ผลสำรวจภาวะผู้นำสมัยใหม่ต้องพัฒนากลยุทธ์ควบคู่พัฒนาคน


845 ผู้ชม


ผลสำรวจภาวะผู้นำสมัยใหม่ต้องพัฒนากลยุทธ์ควบคู่พัฒนาคน




      - ผลสำรวจแนวคิดองค์กรชั้นนำทั่วโลกต่อภาวะผู้นำสมัยใหม่ จากความร่วมมือระหว่างสถาบัน AMA และ HRI
       
        - การเปลี่ยนแปลงทางด้านลูกค้า-ตลาด-นวัตกรรม-ความแตกต่างภูมิภาค ล้วนแล้วแต่มีผลกระทบต่อภาวะผู้นำ
       
        - วัฒนธรรมองค์กรมีผลทำให้ภาวะผู้นำ "เปรี้ยง" หรือ "แป๊ก" ได้ทุกเมื่อ
       
        - ชี้ผู้นำวันนี้และอีก 10 ปีข้างหน้า ต้องเด่นในเรื่อง "การ
       พัฒนากลยุทธ์" และ "ทักษะการสื่อสาร"

       
        ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ จะเป็นอย่างไรถ้าหากขาดภาวะผู้นำ
       
        มหานครทั้งหลายจะเกิดขึ้นได้หรือไม่หากปราศจากผู้นำ
        ปวงชนทั้งหลายจะหลอมรวมกันเป็นชาติได้หรือไม่
        จะมีความพยายามใดหรือไม่ที่บรรลุผลหากปราศจากภาวะผู้นำ
       
        คำตอบคือ ไม่
       
        จึงไม่น่าประหลาดใจว่า ภาวะผู้นำเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ
       เป็นลำดับต้นๆ สำหรับองค์กรในยุคปัจจุบันและยังคงจะเป็นเช่นนี้ต่อไปในอนาคต
       
        กลางปีที่ผ่านมา American Management Association (AMA) และ Human Resource Institute (HRI) สหรัฐอเมริกาได้ทำการสำรวจหัวข้อ "การพัฒนาภาวะผู้นำในประเทศต่างๆ" มีจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 1,573 ราย ภายใต้เครื่องมือการจัดการที่เรียกว่า Leadership Development Survey
       
        โดยแบ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายจากสหรัฐอเมริกา 667 ราย ยุโรป 405 ราย (328 รายมาจากยุโรปตะวันตกและ 77 รายมาจากยุโรปตะวันออก) แคนาดา 284 ราย เอเชีย 153 ราย ละตินอเมริกา 33 รายและตะวันออกกลาง 19 ราย
       
        กลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจชุดนี้กระจายอยู่ในหน้าที่งานที่แตกต่างกันออกไปค่อนข้างกว้าง แม้ว่าผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่จะทำงานในสายทรัพยากรมนุษย์/ธุรการ โดยคิดเป็น 27.1% งานบริหารทั่วไป 24.2% ฝ่ายปฏิบัติการ 14.3% การตลาด 9.8% การเงิน 8.3% ฝ่ายขาย 7.4% ฝ่ายดูแลระบบ/IT 6.0% และฝ่ายต่างประเทศอีก 2.9%
       
        ประเด็นสำคัญของการสำรวจครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่ 12 คำถามที่ทะลุทะลวงไปถึงภาวะผู้นำที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดในสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลง
       
       1. อะไรคือแรงผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อภาวะผู้นำ
       
       2. องค์ประกอบใดของวัฒนธรรมองค์กรและกระบวนการดำเนินงานขององค์กรที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาภาวะผู้นำอย่างมีประสิทธิผล
       
       3. ความสามารถด้านภาวะผู้นำข้อใดที่สำคัญที่สุดในยุคปัจจุบัน
       
       4. ความสามารถด้านภาวะผู้นำข้อใดที่จะสำคัญมากที่สุดในอีก 10 ปีข้างหน้า
       
       5. องค์กรมีการนำความสามารถด้านภาวะผู้นำไปใช้ในกระบวนการดำเนินงานต่างๆ อย่างเช่น การประเมินผู้นำ การให้ข้อมูลป้อนกลับแบบ 360 องศา การกำหนดค่าตอบแทน ฯลฯ มากน้อยเพียงใด
       
