ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย (ฏีกายาว : เงินที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทำงาน)


720 ผู้ชม


ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย (ฏีกายาว : เงินที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทำงาน)




ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย

 

คดีแดงที่  8690/2544

นางตันตินี ปัทมพงศ์ โจทก์
บริษัทอาคเนย์ประกันภัย จำกัด กับพวก จำเลย

 

พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 5

นายจ้างมีข้อตกลงกับลูกจ้างว่าจะหารถประจำตำแหน่งให้ แต่ถ้าหากยังหารถไม่ได้ก็จะให้ค่าเช่ารถยนต์ เดือนละ 22,000 บาท ข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้หารถประจำตำแหน่งให้ลูกจ้างเป็นหลัก มีข้อยกเว้นว่าหากยังหา รถให้ไม่ได้ก็ให้จ่ายค่าเช่ารถยนต์ให้ลูกจ้าง หากต่อมานายจ้างสามารถหารถประจำตำแหน่งให้ลูกจ้างได้ตามข้อตกลงเมื่อใด นายจ้างก็ไม่จำต้องจ่ายค่าเช่ารถยนต์ดังกล่าวให้ลูกจ้างอีกต่อไป ค่าเช่ารถยนต์รายเดือนที่นายจ้างจ่ายให้ลูกจ้าง ถือว่าเป็นสวัสดิการ มิใช่เงินที่จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน แม้จะจ่ายเงินจำนวน แน่นอนเท่า ๆ กัน ทุกเดือนก็มิใช่ค่าจ้างตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 5

 

…………………..……………………………………………………………..

 

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งหกร่วมกันจ่ายค่าจ้าง สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชย และค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีเป็นเงิน ๑๙๔,๖๙๙ บาท กับค่าเสียหายกรณีเลิกจ้างไม่เป็นธรรมเป็นเงิน ๑๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๑ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยทั้งหกคนให้การขอให้ยกฟ้อง

ระหว่างพิจารณา โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ ๕ และที่ ๖ ศาลแรงงานกลางอนุญาต ให้จำหน่ายคดีเฉพาะ จำเลยที่ ๕ และที่ ๖

ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชยแก่โจทก์อีก ๘๘,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๑ จนกว่าจะชำระเสร็จ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๑ ว่า ค่าเช่ารถยนต์หรือค่าชดเชยรถยนต์ ที่จำเลยที่ ๑ จ่ายให้โจทก์ทุกเดือนเดือนละ ๒๒,๐๐๐ บาท นั้น เป็นค่าจ้างหรือไม่ เห็นว่า พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๕ บัญญัติว่า "ค่าจ้าง" หมายความว่า เงินที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทำงานตามสัญญาจ้างสำหรับระยะเวลาทำงานปกติเป็นรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือระยะเวลาอื่น หรือจ่ายให้โดยคำนวณตามผลงานที่ลูกจ้างทำได้ในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน และให้หมายความรวมถึงเงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างในวันหยุดและวันลาที่ลูกจ้างมิได้ทำงาน แต่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับตามพระราชบัญญัตินี้ คดีนี้ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่า จำเลยที่ ๑ มีข้อตกลงกับโจทก์ว่าจะหารถประจำตำแหน่งให้โจทก์ แต่ถ้าหากยังหารถไม่ได้ ก็จะให้ค่าเช่ารถยนต์เดือนละ ๒๒,๐๐๐ บาท ข้อตกลงของโจทก์และจำเลยที่ ๑ ดังกล่าวแสดงให้เห็นได้ว่ามีการกำหนดให้จำเลยที่ ๑ หารถประจำตำแหน่งให้โจทก์เป็นหลัก มีข้อยกเว้นว่า หากยังหารถให้ไม่ได้ก็ให้จ่ายค่าเช่ารถยนต์ให้โจทก์ ดังนั้น แม้จำเลยที่ ๑ จะยังหารถประจำตำแหน่งให้โจทก์ไม่ได้จึงต้องจ่ายค่าเช่ารถยนต์ให้โจทก์ไปแล้วกี่เดือนก็ตาม หากต่อมาจำเลยที่ ๑ สามารถหารถประจำตำแหน่งให้โจทก์ได้ตามข้อตกลงเมื่อใด จำเลยที่ ๑ ก็ไม่จำต้องจ่ายค่าเช่ารถยนต์ดังกล่าวให้โจทก์อีกต่อไป ดังนั้น ค่าเช่ารถยนต์ที่จำเลยที่ ๑ จ่ายให้โจทก์ ตามข้อตกลงในระหว่างที่ยังจัดหารถประจำตำแหน่งให้โจทก์ไม่ได้ ถือว่าเป็นสวัสดิการ มิใช่เงินที่จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน แม้จะจ่ายเงินจำนวนแน่นอนเท่า ๆ กันทุกเดือน ก็มิใช่ค่าจ้าง การที่ศาลแรงงานกลางนำเอาค่าเช่ารถยนต์เดือนละ ๒๒,๐๐๐ บาท ไปคิดรวมเป็นค่าจ้างของโจทก์เป็นเงินเดือนละ ๙๗,๐๐๐ บาท จึงไม่ถูกต้องที่ถูกเป็นค่าจ้างเพียงเดือนละ ๗๕,๐๐๐ บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าที่โจทก์มีสิทธิได้รับจากจำเลยที่ ๑ จำนวน ๑ เดือน จึงเป็นเงินเพียง ๗๕,๐๐๐ บาท และค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายเก้าสิบวัน เป็นเงิน ๒๒๕,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๓๐๐,๐๐๐ บาท เท่ากับจำนวนสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชยที่โจทก์ได้รับไปจากจำเลยที่ ๑ แล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องให้จำเลยที่ ๑ รับผิดในเงินดังกล่าวได้อีก…

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๔ ในส่วนของสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชยพร้อมดอกเบี้ยเสียด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง .

 

(หัสดี ไกรทองสุก - กมล เพียรพิทักษ์ - จรัส พวงมณี )

 

ศาลแรงงานกลาง - นายอรรถพงษ์ กุลโชครังสรรค์

ศาลอุทธรณ์ -

อัพเดทล่าสุด