลลอฮฮุอาลัยฮีวาซัลลัม
3) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งเมื่ออดอาหาร และสามารถทนได้จนถึงพระอาทิตย์ตกดิน และสามารถทำศาสนกิจอื่นๆ ได้
4) เกิดความง่ายต่อการได้ไปละหมาดซุบฮีพร้อมๆกัน(ญามาอะฮฺ) จึงได้ให้ตื่นรับประทานซาโฮร
5) เพื่อให้แตกต่างจากยะฮูดีและนะศอรอ เช่นท่านนบีได้กล่าวไว้ว่า :
فَصْلُ مَا بَيْنَ صِيَامِنَا وَصِيَامِ أَهْلِ الْكِتَابِ أَكْلَةُ السَّحَ
”ความแตกต่างระหว่าง เรากับยิวและคริสต์นั้นก็คือ การกินอาหารยามค่ำคืนใกล้สว่าง”
[HR. Muslim dari ‘Amr bin Al-‘Ash radhiyallaahu’anhuma]
6) ได้ใช้เวลาที่ดีในการขอดุอาอ์ และได้ขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺในช่วงซาโฮร
เพราะช่วงท้ายของ 1 ใน 3 นั้น คือช่วงเวลาที่ดีในการขอดุอาอ์[2] และในการตื่นซาโฮรนั้น ก็คือ ดุอาอ์อีบาดะฮฺ เพราะการขอดุอาอ์นั้น มี 2 ดุอาอ์ คือ ดุอาอ์อีบาดะฮฺ และดุอาอ์ขออภัยโทษ
เพราะฉะนั้นแล้ว ขาดทุนแน่นอนสำหรับผู้ที่ละเลยในช่วงเวลาซาโฮร และเสียเวลาไปกับการดูโทรทัศน์ ซึ้งเป็นสิ่งที่ไร้สาระ และมะซียัตทั้งหลาย
7) และได้รับการแซ่ซ้องสดุดีจากอัลลอฮฺ ซุบฮานาฮูวาตาอาลา และมาลาอีกัต
ดั่งที่รอซุลลุลลอฮฺได้กล่าวไว้ว่า :
السَّحُورُ أَكْلُهُ بَرَكَةٌ، فَلَا تَدَعُوهُ، وَلَوْ أَنْ يَجْرَعَ أَحَدُكُمْ جُرْعَةً مِنْ مَاءٍ، فَإِنَّ اللهَ عَزَّ وَجَلَّ وَمَلَائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى الْمُتَسَحِّرِينَ
” การรับประทานซาโฮรนั้นคือเต็มไปด้วยความบารอกะฮฺมากมาย พวกเจ้าอย่าได้ละทิ้ง แม้ได้ตื่นขึ้นแค่จิ๊บน้ำเพียงอึกเดียว เพราะแท้จริงแล้ว อัลลอฮฺ ซุบฮานาฮูวาตาอาลา และมาลากีกัตได้สดุดี สำหรับผู้ที่ตื่นมาทานซาโฮร ”
[HR. Ahmad dan Ibnu Hibban dari Abu Sa’id Al-Khudri radhiyallahu’anhu, Shahihul Jaami’: 3683]
การแซ่ซ้องสดุดี ในที่นี้ หมายถึง อัลลอฮฺอภัยโทษให้ ให้ความเมตตา แก่พวกเขา ส่วนมาลาอีกะฮฺ ได้ดุอาอ์ให้พวกเขา และขออภัยโทษจากอัลลอฮฺให้แก่พวกเขา
8) ได้รับผลบุญอันเนื่องจากการทำตามแบบฉบับของท่านรอซูลลุลลอฮฺ.[4]
9) เพิ่มความอดทน ลดความเกียจคร้าน อันเนื่องจากความหิว.[5]
10) เป็นสาเหตุให้ศอดาเกาะฮฺแก่ผู้ที่ด้อยกว่า ไม่มีอาหารกิน หรือกับผู้ที่เท่าเทียมกัน[6]
แหล่งอ้างอิง :
[1] ดูได้ที่ Syarhu Riyadhis Shaalihin, 5/284-285.
[2] ดูได้ที่ Fathul Baari. 4/140.
[3] Sebagaimana telah kami terangkan secara ringkas dalam buku Tauhid, Pilar Utama Membangun Negeri.
[4] ดูได้ที่ Fathul Baari, 4/140.
[5] ดูได้้ที่ Fathul Baari, 4/140.
[6] ดูได้ที่Fathul Baari, 4/140.