สาเหตุของโรคเบาหวาน สมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน ความดัน การดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน MUSLIMTHAIPOST

 

สาเหตุของโรคเบาหวาน สมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน ความดัน การดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน


586 ผู้ชม


สาเหตุของโรคเบาหวาน สมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน ความดัน การดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน

 

 

 

๗ สมุนไพรประจำวัน เพื่อนเบาหวาน

เหตุที่นำความรู้สมุนไพรเพื่อนเบาหวานมาคุยกันในคอลัมน์นี้บ่อยๆ เนื่องจากชาวไทย
ทั้งที่อยู่เมืองหรืออยู่ในหมู่บ้านห่างไกล กำลังเผชิญกับภัยคุกคามใกล้ตัวจากเบาหวาน
อย่างไม่น่าเชื่อ ใครที่คุ้นเคยกับโรงพยาบาลชุมชนย่อมคุ้นเคยกับคลินิกเบาหวาน 
ที่เปิดอย่างน้อย ๑ วันต่อสัปดาห์ ซึ่งมีชาวบ้านรอคิวกันครั้งละหลายร้อยคน ลองหันไป
สำรวจคนรอบข้างตัวคุณ เชื่อว่าจะมีอย่างน้อย ๑ คนที่คุณรู้จักกำลังเป็นเบาหวาน

     การดูแลสุขภาพของผู้เป็นเบาหวานนั้น ในทางวิชาการยอมรับกันแล้วว่า การกินยาลดน้ำตาลอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบสุดท้าย การกินอาหารให้เหมาะสม และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการฝึกฝนด้านจิตใจ เรียนรู้การผ่อนคลายเพื่อให้ห่างไกลความเครียดเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ซึ่งหมายถึงพึ่งยาอย่างเดียวไม่พอ ต้องพึ่งตนเองรู้จักเลือกกินเลือกอยู่
ู่ให้สมดุลจึงอยู่กับเบาหวานได้อย่างมีความสุข

สมุนไพรที่นำเสนอไปในฉบับที่แล้ว ช้าพลู มะระขี้นก ตำลึงและกะเพรา 
และที่เสนอในฉบับนี้ เป็นสมุนไพรใกล้ตัวมีสรรพคุณช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ ซึ่งเป็นตัวเสริมในการแก้เบาหวาน และถือเป็นแนวทางของการเรียนรู้ในการพึ่งตนเอง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดูแลสุขภาพของผู้เป็นเบาหวานได้อย่างดี

เตยหอม เป็นสมุนไพรใกล้ตัวอันดับที่ห้าที่อยากชวนให้ลิ้มลอง เป็นสมุนไพรที่คนไทยรู้จักกันทั่วประเทศ ปรุงเป็นเครื่องดื่มรสอร่อยหอมชื่นใจ ทำเป็นอาหารคาวหวานได้อีกหลายชนิด เช่น ไก่ห่อใบเตย วุ้นใบเตย คนทั่วไปมักรู้จักสรรพคุณทางยาของต้นเตยหอม เป็นชาชงช่วยบำรุงกำลัง 
บำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น ใช้แก้ไข้ แก้อ่อนเพลีย แต่มีคนไม่มากรู้จักนำเอารากเตยหอม ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ลดความดัน และลดเบาหวาน และดูเหมือนว่าเตยหอม
เป็นสมุนไพรที่คนไทยรุ่นเก่ารู้จักใช้เพื่อแก้เบาหวานกันมาก ใช้เป็นสมุนไพรเดี่ยวๆ และอยู่ในตำรับก็มี

ขณะนี้มีการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาในระดับห้องทดลอง พบว่าเตยหอมมีฤทธิ์
ลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต ลดอัตราการเต้นของหัวใจ และขับปัสสาวะ แม้ว่ายังไม่ได้วิจัยถึงขั้นทดลองในคน แต่เตยหอมเป็นตำรับยาที่มีความปลอดภัย และคนทั่วไปหามาใช้ประโยชน์ได้ง่าย ราคาถูก ผู้ที่เป็นเบาหวานหรือไม่เป็น
ก็สามารถทำเครื่องดื่มรสอร่อยดื่มกินได้

ถ้าว่ากันตามตำรา ใช้รากเตยหอม ๑ ขีด สับเป็นท่อนเล็กๆ ใส่น้ำประมาณ ๑ ลิตร ต้มให้เดือดแล้วหรี่ไฟลง เคี่ยวต่อไป ๑๕-๒๐ นาที ดื่มครั้งละครึ่งแก้ว วันละ ๓ เวลา เวลาต้มจะปรุงแต่งใส่ใบเตยหอมให้มีสีสันและเพิ่มกลิ่นหอมให้ชวนดื่มก็ได้

สมุนไพรใกล้ตัวคนไทยอีกชนิดหนึ่งคือ ว่านหางจระเข้ แม้ไม่ใช่พืชท้องถิ่น
ดินแดนสยาม แต่คนไทยรู้จักกันทั่วไป พบเห็นการปลูกไว้ในกระถางหน้าบ้านทั่วทุกภาค ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรที่ใช้กันมาตั้งแต่ยุคกรีก ราวๆ กว่า ๓,๕๐๐ ปีมาแล้ว สมัยนั้นมีบันทึกการใช้ไว้อย่างละเอียด สมัยนี้ก็ยังนิยมใช้ในสรรพคุณไม่แตกต่างกัน ตั้งแต่ใช้รักษาบาดแผลสด แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก รักษาโรคผิวหนังต่างๆ ผื่นคัน 
ผิวหนังผุผอง ถูกแดดแผดเผา ใช้บำรุงผิว บำรุงเส้นผม แก้โรคริดสีดวง เป็นต้น