       6. เราจะประเมินความมีประสิทธิผลของโครงการพัฒนาภาวะผู้นำได้อย่างไร
       
       7. การบริหารและจัดสรรงบประมาณให้แก่การพัฒนาภาวะผู้นำจัดทำในระดับใด
       
       8. อะไรคือความต้องการที่สำคัญในด้านการพัฒนาภาวะผู้นำ
       
       9. อะไรคืออุปสรรคที่สำคัญมากสำหรับการพัฒนาผู้นำ
       
       10. คุณลักษณะด้านภาวะผู้นำที่สำคัญที่สำคัญต่อการดำเนินงานตามกลยุทธ์ขององค์กรท่านมากที่สุดคืออะไร
       
       11. เครื่องมือสำหรับการพัฒนาภาวะผู้นำชิ้นใดที่ถูกใช้กันอย่างกว้างขวางมากที่สุด
       
       และ 12. องค์กรมองการพัฒนาภาวะผู้นำในแง่ใด มองว่าเป็นการฝึกอบรมที่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายหรือมองว่าเป็นการลงทุน
       
       แรงผลักดันแห่งการเปลี่ยนแปลง
       
        อะไรคือแรงผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่จะส่งผลกระทบต่อภาวะผู้นำ จากผลการสำรวจชี้ชัดว่า 5 ข้อแรกที่มีคะแนนนำมาสูงสุดคือ
       
       1. ลูกค้าต้องการสินค้าและบริการที่มีคุณภาพจากการที่โลกก้าวไปสู่ยุคของตลาดระดับโลก ที่ทำธุรกิจแบบธุรกิจต่อธุรกิจ และธุรกิจต่อผู้บริโภคโดยตรง บริษัทที่ประสบความสำเร็จคือ ยอมทำสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อให้สามารถส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพตามที่ลูกค้าต้องการให้แก่ลูกค้าด้วยราคาที่ประหยัดและคุ้มค่าสำหรับลูกค้ามากที่สุด
       
        2. ความรวดเร็วของตลาดและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน บรรยากาศการแข่งขันระดับโลกที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเอื้อนั้นเป็นตัวเร่งความเร็วในการเปลี่ยนแปลงของตลาดและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน วงจรอายุของสินค้าลดสั้นลงและบริษัทต่างๆ ก็ต้องพยายามเอาชนะคู่แข่งด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการที่ดีที่สุดและใหม่ล่าสุดตามที่ผู้บริโภคต้องการ
       
        3. นวัตกรรมและ "เครือข่ายนักประดิษฐ์สติเฟื่อง" ในยุคนี้ ความคิดที่ดีๆ ไม่ได้เกิดจากการทำงานของคนเพียงคนเดียวอีกต่อไปแล้ว หากแต่เกิดจากการทำงานเป็นระบบของเครือข่ายของบรรดา "นักประดิษฐ์สติเฟื่อง" ที่ทำการแก้ปัญหาและสรรสร้างความคิดอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาพร้อมๆ กัน อย่างเช่น ระบบลีนุกซ์ที่ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดเป็นเจ้าของแต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยบรรดานักเทคนิคจากมุมต่างๆ ของโลก C.K. Prahalad และ V. Ramaswamy ได้ยกตัวอย่างไว้ในหนังสือที่ชื่อ The Future of Competition ว่าในอนาคตมีแนวโน้มว่าบริษัทต่างๆ และลูกค้าจะ "ร่วมกันสรรสร้าง" สินค้าและบริการทั้งหลาย
       
        4. ความแตกต่างตามภูมิภาค ขณะที่ผู้ตอบแบบสำรวจในภูมิภาคตะวันออกกลางเลือกให้ "การก่อการร้าย" เป็นหัวข้อที่มีความสำคัญมากที่สุดเป็นลำดับที่สาม (แต่อยู่ในอันดับที่สิบสองเมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด) ผู้ตอบแบบสอบถามในยุโรปตะวันตกจัดให้ "การควบรวมกิจการ" อยู่ในลำดับที่สี่ (แต่อยู่ในอันดับที่เก้าเมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด)
       
       องค์ประกอบทางวัฒนธรรม
       
        องค์ประกอบใดของวัฒนธรรมองค์กรและกระบวนการดำเนินงานขององค์กรที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาภาวะผู้นำอย่างมีประสิทธิผล ผลสำรวจบ่งชี้ว่ามีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ข้อของวัฒนธรรมองค์กรและกระบวนการดำเนินงานขององค์กรที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาภาวะผู้นำอย่างมีประสิทธิผลคือ 1. กลยุทธ์การพัฒนาภาวะผู้นำ 2. การสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง และ 3. การวางแผนสืบทอดตำแหน่งงาน
       
