แนวปฏิบัติ เพื่อส่งเสริม แรงงานสัมพันธ์ ในประเทศไทย
การพัฒนาและเสริมสร้างระบบแรงงานสัมพันธ์ให้เหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทย เพื่อสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมไทย ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นระบบที่ให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย และเพื่อผดุงไว้ ซึ่งความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ตลอดจนเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้สามารถผ่านพ้นสภาวะปัญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจของประเทศไปได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากทุกๆฝ่าย จึงมีแนวปฏิบัติเพื่อ ส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ในประเทศไทยดังนี้
1. เคารพยึดถือและปฏิบัติตามบทบัญญัติกฎหมายแรงงาน ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง รวมทั้ง คำตัดสินในเรื่องอัตราค่าจ้าง สภาพการจ้าง สภาพการทำงาน และ ข้อปฏิบัติเพื่อความเป็นธรรมด้านแรงงาน
2. ระงับข้อขัดแย้ง ข้อร้องทุกข์ และข้อพิพาทแรงงานตามกระบวนการซึ่งได้มีข้อตกลงกันไว้ หากไม่มีกระบวนการดังกล่าวก็จะใช้วิธีการเจรจาต่อรอง การไกล่เกลี่ย และการชี้ขาดแทน
3. ส่งเสริมสนับสนุนเสรีภาพในการจัดตั้ง และการพัฒนาองค์การลูกจ้าง และองค์การนายจ้าง เพื่อให้มีประสิทธิภาพ มีอิสระ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม
4. เสริมสร้างและเพิ่มพูนประสิทธิภาพของการร่วมเจรจาต่อรอง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในด้านสภาพการจ้าง สภาพการทำงาน รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง
5. ส่งเสริมให้นายจ้างและลูกจ้าง ใช้วิธีร่วมปรึกษาหารือในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิหน้าที่และผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย อันจะเป็นวิถีทางที่จะพัฒนาไปสู่การพึ่งพาอาศัย กันและกันอย่างทัดเทียม และเสมอภาคตามหลักระบบประชาธิปไตยในวงการแรงงาน
6. กำหนดนโยบายและลักปฏิบัติด้านการบริหารงานบุคคลที่เหมาะสม เพื่อให้การแรงงานสัมพันธ์ภายในสถานประกอบการเอื้ออำนวยต่อประสิทธิภาพในการทำงานและสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน
7. ละเว้นการกระทำ หรือสนับสนุนการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิซึ่งกันและกัน และการขัดขวางการดำเนินงานอันชอบด้วยกฎหมายเกี่ยวกับเสรีภาพในการสมาคม สิทธิในการเจรจาต่อรอง การรักษาระเบียบวินัย และธรรมเนียมปฏิบัติในสถานประกอบการ
8. ส่งเสริมความรู้แก่นายจ้างและลูกจ้าง เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่อันพึงมี พึงปฏิบัติต่อกัน ตลอดจนความรับผิดชอบต่อสังคมของทั้งสองฝ่าย
9. ส่งเสริมและพัฒนาแรงงานสัมพันธ์แนวทางระบบแรงงานสัมพันธ์ บนพื้นฐานของขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของชาติ เพื่อสร้างระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย และสนองความต้องการทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ
10. ส่งเสริมและพัฒนาการปรึกษาหารือและการร่วมมือกันในระดับชาติระหว่างหน่วยงานของรัฐบาล องค์กรนายจ้าง และองค์กรลูกจ้าง ในเรื่องเกี่ยวกับการกำหนดการแก้ไขปรับปรุงและการประเมินผลนโยบายการพัฒนาของชาติในด้านต่าง ๆ
11. ส่งเสริมระบบประชาธิปไตย อันเป็นเงื่อนไขที่จะทำให้แนวปฏิบัติดังกล่าวบรรลุผล โดยรัฐบาลควรบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เลือกปฏิบัติให้เกิดความเป็นกลางและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
12. ส่งเสริมการแรงงานสัมพันธ์ในระดับนโยบายของประเทศ อันเป็นเงื่อนไขที่จะทำให้แนวทางปฏิบัติดังกล่าวบรรลุผล และสามารถแก้ไขปัญหาแรงงาน ในอนาคตรัฐบาลควรบรรจุหลักสูตรการแรงงานสัมพันธ์เข้าไว้ในแผนการศึกษาของชาติ
13. รัฐบาล นายจ้าง และลูกจ้างจะยึดและปฏิบัติตามแนวปฏิบัติด้านแรงงานสัมพันธ์โดยทั่วหน้ากัน