https://cdc.iainponorogo.ac.id/wp-content/gampang-menang/https://cdc.iainponorogo.ac.id/-/demo/https://kebonagung.pacitankab.go.id/-/gampang-menang/
เปิดผลวิจัย Gen Y ใครว่าเป็นตัวป่วนองค์กร MUSLIMTHAIPOST

 

เปิดผลวิจัย Gen Y ใครว่าเป็นตัวป่วนองค์กร


986 ผู้ชม


เปิดผลวิจัย Gen Y ใครว่าเป็นตัวป่วนองค์กร




       *เปิดใจกับ Gen Y ในมุมมองใหม่ ใครว่าเขาและเธอเป็น "ตัวป่วน" องค์กร
       
       *รับรู้และเข้าใจไว้ซะ เพราะคนเหล่านี้จะกลายมาเป็นลูกน้องคุณ
       
       *กับตัวเลขปัจจุบันแค่ 20-30% เท่านั้น ทำเอาผู้บริหารยุค Baby Boomer หรือแม้แต่ Gen X ถึงกับกุมขมับ
       
       *เรียนรู้ และเข้าใจพวกเขา อาจได้ talent ประดับองค์กร

       
       ปัจจุบันพบว่าโครงสร้างประชากรในองค์กรเปลี่ยน โดยเฉพาะช่วงอายุซึ่งเป็นแนวโน้มขององค์กรทั่วโลก เพราะมีกลุ่มคนที่เกิดในช่วงอายุไม่เกินปี พ.ศ. 2521 หรือที่เรียกว่า Generation Y (Gen Y) เริ่มเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ขององค์กรประมาณ 20-30% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งได้สร้างปรากฏการณ์ให้เกิดขึ้นในองค์กรเพราะเป็นการคละเคล้ากันของคน 3 รุ่น Baby Boomer ซึ่งเป็นระดับผู้บริหารและ Gen X ระดับหัวหน้างาน ซึ่งทำเอาคน 2 ยุคหลังถึงกับกุมขมับ และที่หนักไปกว่านั้นมองพฤติกรรมที่แสดงออกของ Gen Y ว่าก้าวร้าว ไม่รอยัลตี้ต่อองค์กร เปลี่ยนงานบ่อย
       
        และกับโจทย์ที่ว่า "จะบริหารคน 3 รุ่นในองค์กรให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร?" ในเมื่อมีแนวโน้มของการเพิ่มขึ้นของสมาชิกใหม่ในองค์กรเป็นกลุ่ม Gen Y และสิ่งสำคัญจะดึงดูดและรักษาคนกลุ่มนี้ไว้ได้อย่างไร
       
        ล่าสุด "บริษัท โนเลจสตอร์ม คอนซัลติ้ง จำกัด" ได้ทำวิจัยในหัวข้อ "ทำความเข้าใจปัจจัย การดึงดูดและ รักษา Gen Y" ใน 3 ปัจจัยหลักคือ 1.ตัดสินใจเลือกงานจากอะไร 2.สิ่งที่ทำให้มีความสุขในงานคืออะไร และ 3.วัฒนธรรมองค์กรที่ชอบ โดยได้มีการนำเสนอข้อมูล Gen Y ในต่างประเทศประกอบไว้อย่างน่าสนใจ
       
       
ดู Gen Y ระดับโลก
       ป่วนองค์กรขนาดไหน

       
        ผลการศึกษาจากงานวิจัยระดับโลก ได้ให้ข้อมูลลักษณะเด่นของ Gen Y ว่า มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แสดงออกทางความคิด การพูด การแต่งกาย มีความอดทนต่ำ ชอบท้าทายกฎระเบียบไม่เฉพาะกฎขององค์กรเท่านั้นแต่รวมถึงแนวปฏิบัติเดิม ยังมีความทะเยอทะยานต้องการประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น คุ้นเคยกับเทคโนโลยี ชอบการเปลี่ยนแปลงมีความกระตือรือร้น มองโลกในแง่ดีและมีไอเดียชอบคิดอะไรนอกกรอบ และชอบถาม “ทำไม” ด้วยความอยากรู้มากกว่าเพียงแค่รับคำสั่ง
       