        แม้ว่าหัวข้อ "กลยุทธ์การพัฒนาภาวะผู้นำ" จะได้คะแนนสูงสุด แต่คนที่เคยมีประสบการณ์อย่างโชกโชนจะรู้ดีว่า "การสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง" ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญอย่างขาดไม่ได้สำหรับการพัฒนาและดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์การพัฒนาภาวะผู้นำทั้งหลาย ผู้บริหารระดับสูงต้องเห็นความเชื่อมโยงระหว่างการพัฒนาและการดำเนินงานตามกลยุทธ์เชิงธุรกิจและมีความสามารถในการทำกิจกรรมเหล่านั้น
       
        ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะพบว่าทีมผู้บริหารระดับสูงไปประชุมนอกสถานที่กันเป็นเวลาสามวันร่วมกับที่ปรึกษาค่าตัวแพงเพื่อพัฒนากลยุทธ์ และได้กลยุทธ์ที่เขียนเรียบร้อยเป็นลายลักษณ์พร้อมใส่แฟ้มแจกจ่ายให้แก่พนักงานแต่กลยุทธ์ดังกล่าวกลับไม่ค่อยได้พิจารณาถึงทรัพยากรบุคคลที่จำเป็นต่อการดำเนินงานตามกลยุทธ์เชิงธุรกิจที่สร้างขึ้นมา ที่จริงแล้วนี่ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ยังไม่ครบถ้วนเนื่องจากยังไม่ได้สะท้อนถึงความเป็นจริง
       
        หัวข้อที่ได้คะแนนเป็นอันดับที่สี่สำหรับการพัฒนาภาวะผู้นำก็คือ "การตระหนักว่าผู้นำมีหน้าที่พัฒนาผู้นำคนอื่นๆ" สิ่งที่ยากก็คือว่าในขณะที่ผู้จัดการและผู้บริหารระดับอาวุโสส่วนใหญ่จะมีความสามารถและมีหน้าที่รับผิดชอบต่องานในแง่ของเทคนิคและวิชาการนั้น พวกเขาก็มักจะไม่ค่อยได้รับผิดชอบในเรื่องการพัฒนาผู้นำคนอื่นๆ อีกทั้งยังมักไม่ได้รับการฝึกอบรมหรือทักษะต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาผู้นำคนอื่นๆ ด้วย
       
        บ่อยครั้งที่ผู้บริหารจะโอนพนักงานที่ผลการปฏิบัติงานต่ำกว่ามาตรฐานไปให้แผนกบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกรับผิดชอบในการสอนงานและพัฒนาพนักงานคนดังกล่าวซึ่งไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี องค์กรทั้งหลายควรแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผู้จัดการแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาพนักงานของตนเองและองค์กรต้องเตรียมความพร้อมผู้จัดการด้วยการให้ความรู้ เครื่องมือและการฝึกอบรมต่างๆ ที่จำเป็นต่อการทำงานของพวกเขา
       
        ในขณะที่ประเด็นของการมีส่วนร่วมของผู้บริหารระดับสูง จะดีมากหากซีอีโอและทีมผู้บริหารมีส่วนร่วมในการวางแผนและดำเนินงานตามกลยุทธ์การพัฒนาภาวะผู้นำโดยยึดนัยสำคัญต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องภาวะผู้นำที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคตมาพิจารณาเป็นหลัก
       
        สำหรับการวางแผนสืบทอดตำแหน่งงาน ต้องมองให้ขาดว่า อะไรคือกระบวนการที่จำเป็นในแง่ของการวางแผนการสืบทอดตำแหน่งงาน/การวางแผนด้านแหล่งพนักงานผู้มีความสามารถโดดเด่น และผู้บริหารระดับอาวุโสควรจะมีบทบาทอย่างจริงจังในแง่มุมใดบ้างของกิจกรรมพัฒนาภาวะผู้นำ ยกตัวอย่างเช่น การฝึกอบรม การเป็นพี่เลี้ยง หรือการมอบหมายงานเพื่อพัฒนาพนักงาน
       
       ความสามารถของภาวะผู้นำ
       
        ความสามารถด้านภาวะผู้นำข้อใดที่สำคัญที่สุดในยุคปัจจุบันและจะสำคัญมากที่สุดในอีก 10 ปีข้างหน้า ตลอดจนการวางกลยุทธ์และการสื่อสารที่ดี ผลการสำรวจบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าความสามารถ 2 ข้อที่มีความสำคัญมากที่สุด ทั้งสำหรับการดำเนินงานในปัจจุบันและอนาคตก็คือ "การพัฒนากลยุทธ์" และ "ทักษะการสื่อสาร"
       
