ฝายห้วยยางแดง เริ่มต้นแห่งการคืนชีวิตให้กับป่ายางแดง
ขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือของวารสารจดหมายข่าว รักษ์ป่า สร้างคน 84 ตำบล วิถีพอเพียงและ วิชาการ.คอม
https://www.pttplc.com/TH/Default.aspx
ห้วยยาแดงเป็นห้วยสายเล็กหนึ่งใน 13 สายห้วยที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำห้วยไฟ บ้านทุ่งติ้ว ตำบลภูซาง จังหวัดพะเยา ความน่าสนใจแต่แรกไม่เพียงแต่เป็นห้วยสายเล็กๆ เท่านั้น เพราะความยาวของลำห้วยจากต้นน้ำถึงปลายน้ำที่ยาวเพียงร้อยหกสิบกว่าเมตรเท่านั้น แต่กลับมีฝายกั้นน้ำมากถึง 80 ลูก พร้อมกันนั้นยังเป็นฝายหินที่ถูกยึดไว้ด้วยคอนกรีตอย่างแข็งแรงอีกด้วย
คำ บัวผัด ผู้นำชาวบ้านแห่งบ้านทุ่งติ้ว ผู้เป็นต้นคิดและเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันให้เกิดฝายห้วยยางแดง ได้ช่วยให้ความกระจ่าง
“เวลาหน้าน้ำ น้ำไหลลงจากเขาแรงมาก ฝายดินหรือฝายตอกหลักเอาไม่อยู่ เราทดลองทำมาหมดแล้ว จำเป็นต้องใช้ฝายหินและใช้คอนกรีตผสมกับดินเหนียวยึดหินต่างๆ เอาไว้”
นอกจากนี้วิธีการทำฝายของพวกเขายังเป็นไปตามหลักธรรมชาติอย่างเที่ยงตรงอีกด้วย นั่นคือ เริ่มกั้นน้ำเพื่อทำฝายลูกแรกที่ปลายน้ำก่อนจะไหลลงอ่างเก็บน้ำ ครั้นฝายทำเสร็จน้ำจะเอ่อย้อนกลับจนระดับน้ำนิ่งตรงไหน จึงก่อฝายลูกที่สองตรงบริเวณนั้นอีกทำเช่นนี้ทุกฝาย กระทั่งย้อนขึ้นมาจนถึงต้นน้ำ
เช่นนี้เองระยะห่างของฝายแต่ละลูกจึงไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับระดับการลาดเทของลำห้วยในช่วงนั้นๆ เป็นสำคัญ
คาดไม่ถึงว่าหลักคิดในการจัดการน้ำด้วยฝายขนาดเล็กนี้เป็นภูมิรู้อันเนื่องมาแต่การจัดทำปะปาภูเขาของพวกเขาเองเมื่อหลายสิบปีก่อน
ครานั้นหลายหมู่บ้านในพื้นที่ตำบลภูซางขาดแคลนน้ำทั้งน้ำดื่มกิน และน้ำใช้ในการเกษตร การจะรอให้ทางการมาดำเนินการต่อน้ำประปา เป็นความหวังที่เลื่อนลอยอย่างยิ่ง คำ บัวผัด เดินขึ้นเขาเหนือหมู่บ้านเพื่อค้นหาแหล่งน้ำ เขาพบแอ่งน้ำซับ จึงจัดหาท่อประปาพลาสติกมาเชื่อมกับแอ่งน้ำซับ เพื่อนำน้ำลงไปยังหมู่บ้าน ระยะทางกว่า 200 เมตร ไม่ก่อให้เกิดอุปสรรคมากมายนัก บ้านจำนวน 45 หลังคาได้รับน้ำจากภูเขาที่ไหลผ่านมาตามท่อ ซึ่งเรียกกันภายหลังต่อมาว่า ‘ประปาภูเขา’
ผลของการคิดเองนำเองนี้ ชาวบ้านอีกจำนวนเท่าตัวเข้าร่วมอย่างมองเห็นผล นอกจากเข้าร่วมแรงแล้ว ยังร่วมสมทบเงินเพื่อซื้อหาท่อประปา มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือนจำนวนหลังคาเรือนที่ใช้น้ำประปาภูเขาก็เพิ่มขึ้นเป็น 80 หลัง
เวลาผ่านมาเพียงสองปี จากแอ่งน้ำซับธรรมดาก็จำเป็นต้องมีบ่อดักตะกอนขนาดใหญ่จำนวน 6 บ่อ เมื่อถึงเวลานี้ครัวเรือนจำนวนกว่า 270 หลังคาเรือนใน 5 หมู่บ้าน ก็ได้ใช้น้ำประปาภูเขาอย่างพร้อมหน้าพร้อทตากัน
