หัวหน้า กับ การเสริมสร้าง ทัศนคติ ด้านความปลอดภัย
หัวหน้างานเป็นผู้ที่มีบทบาทมาก ในเรื่องการเสริมสร้างทัศนคติด้านความปลอดภัยให้แก่พนักงาน เพราะเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดมากที่สุด (ในทุกวันที่ทำงานร่วมกัน) นอกจากนั้นยังต้องทำหน้าที่สำคัญ 2 ประการ ด้วยคือ 1. เป็นผู้ตอบคำถามด้านนโยบายการบริหาารความปลอดภัยที่ใกล้ชิดที่สุดแก่พนักงาน 2. เป็นผู้ตอบคำถามทางด้านการปฏิบัติที่ถูกต้องให้แก่ผ่ายบริหารและพนักงานที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาด้วย การเสริมสร้างทัศนคติด้านความปลอดภัยให้แก่พนักงาน อาจทำได้ด้วยการฝึกอบรม (Training) การประชุมชี้แจง (Meeting) การให้การควบคุม ดูแล และชี้แนะ (Coaching) แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องยึดหลัก 3 ประการนี้ไว้ คือ - เหตุผลทางด้านมนุษยธรรม - เหตุผลทางด้านเศรษฐกิจ - เหตุผลทางด้านกฏหมายแรงงาน หัวหน้าจะช่วยสร้างบรรยากาศในการทำงานด้านความปลอดภัยในหน่วยงานของตนเองได้อย่างไรบ้าง...คำตอบคือ อาจจะต้องหาวิธีการหลายๆวิธีการและต้องทำอยู่เสมอ (ปฏิบัติบ่อยๆ จนเกิดความเคยชิน) เช่น 1. สำรวจตรวจสอบตลอดเวลา 2. สร้างตัวอย่างที่ดี 3. กระตุ้นเตือนฝ่ายบริหารและพนักงานอยุ่เสมอ 4. จัดทำแบบมาตรฐานของการทำงานที่ปลอดภัยแก่งานทุกชนิด 5. วิเคราะห์หาต้นเหตุของอุบัติเหตุทุกครั้ง 6. จัดหาเครื่องแต่งกาย และเครื่องป้องกันอันตรายให้เพียงพอ 7. ให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อพนักงาน การจูงใจให้พนักงานใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล โดยหลักวิชาจิตวิทยาและหลักการสร้างแรงจูงใจ (Motivation) ได้กำหนดไว้ตามแนวของมาสโลว์ (Abraham Maslow) ว่ามนุษย์ทุกคนมีความต้องการ 5 ขั้นเสมอ เรียกว่า ความต้องการพื้นฐาน (Basic Needs) คือ 1. ความต้องการเกี่ยวกับร่างกาย (Physiological Needs) ได้แก่ ปัจจัย 4 (เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย อาหาร ยารักษาโรค) ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ต้องเพิ่มอีกหนึ่งก็คือ ความต้องการทางเพศ (Sex) 2. ความต้องการเกี่ยวกับความมั่นคงและความปลอดภัย (Safety Needs) 3. ความต้องการเกี่ยวกับสังคมหรือความผูกพันในสังคม (Belonging Needs) 4. ความต้องการที่จะมีเกียรติ มีชื่อเสียง (Esteem Needs) 5. ความต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต หรือพิสูจน์ตนเองว่าได้ก้าวมาถึงจุดมุ่งหมายสุดยอดที่ตั้งไว้แล้ว (Self Actualization Needs) จากแนวความคิดข้างต้นกล่าวได้ว่า ความปลอดภัยโดยตัวของมันเองสามารถเป็นเครื่องจูงใจให้คนงานหรือพนักงานปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้ในบางกรณี แต่อีกหลายกรณีกลับกลายเป็นสิ่งที่ถูกมองข้าม และไม่อาจใช้ได้ผลเท่าที่ควรจำเป็นจะต้องค้นหา ปัจจัยจูงใจอื่นๆ เพื่อทำให้คนงานหรือพนักงานยอมรับและปฏิบัติตามในเรื่องของความปลอดภัยจนได้ เราอาจสรุปได้ว่า "จิตสำนึกต่อความปลอดภัย" (Safety Conscious) ของคนงานหรือพนักงานเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ อาทิ - ความเป็นผู้ใหญ่ - สถานภาพทางครอบครัว - ประสบการณ์ที่ผ่านมา - การศึกษาอบรม และการฝึกปฏิบัติจนเคยชิน แนวทางการจูงใจ 1. ในการออกคำสั่ง ต้องชี้แจงเหตุผลและแสดงถึงผลดีและผลเสียอย่างชัดเจน 2. อบรมโดยเฉพาะเกี่ยวกับวินัยและกฏระเบียบว่าด้วยความปลอดภัยของโรงงานหรือสำนักงาน 3. มีการจัดตั้งหัวหน้าชุดหรือหัวหน้าดูแลเป็นพิเศษ คณะกรรมการความปลอดภัย (Safety Committee) ก็จะต้องมีบทบาทอย่างสำคัญด้วย 4. ระวังการชี้นำ หรือการสร้างตัวอย่างการทำงานที่ผิด 5. สร้างความคิดหรือค่านิยมที่ยกย่องส่งเสริมคนที่ปฏิบัติงานอย่างปลอดภัยมากกว่าคนที่กล้าเสี่ยงปฏิบัติและรอดชีวิตมาได้ 6. มีการติดตามความประพฤติของคนงานหรือพนักงานที่มีสถิติเกิดอุบัติเหตุ หรือเคยได้รับอุบัติเหตุมาแล้วอย่างใกล้ชิด ปัจจัยอื่นๆ ที่นำมาใช้ในการจูงใจ ก. ความสำเร็จของงาน (Achievement) ข. การยอมรับนับถือ (Recognition) ค. ความก้าวหน้า (Advancement) ง. ลักษณะของงาน (The Work Itself) จ. ความรับผิดชอบ (Responsibility) |
สุชาญ โกศิน |