        "การพัฒนากลยุทธ์" และ "ทักษะการสื่อสาร" อาจต้องใช้วิธีการที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ผู้นำในองค์กรขนาดใหญ่จำเป็นต้องเสนอแนะความคิดเห็นที่มีต่อกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในระดับสูง แต่แนวความคิดเรื่องภาวะผู้นำสมัยใหม่และแนวทางปฏิบัติที่ดีต่างๆ บ่งชี้ว่าผู้นำจะสามารถสร้างผลกระทบได้มากที่สุดหากเขาส่งเสริมให้มีการพัฒนาและดำเนินงานตามกลยุทธ์ไม่ใช่วางตัวว่า "ตนเองเก่งที่สุด" บรรดาผู้นำที่มีประสิทธิผลตระหนักดีว่างานของพวกเขาคือการพัฒนาความสามารถขององค์กรซึ่งก็คือความสามารถของพนักงานนั่นเอง
       
        ความสามารถที่สำคัญเป็นลำดับถัดๆ ไปคือ "การพัฒนาผู้นำ" "การว่าจ้างบุคคลที่มีความสามารถ" และ "การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม" ซึ่งล้วนเป็นความสามารถที่จำเป็นต่อการดำเนินงานตามกลยุทธ์ธุรกิจ ผู้นำต้องตระหนักว่าการมีส่วนร่วมที่ถือว่าสำคัญที่สุดของผู้นำ ก็คือการเตรียมพนักงานที่มีความสามารถและพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายทางธุรกิจในปัจจุบันได้ในทันที
       
       การนำความสามารถผู้นำไปใช้
       
        ความสามารถด้านภาวะผู้นำถูกนำไปใช้ในกระบวนการและโครงการมากน้อยเพียงใด ผลสำรวจชี้ว่า อยู่ในระดับที่ต่ำจนน่าประหลาดใจ ที่ผ่านมาความสามารถผู้นำถูกนำไปใช้มากที่สุดใน เรื่องของ การประเมินผลงาน การคัดเลือกพนักงานภายในองค์กรขึ้นมาเป็นผู้นำ และการประเมินผู้นำ
       
        แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือว่าโดยเฉลี่ยแล้ว อัตราการนำความสามารถด้านภาวะผู้นำไปใช้นั้นอยู่ในระดับที่ต่ำมาก คำตอบที่ได้มีคะแนนตั้งแต่ 5.09 (การบริหารแหล่งพนักงานที่มีความสามารถ) ไปจนถึง 6.84 (การประเมินผลงาน) โดยสเกลคะแนนมีตั้งแต่ 1 ซึ่งถือเป็นคะแนนต่ำสุดไปจนถึง 10 ซึ่งถือเป็นคะแนนสูงสุด
       
        เห็นได้อย่างชัดเจนว่าองค์กรต่างๆ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนกบุคคล) จำเป็นต้องพัฒนาทักษะในการนำความสามารถต่างๆ มาใช้กับบรรดากิจกรรมที่มีเรื่องของผู้คนเข้ามาเกี่ยวข้อง
       
       ประเมินประสิทธิผล
       
        องค์กรประเมินความมีประสิทธิผลของโครงการพัฒนาภาวะผู้นำอย่างไร? ข้อสรุปที่ได้จากการสำรวจ บริษัทต่างๆ ระบุว่า จะพิจารณาจากผลลัพธ์ทางธุรกิจ แน่นอนองค์กรหวังว่าโครงการพัฒนาภาวะผู้นำที่ได้ผลจะส่งผลไปที่ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้น เพราะได้ลงทุนทั้งในด้านเวลา เงินทุนและเรื่องคนไปเป็นจำนวนมาก และก็คาดหวังให้มีบางสิ่งที่แสดงถึงผลตอบแทนที่ดีสำหรับการลงทุน
       
        แม้ว่าการแยกแยะผลกระทบที่เกิดจากของโครงการพัฒนาภาวะผู้นำออกมาจากผลกระทบที่เกิดจากโครงการอื่นๆ จะเป็นเรื่องยาก แต่ก็ควรพิจารณาเกณฑ์ที่ใช้วัดผลลัพธ์ก่อนและหลังการดำเนินโครงการอย่างจริงจัง
       