“เมื่อแรกที่เปิดน้ำเข้าท่อนั้น เราให้คนที่อยู่ปลายสุดท้ายของท่อได้เปิดใช้น้ำก่อน แล้วไล่ขึ้นมาจนถึงคนต้นน้ำ หากให้คนต้นน้ำใช้ก่อน คนที่อยู่ปลายท่อก็จะไม่ได้ใช้น้ำ เพราะเปิดมาแล้วก็จะมีแต่ลม” คำ บัวผัด เล่าถึงหลักคิดที่อาจกลายเป็นเส้นผมบังภูเขาได้ง่ายๆ นี้อย่างภูมิใจ
ภายหลังต่อมา ชาวบ้านตำบลภูซางได้รับพระราชทานอ่างเก็บน้ำห้วยไฟเพื่อใช้น้ำในการเกษตรกรรม พวกเขาใช้หลักการเดียวกันนี้มาจัดการคลองซอยที่นำน้ำไหลผ่านไปตามผืนนาของชาวบ้าน นอกจากจะให้นาทุกผืนได้น้ำในการทำนาอย่างเพียงพอแล้ว การจัดการน้ำเพื่อให้เจ้าของนาได้ทำนาในเวลาไล่เลี่ยกันให้ทันฤดูกาลนั้น ก็ต้องใช้หลักคิดให้ประโยชน์ทุกคนเท่าเทียมกันด้วยความเกื้อกูลและอย่างเป็นธรรมด้วย
จากคลองส่งน้ำที่นำน้ำออกมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยไฟนั้นมีคลองซอยที่แยกออกไปอีกถึง 16 สาย มีการจัดตั้งคณะกรรมการเหมืองฝายขึ้น 16 คณะ คณะละ 10 คน เพื่อมารับผิดชอบการปิดเปิดน้ำของแต่ละเหมือง จัดเวรยามเพื่อแบ่งเวลาในการเปิดน้ำเข้านา ทำการลอกเหมืองที่ตื้นเขินก่อนทำการผลิตครั้งใหม่จะมาถึง
ภูมิปัญญาของการจัดการน้ำด้วยวิธีการเหมืองฝายนี้เหมือนจะซึมซาบอยู่ในสายเลือดของคนในภาคเหนือ เพราะเรื่องการจัดการเหมืองฝายนั้นเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ตกทอดผ่านคนหลายรุ่น เช่นนี้เอง ชาวบ้านในตำบลภูซางแม้เพิ่งจะได้มีโอกาสจัดการเหมืองฝาย เมื่อมีอ่างเก็บน้ำห้วยไฟซึ่งมีมาไม่กี่ปีนี้เอง แต่พวกเขาก็ร่วมกันดำเนินการด้วยความเรีบยร้อยราบรื่นมาด้วยดี
การจัดการเหมืองฝายให้น้ำเข้าพื้นที่การเกษตร เป็นการจัดการน้ำใต้อ่างเก็บน้ำ เมื่อได้รับการจัดการอย่างสมบูรณ์ตามวัตถุประสงค์แล้ว ความสนใจก็ย้อมกลับไปที่ตัวอ่างเก็บน้ำทำอย่างไรให้มีน้ำใช้อย่างพอเพียงในฤดูการผลิต
นี่คือเหตุที่ทำให้ คำ บัวผัด สำรวจพบห้วยสายเล็กๆ ถึง 13 สายห้วยที่มีน้ำไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำห้วยไฟ ทักษะในการจัดการที่มีมาแต่ประปาภูเขา และการจัดการเหมืองฝายให้น้ำเข้านาบอกเขาว่า ควรเลือกห้วยขึ้นมาสายหนึ่ง ทำให้ปรากฏผลเป็นจริงแล้ว จะเกิดแรงบันดาลในอันมหาศาลขึ้น เมื่อนั้นลำห้วยที่เหลือก็จะมีคนมาช้วยทำในภายหลัง
เขาขายความคิดนี้ไปทุกครั้งที่มีการประชุมประจำเดือนของหมู่บ้านต่างๆ ในตำบลภูซาง เป้าหมายคือชาวบ้านและแกนนำขายความคิดเข้าไปในโรงเรียนให้กับนักเรียนและครู แสวงความร่วมมือกับชลประทานจังหวัดพะเยา และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูซาง สืบค้นความรู้จากศูนย์พัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ห้วยยางแดง ซึ่งสองข้างยังปรากฏต้นยางให้เห็นอยู่ ได้รับเลือกขึ้นมาเพื่อจัดสร้างฝายชะลอน้ำ ไม่เพียงแต่ให้หลักประกันต่อระดับน้ำในอ่างเท่านั้น แต่ฝายจำนวน 80 ลูกนั้นยังได้รับการขยายผลไปสู่การสร้างความชุ่มชื่นให้ป่าสองข้างทาง ฟื้นคืนให้ต้นยางกลับมายืนเด่นเป็นสง่าประดับห้วยยางแดงเหมือนเช่นที่เคยเป็นอยู่นานแล้ว