คำแนะนำในการสมัครงาน
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง แหล่งงาน การเขียนใบสมัครงาน จดหมายสมัครงาน ใบประวัติส่วนตัว การสัมภาษณ์งาน
แหล่งงาน 1.จากสื่อมวลชน ผู้หางานต้องหมั่นติดตามข่าวการรับสมัครงานทางวิทยุ โทรทัศน์ นิตยสารหนังสือพิมพ์ แต่งานเหล่านี้มักมีผู้สมัคร กันมากเพราะการเผยแพร่เป็นไปอย่างกว้างขวางดังนั้นผู้สมัครต้องใช้ความสามารถมากเพื่อให้ได้งาน 2.จากสำนักงานจัดหางานของส่วนราชการ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และสำนักจัดหางานของจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศจะมีแฟ้มตำแหน่งงาน พร้อมกับระบุคุณสมบัติของตำแหน่งเหล่านั้น เช่น เพศ อายุ วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ พร้อมทั้งระบุสถานที่ทำงาน ค่าตอบแทน หากสนใจตำแหน่งใด สามารถสมัครกับเจ้าหน้าที่ได้ทันที และเมื่อมีบริษัทติดต่อมาก็ไม่ต้องเสียค่านายหน้าแต่อย่างใด เพราะเป็นบริการของรัฐ หากไม่ได้รับการบรรจุ เจ้าหน้าที่จัดหางานก็จะงานอื่นที่เหมาะสมกับคุณสมบัติของคุณให้อีกครั้ง 3.จากสำนักจัดหางานของเอกชน สำนักงานจัดหางานของเอกชน มีวิธีการจัดหางานให้คุณเหมือนกับส่วนราชการ แต่มีข้อแตกต่างกันที่ว่า เมื่อคุณได้งานแล้วคุณตัองเสียค่านายหน้าจัดหางานแก่สำนักงานนี้ ประมาณ 25 % ของเงินเดือนแรก 4.จากการจัดงานนัดพบแรงงาน สำนักงานจัดหางานของทุกจังหวัด จะมีการจัดงานนัดพบแรงงานตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น สถานศึกษา หอประชุม ศาลากลาง จะมีการเชิญบริษัท ห้างร้านต่าง ๆ มาตั้งโต๊ะรับสมัครงานโดยตรง 5.จากการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานต่าง ๆ มีบริษัท ห้างร้านที่ส่งจดหมายแจ้งตำแหน่งงานว่างที่ต้องการไปยังสถานศึกษา หรือหน่วยงานของรัฐบาลเพื่อประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วไปทราบ คุณสามารถดูได้ที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานนั้น ๆ ได้ 6.จากสมุดโทรศัพท์ เปิดดูสมุดโทรศัพท์ จะสามารถเลือกประเภทกิจการที่สนใจได้ และตรวจดูหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อฝ่ายบุคคลเพื่อสอบถามตำแหน่งงานว่าง บางครั้งแม้ไม่มีตำแหน่งงานว่างแต่เจ้าหน้าที่อาจให้คุณเขียนใบสมัครทิ้งไว้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องการพนักงานเพิ่ม เขาก็จะเรียกคุณไปสอบสัมภาษณ์ 7.จากป้ายโฆษณาริมทาง ผู้รับสมัครงานเป็นจำนวนมากที่ ชอบความรวดเร็วและค่าใช้จ่าย ความยุ่งยาก ด้วยการเขียนใบประกาศตำแหน่งงานที่ต้องการ แล้วนำไปแปะไว้ตามป้ายโฆษณาริมทางบ้าง หน้าร้าน เสาไฟ บนกำแพง และบนสารพัดที่ที่สามารถติดประกาศได้เพราะฉะนั้นเมื่อเดินทาง ผ่านสถานที่เหล่านี้ควรสังเกตไว้บ้าง ไม่แน่คุณอาจได้งานจากที่เหล่านี้ก็ได้ 8.จากการโฆณาตัวเอง นอกจากการหางานตามแหล่งต่าง ๆแล้ว ผู้หางานควรช่วยตัวเองด้วยการลงโฆษณาตัวเองตามสื่อที่เกี่ยวกับ การหางานทำ โดยระบุเพศ อายุ การศึกษา ประวัตการทำงาน เผื่อมีนายจ้างเปิดมาเจอ อาจสนใจและเรียกตัวคุณได้ 9.