        โดยเฉพาะความมั่นใจในตัวเองสูง มีผลมาจากการศึกษาและการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ที่พยายามให้ลูกมีความมั่นใจในตัวเอง กล้าแสดงออก ทำให้ Baby Boomer มองว่าก้าวร้าว ขณะที่ Gen X มองว่าชอบโชว์ออฟ ทำให้ไม่เคารพคนอื่นโดยอัตโนมัติ เวลาที่จะเคารพใครจะขึ้นอยู่กับตัวตนของคนคนนั้นจริงๆ ไม่ว่าอายุจะเท่ากัน อายุมากกว่าหรือน้อยกว่าก็ตาม เมื่อเทียบ Gen X จะเคารพผู้ที่มีอายุมากกว่า ผู้ที่อาวุโสกว่า และ Gen Y ยอมรับว่าไม่จงรักภักดีกับองค์กรแต่จงรักกับวิชาชีพ
       
        ผลการศึกษาระบุถึงสิ่งที่ Gen Y ต้องการ คือ ต้องการทำงานที่ตนรัก ต้องการความร่ำรวยและมีชื่อเสียงหรือเป็นบุคคลที่คนให้ความสนใจ รวมถึงต้องการความยืดหยุ่น ต้องการอิสระ ต้องการคำตอบเพราะชอบถาม ต้องการคนฟัง และต้องการโลกส่วนตัว ต้องการลองอะไรใหม่ๆ ให้ชีวิตได้ลุ้น ได้เสี่ยง
       
        แต่ลึกๆ ในใจต้องการบรรยากาศที่เป็นมิตรชอบทำงานเป็นทีมเวิร์ก และชอบทำงานในสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ เช่น ชอบแต่งตัวต้องการทำงานในแวดวงแฟชั่นในองค์กรที่ต้องแต่งตัวไปงานต่างๆ หรือนอนดึกตื่นสาย ต้องการองค์กรที่ยืดหยุ่นในเรื่องเวลา และต้องการให้คนมองว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ บางครั้งองค์กรปฏิบัติกับคนกลุ่มนี้เป็นเด็กอยู่ตลอดเวลาและต้องการโอกาสในการพิสูจน์ความสามารถตนเอง และต้องการความสำเร็จในชีวิตอย่างรวดเร็ว เช่น ได้รับตำแหน่งระดับผู้จัดการเมื่ออายุไม่เกินเลข 2
       
       
จ่ายแรง ท้าทาย สวัสดิการดี
       ปัจจัยดึง Gen Y อยู่มัด

       
        และสำหรับในประเทศไทยนั้น จากผลการสำรวจของ บริษัท โนเลจสตอร์ม คอนซัลติ้ง จำกัด ได้ทำแบบสอบถามจำนวน 1,000 ชุดเป็นกลุ่มจะเข้ามาเป็นพนักงานในองค์กรในช่วง 1-3 ปี
       
        ซึ่งได้ทำการสำรวจใน 3 หัวข้อหลัก 1.ตัดสินใจเลือกงานจากอะไร ? อันดับแรก เลือกงานที่ชอบงานที่ฝันไว้ งานนั้นตอบโจทย์ในอนาคตได้หรือไม่ ต่อมาเลือกประเภทธุรกิจ เช่น แบงก์ต่างชาติ บริษัทคอนซูเมอร์โปรดักส์ที่มีการแข่งขันสูง ธุรกิจวงการแฟชั่น ฯลฯ เพราะเป็นงานที่ท้าทายความสามารถ
       
        2. สิ่งที่ทำให้มีความสุขในงานคืออะไร คือ จ่ายเงินเดือนสูง ประกอบกับงานต้องมีความตื่นเต้น ท้าท้าย และสวัสดิการดี ซึ่งสวัสดิการของ Gen Y เลือกผลตอบแทนที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ เช่น สวัสดิการขึ้นรถฟ้า ใช้บริการ สปา ฟิตเนส
       
        และ 3.เรื่องวัฒนธรรม Gen Y จะมุ่งเน้นความสัมพันธ์ การทำงานเป็นทีม เพราะมองทุกคนเป็นเพื่อนไม่ขัดแข้งขัดขากัน
       
        และเป็นที่น่าสังเกตว่า Gen Y เป็นกลุ่มคนที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี แหล่งข้อมูลที่เลือกเชื่อเว็ปไซส์ ต่อไปคือถามพนักงานที่เคยทำงานในบริษัทนั้นมาก่อนและถามคนอื่นทั่วๆ ไป คือการตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ คำถามส่วนใหญ่ เช่น บรรยากาศการทำงาน สวัสดิการ โอกาสความก้าวหน้าเป็นอย่างไร
       