       ความต้องการภาวะผู้นำ
       
        การจัดลำดับความต้องการด้านการพัฒนาภาวะผู้นำที่สำคัญมากที่สุด 3 อันดับแรก ผลที่ได้จากการสำรวจคือ 1. ความต้องการด้านทักษะการสอนงาน เป็นความต้องการอันดับหนึ่งสำหรับการพัฒนาภาวะผู้นำ เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่น่ายินดีเนื่องจากเป็นความต้องการที่เน้นไปที่เรื่องคนมากที่สุดเมื่อเทียบกับความต้องการหัวข้ออื่นๆ
       
        แต่การสอนงานก็เป็นทักษะที่จำเป็นมากที่สุดเมื่อมองย้อนไปว่าผู้นำมีหน้าที่พัฒนาผู้นำคนอื่นๆ และเนื่องจากโอกาสในการพัฒนาส่วนใหญ่จะเกิดจากการทำงาน ดังนั้นผู้นำจึงจำเป็นต้องมีทักษะในการสอนงานเพื่อให้สามารถแนะแนะทางและชี้นำพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อถึงโอกาสที่เหมาะสมสำหรับการสอนมาถึง
       
       อุปสรรคพัฒนาผู้นำ
       
        อุปสรรคที่สำคัญมากที่สุดสำหรับการพัฒนาภาวะผู้นำคือ การขาดเกณฑ์วัดผล แบบสำรวจเรื่องการพัฒนาภาวะผู้นำเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก จึงควรจะสะท้อนผ่านพฤติกรรมในการทำงานแบบใหม่ๆ ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์ การระบุส่วนตลาด หรือการสร้างความเป็นทีม การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในเชิงบวกควรส่งผลให้ผลลัพธ์ทางธุรกิจดีขึ้น ไม่เช่นนั้นองค์กรจะใช้จ่ายทรัพยากรต่างๆ ไปกับการพัฒนาภาวะผู้นำทำไม
       
        องค์กรสามารถกำจัดอุปสรรคต่างๆ ของการพัฒนาภาวะผู้นำได้ด้วยการ
       
       1. เชื่อมโยงเนื้อหาของหลักสูตรเข้ากับความสามารถต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าหลักสูตรมีความเกี่ยวข้องกับการพัฒนาภาวะผู้นำอย่างแท้จริง
       
       2. ให้รางวัลแก่ผู้นำเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกเขาพัฒนาความสามารถของตนเองและพนักงานได้ และ 3. พัฒนาวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการพัฒนาภาวะผู้นำด้วยการให้ผู้บริหารระดับสูงเข้ามามีส่วนร่วมในการระบุความสามารถด้านภาวะผู้นำและในการวางกลยุทธ์สำหรับการพัฒนาภาวะผู้นำ
       
       คุณลักษณะที่สะท้อนกลยุทธ์
       
        คุณลักษณะด้านภาวะผู้นำที่ส่งเสริมการดำเนินงานตามกลยุทธ์ ประเด็นหลักๆ คือ การเปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปล ถือเป็นคุณลักษณะด้านภาวะผู้นำที่สำคัญต่อการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการดำเนินงานตามกลยุทธ์ โดยงานส่วนใหญ่จะเป็นการกำหนดทิศทางจากนั้นจึงทำการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานให้สอดคล้องเหมาะสม
       
        ผู้นำต้องเป็นแบบอย่างของการเปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างเสมอต้นเสมอปลายเมื่อดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ การเปลี่ยนแปลงช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า การสรรหาหุ้นส่วนทางธุรกิจในต่างประเทศหรือการจัดสรรโบนัสโดยใช้วิธีการใหม่ๆ
       
       เครื่องมือสร้างผู้นำ
       
        เครื่องมือและเทคนิคการฝึกอบรมที่นำมาใช้เพื่อสร้างความสามารถด้านภาวะผู้นำ หลายองค์กรสะท้อนความคิดว่า ไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน แต่เป็นการผสมผสานหลักสูตรและกระบวนการต่างๆ เพื่อตอบสนองให้ตรงกับตามความต้องการของบริษัทมากที่สุด
       
        ขณะเดียวกัน บริษัทผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่มองว่าการพัฒนาภาวะผู้นำเป็นการฝึกอบรมที่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่าย แต่เมื่อพิจารณาจำแนกตามภูมิภาค พบว่าภูมิภาคตะวันออกกลาง (57.9%) และละตินอเมริกา (49.1%) มองว่าการพัฒนาภาวะผู้นำเป็นการลงทุน
       
       และไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายหรือการลงทุน การพัฒนาภาวะผู้นำยังคงเป็นประเด็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นวันนี้หรืออีก 10 ปีข้างหน้า

 

 

แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ


อัพเดทล่าสุด