หลักในการเขียนข้อบังคับการทำงานสำหรับนายจ้าง ตอนที่ 7


846 ผู้ชม


หลักในการเขียนข้อบังคับการทำงานสำหรับนายจ้าง ตอนที่ 7




หลักในการเขียนข้อบังคับการทำงานสำหรับนายจ้าง 

ตอนที่ 7.........

 

 

8. มีรายการต่างๆ ไม่น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด

            ข้อบังคับนั้นอย่างน้อยต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับรายการดังต่อไปนี้

  1. วันทำงาน เวลาทำงานปกติ และเวลาพัก
  2. วันหยุด และหลักเกณฑ์การหยุด
  3. หลักเกณฑ์การทำงานล่วงเวลาและการทำงานในวันหยุด
  4. วันและสถานทีจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุดและค่าล่วงเวลาในวันหยุด
  5. วันเวลาและหลักเกณฑ์การลา
  6. วินัยและโทษทางวินัย
  7. การร้องทุกข์
  8. การเลิกจ้าง ค่าชดเชย และค่าชดเชยพิเศษ

ดังนั้นในการเขียนข้อบังคับการทำงานของนายจ้างต้องมีเนื้อหาต่างๆ ไม่น้อยกว่าที่กฎหมายได้กำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้น จึงจะชอบด้วยกฎหมาย

  1. การใช้ภาษาให้ยึดถือถ้อยคำตมตัวบทกฎหมาย

เพื่อป้องกันการสับสนว่าสิ่งที่เรากำลังพูดหรือกล่าวถึงในข้อบังคับการทำงานว่าเป็นสิ่งเดียวกับที่กฎหมายกล่าวถึงหรือไม่ ดังนั้นในเรื่องหรือสิ่งเดี่ยวกันเมื่อเขียนลงในข้อบังคับการทำงาน นาจ้างจึงควรใช้ถ้อยคำของกฎหมายเมื่อเขียนในข้อบังคับการทำงานนั้น เช่น บางสถานประกอบการใช้คำว่า ค่าทำงานเกินเวลาหรือใช้ทับศัพท์ว่า OVER TIME ซึ่งที่ถูกต้องแล้วควรใช้คำว่า ค่าทำงานล่วงเวลา บางสถานประกอบการใช้คำว่า ลาพิเศษ ซึ่งไม่ทราบจริงๆ แล้วคือลาประเภทใด แต่ครั้นอ่านในรายละเอียดก็รู้ว่าเป็นเรื่องของการลากิจตามมาตรา 34 ของกฎหมายคุ้มครอง บางสถานประกอบการใช้คำว่า วันหยุดนักขัตฤกษ์ แต่ที่ถูกต้องแล้วตามกฎหมายใช้คำว่า วันหยุดตามประเพณี สถานประกอบการจำนวนไม่น้อยเขียนข้อบังคับการทำงานว่า หากลูกจ้างขาดงานเป็นเวลาสามวันติดต่อกันไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตาม และไม่มีเหตุอันสมควร ให้เลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย ซึ่งในเจตนารมณ์ของนายจ้างก็คือต้องการเขียนให้ล้อม มาตรา 119(5) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ความว่า ละทิ้งหน้าที่ เป็นเวลาสามวันติดต่อกันไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตามโดยไม่มีเหตุอันสมควร นั่นเอง ดังนั้นนายจ้างจึงควรใช้คำว่า ละทิ้งหน้าที่ แทนคำว่า ขาดงาน ซึ่งจะสอดคล้องกับตัวบทกฎหมายและกินความหมายลึกกว่าคำว่า ขาดงานมากมายนัก

  1. ใช้ถ้อยคำให้เป็นระเบียบภาษาเดียวกันทั้งหมด

คำที่มีความหมายอย่างเดียวกัน ควรใช้ถ้อยคำอย่างเดียวกันตลอดข้อบังคับการทำงาน นายจ้างบางสถานประกอบการที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเงินและการธนาคารใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า บริษัท บ้าง ธนาคาร"บ้าง สับสนไปหมดในข้อบังคับการทำงานฉบับเดียวกัน ในกรณีนี้ควรใช้อย่างใดอย่างหนึ่งให้เป็นระเบียบภาษาเดียวกันซึ่งถ้าใช้คำว่า ธนาคาร น่าจะเหมาะสมที่สุด ระเบียบย่อยแม้ต่างฉบับกันแต่ถ้ากล่าวถึงเรื่องเดียวกัน ควรใช้คำหรือวลีเดียวกันเพื่อสื่อความหมายให้เข้าใจตรงกัน มีสถานประกอบการแห่งหนึ่งไปลอกข้อบังคับการทำงานบางส่วนมาจากพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือนในส่วนที่เกี่ยวกับวินัยและการลงโทษ ระบุว่า ข้อ45 โทษทางวินัยดังนี้ ฯลฯ .....

5) ให้ออก

6) ปลดออก

7) ไล่ออก

ให้ออก ปลดออก ไล่ออก สำหรับข้าราชการพลเรือนมีความหมายหนักเบาแตกต่างกันและยังผูกโยงกับบำเหน็จบำนาญที่ข้าราชการผู้ถูกดำเนินการทางวินัยจะพึงได้รับหรือไม่ ตมความหมายหนักเบาของความผิดที่กระทำลงไป (ปัจจุบันสำหรับราชการเหลือเพียง ให้ออก และไล่ออกเท่านั้น) แต่งานเอกชนไม่มีสิ่งดังกล่าว จึงไม่มีความแตกต่างกันระหว่างคำว่า ให้ออก ปลดออก และ ไล่ออก สามารถยุบลงเหลือเพียงคำว่า เลิกจ้าง ก็ได้ ส่วนจะเป็นการเลิกจ้างโดยจ่ายหรือไม่จ่ายค่าชดเชย เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 

 

 ที่มา : สมบัติ ลีกัล

 

เรื่องโดย : เกรียงไกร  เจียมบุญศรี

4/5/2549

 

อัพเดทล่าสุด