ว่านหางจระเข้จึงเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีการศึกษาวิจัยกันมาก และพัฒนาเป็น
ผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องสำอาง ในการศึกษาทางยาพบสิ่งที่น่าสนใจว่า ว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ในการลดน้ำตาลในเลือดในสัตว์ทดลองและในคนด้วย ยังมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย

วิธีการใช้ว่านหางจระเข้อย่างง่ายๆ ให้ตัดกาบใบว่านหางจระเข้ ที่ปลูกมาอย่างน้อย ๑ ปี นำมาล้างน้ำให้สะอาด ปอกเปลือกออก จะได้เนื้อวุ้นใสๆ ให้รับประทานวันละ ๑๕ กรัม ทุกวันติดต่อกันอย่างน้อย ๔ สัปดาห์ ควรกินเนื้อวุ้นสดๆ เนื่องจากมีการศึกษาพบว่า เนื้อวุ้นที่เก็บไว้จะมีสรรพคุณลดลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเคล็ดลับในการเตรียมยา คือ ถ้าตัดกาบใบมาทั้งกาบ ให้ตัดเป็นท่อนในขนาดที่จะกินในวันนั้น ที่เหลือไม่ควรปอกเปลือก และให้เก็บไว้ในตู้เย็น ควรกินให้หมดภายใน ๓-๕ วัน ถ้าต้องการกินต่อจึงไปตัดจากต้นสด

สมุนไพรใกล้ตัวอันดับเจ็ด เป็นสมุนไพรอินเทรนด์ตามกระแสการดื่มกาแฟสด ซึ่งสูตรกาแฟชนิดหนึ่งจะมีการปรุงด้วยอบเชยเพื่อเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอม คนรุ่นใหม่จึงรู้จักอบเชยมากขึ้น ต้นอบเชยมีหลายชนิด แต่ที่คนไทยรู้จักกันดีและนำมาใช้ปรุงยาหรือใช้ปรุงอาหารมักจะเป็น อบเชยจีน 
เพราะมีกลิ่นหอม เปลือกมีความบาง แต่ถ้าหาอบเชยจีนไม่ได้ จะใช้อบเชยไทย 
อบเชยญวน และอบเชยอื่นๆ แทนก็ได้ มูลนิธิสุขภาพไทยเคยเขียนเรื่องราว
อบเชยแก้เบาหวานไว้อย่างละเอียดแล้ว ผู้อ่านสามารถสืบค้นข้อมูลในเวบไซต์
ของมูลนิธิได้ ( www.thaihof.org )

ในที่นี้ขอย้ำเตือนว่าอบเชยเป็นสมุนไพรของชาวเอเซียที่คนทางยุโรปและอเมริกา
ให้ความสนใจมาก การเผยแพร่สรรพคุณลดน้ำตาลในเลือดนี้ก็มาจากการตีพิมพ์
ผลงานทางวิชาการในวารสาร New Scientist และยังมีผลรายงานการศึกษาในที่อื่นๆ 
อย่างต่อเนื่อง พอสรุปได้ว่า ในอบเชยมีสารที่ทำให้เซลล์ไขมันตอบสนองต่อการ
ทำงานของอินซูลินได้มากขึ้น ทำให้อินซูลินทำงานได้ดีขึ้น และสารในอบเชย
ยังมีฤทธิ์คล้ายอินซูลิน คือช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วย

วิธีกินอย่างง่ายๆ ให้กินผงอบเชยจีนครั้งละครึ่งช้อนชา วันละ ๒ เวลา เช้าและเย็น โดยอาจผสมผงอบเชยจีนในเครื่องดื่มนม โกโก้ โยเกิร์ต ก็ได้ หรือบรรจุผงอบเชยจีน
ในแคปซูล ควรรับประทานติดต่อกันอย่างน้อย ๒๐ วัน จึงจะเห็นผล

สมุนไพรที่นำเสนอไปทั้ง ๗ ชนิด ช้าพลู มะระขี้นก ตำลึง กะเพรา เตยหอม 
ว่านหางจระเข้ 
และ อบเชยจีน เป็นสมุนไพรที่คนทั่วไปรู้จัก แม้แต่เด็กแนว

เด็กอินดี้หรือเด็กเรียนก็ยังรู้จักไม่ต้นใดก็ต้นหนึ่ง สมุนไพรเหล่านี้เป็นของใกล้ตัว และมีการศึกษาวิจัยพบว่าช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ จึงเป็นทางเลือกใกล้ตัว
ให้นำมาใช้ให้เหมาะกับรสนิยมและความชอบส่วนตัว เพื่อเป็นเพื่อนเบาหวานได้ทุกวัน

 

แหล่งที่มา : blog.eduzones.com

อัพเดทล่าสุด