จากการเดินเข้าไปสมัคร มีหลายคนที่ได้งานด้วยวิธีนี้ ถ้าบังเอิญช่วงนั้น บริษัทต้องการตำแหน่งที่ตรงกับคุณแทนคนเก่าที่ลาออกไป คุณก็มีสิทธิ์ได้งานทำหรืออาจเขียนใบสมัครทิ้งไว้ คุณอาจได้รับการคัดเลือกไปทดสอบในอันดับแรก ๆ 10.จากการสร้างงานด้วยตนเอง เหมาะสมกับผู้ที่มีประสบการณ์พอสมควร ถ้ายังไม่มีประสบการณ์และต้องการทำงานส่วนตัวในด้านนั้น ๆ ผู้ต้องการสร้างงานก็ควรไปสมัครงานหาประสบการณ์ ในร้านเล็ก ๆ แบบเดียวกับที่เราต้องการทำ สัก 1-2 ปี เมื่อเรียนรู้กลเม็ดต่าง ๆ มาพอตัวแล้วจึงตั้งกิจการของตนต่อไป << กลับด้านบน >>
การเขียนใบสมัครงาน ในกระบวนการสมัครเข้าทำงานนั้น นับได้ว่าใบสมัครเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพราะเป็นสิ่งแรกที่นายจ้างใช้พิจารณาว่า จะสนใจบุคคลนั้นหรือไม่ใบสมัครที่ดีเด่นเท่านั้น จึงจะได้รับการคัดเลือกมาสอบสัมภาษณลักษณะทั่วไปของใบสมัครงาน โดยทั่วไปใบสมัครงาน จะมีความยาวประมาณ 2-4 หน้า มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษประกอบด้วยหัวข้อ ดังต่อไปนี้ 1. ตำแหน่งงานที่สมัครและเงินเดือนที่ต้องการ 2. รายละเอียดส่วนตัว 3. รายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัว 4. ประวัติการศึกษา 5. ประวัติการทำงาน 6. เรื่องอื่น ๆ เช่น งานอดิเรก สุขภาพ ความสามารถพิเศษ
ข้อแนะนำในการเขียนใบสมัครงาน 1. ผู้สมัครควรเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อม เช่น ปากกา ยางลบ 2. ควรอ่านคำแนะนำในใบสมัครให้ละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 3. การกรอกใบสมัครต้องให้สะอาดเรียบร้อย และไม่ควรมีรอยขีดฆ่า 4. ควรกรอกใบสมัครให้เต็มทุกช่อง ที่บริษัทถามเพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง 5. ผู้สมัครควรแน่ใจเสียก่อนว่าคำตอบทุกๆคำตอบในใบสมัครสามารถหาหลักฐานมาอ้างอิงได้หากนายจ้างต้องการ 6. ผู้สมัครควรซ้อมทดลองกรอกใบสมัครโดยอาจขอตัวอย่างใบสมัครงานได้จากบริษัทจัดหางาน งานการแนะแนว เพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคยและเป็นการเตรียมข้อมูลเพื่อใช้ในการเขียนใบสมัครจริง
ข้อควรทราบในการกรอกรายละเอียดในใบสมัครงาน 1 .หลุมพรางฝ่ายบุคคล ตามปกติมีไว้ดักผู้ที่ไม่ละเอียดรอบคอบ ขาดการเตรียมตัว เช่น ชื่อ สกุล เขียนแยกช่องกัน ผู้สมัครที่ขาดความรอบคอบ ก็จะเขียนลงในช่องเดียวกัน 2. คำถาม "ตำแหน่งงานที่สมัคร"ควรระบุตำแหน่งที่แน่นอน หรืออาจระบุต่อท้ายว่า "หรือตำแหน่งอื่นที่เหมาะสม" 3. ในกรณีที่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้จริง ๆ เช่น ข้อมูลบุตรหรือภรรยา และคุณยังเป็นโสด ก็ไม่ต้องกรอกอะไรลงไป ให้ใช้วิธีขีด (-) 4. ในการกรอกเกี่ยวกับเงินเดือนที่คาดหวังนั้น ไม่ควรระบุลงไปตรง ๆ แน่นอน เพราะว่าหาก บริษัทไม่สามารถให้ได้ตามที่คุณระบุ อาจทำให้พลาดโอกาสได้ เพราะฉะนั้น ควรระบุอย่างกว้าง ๆ เช่น 6,000-8,000 หรืออาจระบุว่า "ตามตกลง" 5. ในการระบุชื่อบุคคลที่ใช้อ้างอิงในการสมัครงาน ควรเลือกบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการต่าง ๆ ที่ผู้สมัครรู้จักดี และได้ขออนุญาตไว้เรียบร้อยแล้ว หากไม่รู้จักใครจริง ๆ ก็ควรระบุอาจารย์ที่ปรึกษาและอาจารย์ที่เคยสอนผู้สมัคร << กลับด้านบน >>
