เมื่อไหร่สมควรขัดใจเจ้านาย?
ยิ้มสู้ขัดใจเจ้านายยังไงโดยไม่ตกงานในสถานการณ์ล่อแหลมต่อไปนี้ |
เดวิด สไตเบล ผู้เขียนหนังสือ When Talking Makes Things Worse! Resolving Problems When Communication Fails บอกว่าโฮเมอร์ ซิมพ์สัน ทำถูกแล้ว ประโยคประจำตัวที่เขาพูดอย่างร่าเริงว่า ความคิดแจ๋วครับ เจ้านาย! รับประกันความสำเร็จในทุกอาชีพ หรือพูดได้ว่าสำเร็จเป็นส่วนใหญ่นั่นล่ะ แต่ที่สำคัญพอกันคือรู้ว่าควรปฏิเสธเจ้านายถ้าคุณกำลังถูกเอาเปรียบ แต่การปฏิเสธไม่ได้หมายถึงวิธีแลบลิ้นปลิ้นตาและกระทืบเท้าปึงปัง แต่หมายถึงการจูงใจเจ้านายให้เชื่อว่าคุณถูกต้องโดยไม่พูดว่าเจ้านายผิด ต่อไปนี้คือสถานการณ์ล่อแหลม 7 รูปแบบที่คุณสมควรบอกปัดเจ้านายเพื่อรักษาจิตสำนึก ความนับถือตัวเองและอาชีพของคุณไว้ สถานการณ์ล่อแหลม #1 วิธีปฏิเสธแบบมือโปร : อธิบายอย่างสงบว่าคุณอึดอัดใจที่จะทำตามที่เธอขอมา ช่วงที่เฮมเริ่มทำงานใหม่ๆ เจ้านายเคยกดดันให้เฮมเอาผลการสำรวจความพอใจของลูกจ้างที่เป็นความลับมาให้เธอดู หลังจากเจ้านายกวนใจอยู่หลายอาทิตย์ เฮมก็ยื่นคำขาดว่า คุณไล่ฉันออกก็ได้ ไม่อย่างนั้นก็เลิกพูดถึงเรื่องนี้ เพราะฉันจะไม่เอาข้อมูลให้คุณดู เฮมบอกว่า ฉันเดินออกจากห้องทำงานของเธอ ใจก็สงสัยว่าพรุ่งนี้ฉันจะตกงานหรือเปล่า แต่ฉันต้องทำสิ่งที่ถูกต้องไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร ผลข้างเคียง : ถ้าคุณโชคดี เจ้านายจะรู้ตัวว่าล้ำเส้นและจะเป็นฝ่ายถอยเอง เช่นกรณีของเฮม ถ้าโชคร้าย คุณอาจถูกเหม็นขี้หน้าได้ เจ้านายที่ผูกใจเจ็บอาจไล่คุณออกด้วยเหตุผลเล็กๆ น้อยๆ ควรปกป้องตัวเองด้วยการเก็บบันทึกเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้ เพื่อแสดงให้ฝ่ายบุคคลดูในกรณีที่คุณถูกกล่าวหาผิดๆ ทีหลัง สถานการณ์ล่อแหลม #2 วิธีปฏิเสธแบบมือโปร : ไม่ต้องบ่นว่ากำหนดเวลานั้นเป็นไปไม่ได้ แต่ให้บรรยายว่าโครงการนี้มีอะไรต้องทำบ้าง อธิบายว่าโครงการที่คล้ายกันก่อนหน้านี้ใช้เวลานานแค่ไหน รายงานสภาวะการทำงานของคุณในเวลานี้ จากนั้นให้ขอเวลาเพิ่ม แต่ถ้ากำหนดเวลาไม่สามารถเลื่อนได้จริงๆ ให้ขอคนช่วยเหลือชั่วคราว ผลข้างเคียง : คุณอาจถูกมองว่าไร้ประสิทธิภาพ ดังนั้นอย่าใช้วิธีนี้เวลาที่คุณอยากหลบงานกลับบ้านไปดูละครเรื่องใหม่ ข้อดีคือ เจ้านายอาจชื่นชมความซื่อตรงของคุณ ที่ดีที่สุดคือคุณจะแสดงให้เห็นว่าคุณพร้อมทำงานอะไรก็ได้ แต่ก็รู้ดีว่างานนั้นต้องทำอะไรบ้างถึงจะสำเร็จ นายจ้างส่วนใหญ่ชื่นชมลูกจ้างประเภทนี้ แดเนียลสันบอกว่า ผมส่งเสริมลูกน้องที่สามารถตัดสินได้ว่างานนั้นๆ จะใช้เวลานานแค่ไหน สถานการณ์ล่อแหลม #3 วิธีปฏิเสธแบบมือโปร : บอกปัดเขาตรงๆ แต่นุ่มนวลประมาณว่า ฉันชอบคุณนะ แต่ฉันไม่คิดจะปนเรื่องงานกับความสุขส่วนตัว และถึงยังไงคุณก็คือเจ้านายของฉัน ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนไป บางทีเราอาจกลับมาพิจารณาเรื่องนี้กันใหม่ ผลข้างเคียง : เขาอาจโต้ตอบคุณด้วยการทำตัวแย่ๆ แต่ผลอาจออกมาแบบเดียวกันนี้ได้ถ้าคุณเดทกับเขาแล้วเลิกกันทีหลัง พยายามเก็บบันทึกบทสนทนาระหว่างคุณเอาไว้ จะได้มีหลักฐานส่งให้แผนบุคคล สถานการณ์ล่อแหลม #4 วิธีปฏิเสธแบบมือโปร : ตอบรับงานนั้น แต่หลังจากผ่านไปสองสามวัน ขอให้เจ้านายช่วยลำดับความสำคัญของงานให้คุณ ประมาณว่า หนูมี 3 โครงการใหญ่ และ 10 งานย่อยอยู่ในมือตอนนี้ค่ะ หนูควรมุ่งไปที่งานไหนก่อนคะ? เมื่อเจ้านายเห็นว่าคุณเอาใจใส่และกำลังพยายามเต็มที่ เธอก็จะมอบหมายงานเล็กๆ ให้คนอื่นทำ ผลข้างเคียง : จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีก ตราบใดที่คุณไม่ตอบปฏิเสธไปเฉยๆ สถานการณ์ล่อแหลม #5 วิธีปฏิเสธแบบมือโปร : เจ้านายมองว่าการโยกย้ายครั้งนี้คือโอกาสดี ดังนั้นบอกเธอว่าคุณอยากขอคิดดูอีกสองสามวัน สไตเบล บอกว่า จากนั้นอธิบายอย่างจริงใจว่าทำไมคุณไม่เหมาะกับตำแหน่งนั้น และเสนอทางเลือกที่ดีต่อทั้งสองฝ่ายว่า ฉันขอบคุณจริงๆ ค่ะกับข้อเสนอนี้ แต่จุดแข็งของฉันคือการทำวิจัยและพัฒนากลยุทธ์การตลาด ฉันคิดว่าฉันจะใช้ความสามารถของตัวเองได้ดีที่สุดถ้าอยู่ในตำแหน่งเดิมและมุ่งสร้างฐานลูกค้า เมื่อคุณปฏิเสธโดยใช้การแจกแจงในแง่บวก คุณจะดูเหมือนร่วมมือกับเจ้านายอยู่ต่างหาก ผลข้างเคียง : สไตเบล เตือนว่า คุณอาจไม่ได้รับการพิจารณาในการเลื่อนขั้นครั้งต่อไป ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณควรไปสมัครงานใหม่จะดีกว่า สถานการณ์ล่อแหลม #6 วิธีปฏิเสธแบบมือโปร : ขอเจ้านายมอบหมายงานอื่น ถ้าคุณจะปฏิเสธ คุณควรเสนอตัวทำงานด้านอื่น ผลข้างเคียง : การไม่ทำตามคำสั่งอาจทำให้คุณถูกไล่ออก ถูกลดขั้น ไม่ขึ้นเงินเดือนหรือไม่ได้รับพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง เจ้านายอาจบอกว่า ถ้าคุณไม่ชอบสินค้าที่เรากำลังขาย แล้วคุณมาอยู่นี่ทำอะไร? สุดท้าย คุณอาจยอมทำตามเพื่อสงบศึก แต่ถ้าคุณไม่ยึดมั่นกับคุณค่าที่คุณเชื่อ คุณจะทำงานอย่างไม่มีความสุข และกระทบต่อคุณภาพของงานได้ สถานการณ์ล่อแหลม #7 วิธีปฏิเสธแบบมือโปร : บอกเจ้านายว่าคุณไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวมาเป็นข้ออ้างเลย แล้วพูดประมาณว่า ช่วง 2 เดือนที่มีปัญหานี้ ฉันจะทำงานประจำให้เต็มที่ แต่จะไม่ทำงานล่วงเวลา ต้องขอโทษด้วย แล้วฉันจะเร่งงานให้มากขึ้นทันทีที่แก้ปัญหาทางบ้านได้แล้ว และอย่าลืมทุ่มเทกับงานมากเป็นพิเศษ พยายามมาเร็ว และกินมื้อเที่ยงที่โต๊ะ ผลข้างเคียง : คุณอาจพลาดงานที่อยากทำ หรืองานที่น่าสนใจ แต่การรับงานฉุกเฉินไม่ได้ทำให้อาชีพของคุณพุ่งทะยาน ถ้าคุณยังทำงานได้ดีแม้จะมีปัญหาทางบ้าน เจ้านายต้องอยากได้คนแบบคุณร่วมทีมแน่ |
ที่มา : โพสต์ ทูเดย์