       
ดึงผลสำรวจสู่การบริหาร
       Gen Y เป็นดาวเด่นได้ง่ายๆ

       
        ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้นำผลสำรวจแปลงเป็นกลยุทธ์ในการบริหารองค์กรสำหรับกลุ่ม Gen Y โดยเฉพาะ 1.การดึงดูด talent องค์กรควรปรับใช้เทคนิคโดยการนำการสื่อสารการตลาดมาใช้ คือ สื่อข้อมูลที่กลุ่มเป้าหมายต้องการได้ยิน เช่น งานในฝัน งานท้าทาย ประเภทธุรกิจดี งานมีความตื่นเต้นอย่างไร ให้บอกไปเลยว่า "ถ้าคุณมาทำงานที่นี่จะทำให้คุณสนุก ตื่นเต้น และจะเก่งภายในข้ามคืน" หรือทำแอดเวอเทอเรียล ให้พนักงานภายในองค์กรเป็นคนที่ออกมาพูดว่าอยู่องค์กรเป็นอย่างไรจะทำให้สามารถสื่ออารมณ์ได้มากกว่า
       
        "แต่ถ้าเกิดองค์กรต้องการคนที่หลาก Generation ต้องนำการสื่อสารการตลาดมาใช้ให้ครบ สื่อถึงความมั่นคง ค่าตอบแทนสูง การเติบโตเร็ว งานที่ตื่นเต้น คือคนฟังแล้วอยากจะมาทำซึ่งเป็นเทคนิคของการดึงดูด"
       
        2.การรักษา ส่วนใหญ่ผิดพลาดกันมากโดยเฉพาะกรณีที่ Gen Y ลาออก มักชอบให้ข้อมูลรวมเพื่อรักษาความสัมพันธ์องค์กร ซึ่งเหตุผลที่ Gen Y ลาออกพบว่า เป็นการหนีนาย หนีบรรยากาศ และก่อนการลาออกระหว่าง 3-6 เดือน จะส่งผลต่อผลประกอบการขององค์กรเพราะงานที่ถดถอย หากผู้บริหารรักษาไว้ด้วยการจ่ายเงินที่ดี ต้องเลือกจ่ายให้กับ Gen Y ดาวเด่นที่มีผลงานดี ส่วนเรื่องของงานสามารถทำให้ตื่นเต้นได้ คือ มอบหมายโครงการหรือโปรเจกต์ให้รับผิดชอบร่วมกับคนอื่นได้ จะช่วยให้เขาสามารถปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ด้วย
       
        3.การบริหารวัฒนธรรม ต้องตอบทุก Generation เช่น Baby Boomer จะมีรอโยตี้มากกับองค์กร จะใส่วัฒนธรรมอะไรที่สะท้อนความเป็นคนกลุ่มนี้ ส่วน Gen X มุ่งมั่นทำงาน สร้างผลงาน มุ่งมั่นความเป็นเลิศ ส่วน Gen Y อะไรที่เกี่ยวข้องกับงานมากๆ จะเกิดการเย็นชา ควรต้องใส่ เช่น peple care จะทำให้องค์กรแฟรนรี่กับทุก Generation
       
        ส่วนการสร้างความผูกพันของ Gen Y ให้เกิดกับองค์กรได้นั้น หัวหน้าต้องเป็นฝ่ายปรับเข้าหา มีลูกล่อ ลูกชน และอยู่ระหว่างกลางของการเป็นหัวหน้างานกับพี่สาว คือ การเป็นพี่เลี้ยง สอนงาน ให้ประสบการณ์เป็นสิ่งที่ Gen Y ต้องการมาก
       
        4. การชมเชยเฉพาะตัว หัวหน้าต้องรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน ต้องการอะไร ชอบไม่ชอบอะไร จะได้บริหารและชมเชยในแบบที่เขาเป็น เพราะเชื่อในสิ่งที่ว่าทำดีต้องมีคนเห็น นอกจากนี้สนับสนุนให้มีแก๊งในที่ทำงานเพราะการมี Community ในที่ทำงานจะทำให้ลาออกยาก เพราะจะเริ่มผูกพัน
       
        5.Employee Branding เป็นการสร้างความพึงพอใจกับพนักงานในองค์กรหรือผู้ที่จะเข้ามาเป็นพนักงานใหม่ สามารถสร้างกิจกรรมผ่านเว็ปไซส์โดยการตั้งกระทู้เพื่อโต้ตอบ 2 ทางให้ความรู้ขององค์กรและความรู้ทั่วไปเช่นเตรียมตัวก่อนสัมภาษณ์งาน
       
        ฉะนั้นกับการบริหาร Gen Y รับรู้และเข้าใจ แปลงเป็นกลยุทธ์การบริหารงานบุคคลเชื่อว่าสามารถหาดาวเด่นประดับองค์กรได้อีกด้วย

โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์

อัพเดทล่าสุด