จดหมายสมัครงาน คือหนังสือหรือจดหมายที่ผู้ต้องการจะทำงานเขียนยื่นต่อสถานประกอบการเพื่อแสดงความจำนงว่าตนเองต้องการจะทำงาน กับสถานประกอบการนั้น ๆ ในตำแหน่งใด โดยปกติจะไม่เขียนเป็นข้อความยืดยาวจดหมายสมัครงานเป็นเพียงจดหมายที่แสดงว่า ผู้ส่งมีความประสงค์อะไรเท่านั้น ข้อดีข้อเสียของการเขียนจดหมายสมัครงาน 1. สะดวก ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย เพราะคุณไม่ต้องเดินทางไปเอง คุณสามารถส่งจดหมายได้คราวละหลาย ๆ บริษัท 2. มีอิสระในการแสดงออก ถ้าคุณมีคุณสมบัติหรือความสามารถ คุณสามารถเขียนบรรยายได้อย่างกว้างขวาง โดยไม่ถูกจำกัดอยู่ตามแบบฟอร์มใบสมัครงาน 3.ส่วนการเขียนจดหมายสมัครงานก็มีข้อเสียเหมือนกัน เช่น เกิดจากความบกพร่อง บรรยายสรรพคุณมากเกินไป เขียนจดหมายยาวเยิ่นเย้อไม่ได้ใจความ แสดงความต้องการเงินเดือนมากเกินไป เป็นต้น << กลับด้านบน >>
ใบประวัติส่วนตัว (RESUME) เป็นเอกสารประวัติย่อของผู้สมัครงานซึ่งบอกให้ทราบถึงประวัติการทำงาน ประวัติการศึกษา และประวัติส่วนตัวอย่างย่นย่อ มีลักษณะดังนี้ 1.โฆษณาตนเองในเรื่องที่เป็นจริงเท่านั้น 2.แสดงความถนัด ความสามารถพิเศษและประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์กับตำแหน่งที่จะสมัคร 3. เป็นข้อความสั้น ๆ และดึงดูดใจ 4. ทำให้นายจ้างทราบข้อมูลต่าง ๆ ทักษะ ความสามารถพิเศษและวัตถุประสงค์ของผู้สมัครงาน เพื่อนำไปสู่การขอพบ เพื่อรับการสัมภาษณ์ในโอกาสต่อไป << กลับด้านบน >>
ความสำเร็จในการสัมภาษณ์ 1. ไม่ควรนัดสัมภาษณ์วันละหลาย ๆ บริษัท เพราะอาจเกิดเหตุติดขัดหลายประการ ผู้สมัครอาจเกิดความเมื่อยล้า 2. อย่าทักทายผู้สัมภาษณ์ด้วยการจับมือถ้าเขาไม่ได้ยื่นมือมาทักทายก่อน 3. ไม่ควรแย่งพูดในขณะให้สัมภาษณ์ หรือถามคำถามมากจนไม่รู้ว่าใครสัมภาษณ์ใคร 4. ไม่ควรสวมแว่นกันแดด หรือใช้มือปิดปากเวลาพูดแสดงถึงความไม่มั่นใจ 5. ไม่ควรแสดงอาการกระตือรือร้นว่าอยากได้งานทำจนดูไม่เป็นเรียบร้อย 6. กรณีผู้สัมภาษณ์เชิญให้นั่ง ควรกล่าวคำขอบคุณ 7. ไม่ควรถามเรื่องเงินเดือนจนกว่าผู้สัมภาษณ์จะถามเองเมื่อเขาพอใจ 8. ไม่ควรพูดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงอาจถูกจับเท็จง่าย ๆ 9. ไม่ควรนินทาเจ้านายเก่า เพราะผู้สัมภาษณ์จะมองคุณในทางลบ 10. ไม่ควรชวนพ่อแม่ เพื่อนหรือแฟนไปรอสัมภาษณ์ด้วย ผู้สัมภาษณ์อาจมองว่าคุณยังไม่มั่นใจในตนเอง |
สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต
กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน