FREIGHT FORWARDER ||
ขอขอบคุณข้อมูลจาก สถาบันการบินพลเรือน
www.catc.or.th
FREIGHT FORWARDER || เรื่องโดย : สงกรานต์ ไชยหาวงศ์
www.aviation-hr.com
ผมต้องขอบพระคุณทุกๆ คำถามและคำติชมที่ส่งมาทางอีเมลล์ เมื่อฉบับที่ผ่านมา Aviation Story ของเรา ได้นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่อง Forearder ว่ามีขอบข่ายการให้บริการอย่างไร สำหรับฉบับนี้ผมขอยกบทความของท่านอาจารย์ สมศักดิ์ วิเศษเรืองโรจน์ มาบางตอน เพื่ออธิบายรายละเอียดถึงประเภทของกิจการดังกล่าว กับในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางอากาศในประเทศไทย
หากกล่าวถึงกระบวนการทำงานของกลุ่มธุรกิจ Forwarder หรือ Freight Forwarder นั้นคงต้องเริ่มตั้งแต่การเข้าไปมีส่วนร่วมในการทำใบสั่งซื้อ หรือการทำใบสัญญาขายที่ผู้ขายเป็นผู้ออกให้กับผู้ซื้อ หลายท่านคงจะสงสัยว่า Forwarder ไปเกี่ยวข้องอะไรด้วยกับการซื้อขายของลูกค้า คือในการออกใบแจ้งราคาสินค้าให้กับผู้ซื้ออาจจะมีการรวมราคาค่าใช้จ่ายในการขนส่งอยู่ด้วยตามเงื่อนไขทางการค้าที่เรียกว่า Incoterms ทั้งนี้เนื่องจากการค้าระหว่างประเทศจำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องของการชำระเงิน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องนำระบบการเงินหลายประเภท มาใช้เริ่มตั้งแต่ระบบเงินสด เงินเชื่อ Open Account หรือ Documentary Collection จนไป ถึง Documentary Credit โดยปกติแล้ว ผู้ขายมักจะขอให้ผู้ซื้อทำการเปิด L/C = Letter of Credit ซึ่งอยู่ในหมวด Documentary Credit เมื่อผู้ซื้อได้เปิด L/C ผ่านธนาคารที่ผู้ซื้อใช้บริการอยู่แล้ว จากนั้นธนาคารจะแจ้งการเปิด L/C ไปยังธนาคารใดธนาคารหนึ่งที่เป็นเครือข่าย โดยอาศัยระบบ Network Optimism - Advising Bank เพื่อให้ธนาคารนั้นแจ้งไปยังธนาคารเครือข่ายของตนหรือธนาคารของผู้ขายสินค้าเอง (Seller's Bank) เมื่อผู้ขายได้รับแจ้งเรื่อง L/C จากธนาคารแล้ว จะดำเนินการเตรียมสินค้า ให้ตรงกับที่ L/C ระบุมาและให้ทันเวลาตามคำสั่งของ L/C กรณีที่ผู้ส่ง สินค้าต้นน้ำ (Origin) ต้องการให้มี ตัวแทนทำหน้าที่คนกลางระหว่างผู้ส่งสินค้าและผู้ขนส่ง เพื่อให้ดำเนินพิธีการศุลกากร โดยเรียกว่า Customs Broker ซึ่งกลุ่มธุรกิจเหล่านี้ จะทำหน้าที่ จองระวางเรือ หรือ เครื่องบิน รวมไปถึงการเช่ารถบรรทุกเพื่อที่จะจัดส่งไปยังท่าเรือหรือท่าอากาศยาน เมื่อสินค้าเสร็จพร้อมส่ง ผู้ส่งสินค้าจะทำใบกำกับราคาสินค้า (Invoice) และใบกำกับหีบห่อสินค้า (Packing List) ให้ตัวแทนออกของ (Customs Broker) ไปทำพิธีการศุลกากรโดยผ่านระบบ EDI หรือที่เรารู้จักในนามระบบโค๊ต เพื่อนำเอาใบขนสินค้าออกมาให้ ผู้ส่งสินค้าเซ็น แล้วนำเอาใบกำกับราคาสินค้า ใบกำกับหีบห่อสินค้า รวมทั้งใบขนสินค้าออกไปดำเนินพิธีการต่อไป ในอนาคตระบบ Paperless จะถูกนำมาใช้ โดยการทำพิธีการศุลกากรระบบดังกล่าว (XML base ) ผ่านทางอินเตอร์เท็ท ไม่ต้องมีการเซ็นเอกสารใดๆ
ทั้งนี้เมื่อสินค้าผ่านเข้าท่าเพื่อบรรจุแล้ว สายเดินเรือ หรือตัวแทน (กรณีสายการบินก็เช่นกัน) จะทำการออกเอกสารที่เรียกว่า ใบตราส่ง (B/L - Bill of Lading หรือ AWB - Airwaybill) ให้กับผู้ส่งออก ทั้งนี้โดยปกติตัวแทนออกของจะเป็นผู้ไปรับจากสายเดินเรือหรือตัวแทนของสายการบินในฐานะเป็นตัวแทนของผู้ส่งออก แล้วนำมาให้ผู้ส่งออกเพื่อจะได้ดำเนินพิธีการเรียกเก็บเงินจากธนาคารต่อไป (Bank Negotiation) ตัวแทนออกของ (Customs Broker) ยังมีหน้าที่ต้องจัดเตรียมเอกสารอื่นๆ ตามที่ L/C ระบุไว้ โดยไปติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น หอการค้า เพื่อขอใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ติดต่อสถานฑูตเพื่อขอการรับรองตามกฏหมาย (Legalization) และหน่วยงานอื่นๆ ตามแต่เอกสารที่ถูกระบุใน L/C นั้นๆ
ทั้งนี้ธนาคารเมื่อได้รับเอกสารต่างๆ ครบถ้วนตามที่ L/C ระบุไว้ ก็จะดำเนินการเรียกเก็บเงินจากธนาคารผู้เปิด L/C หรือ ธนาคารใดธนาคารหนึ่งที่ L/C ระบุให้ไปเรียกเก็บเงิน โดยธนาคารต้นทางจะจัดส่งเอกสารไปยังธนาคารดังกล่าว เมื่อธนาคารปลายทางได้รับเอกสารจากธนาคารต้นทางแล้ว ก็จะแจ้งให้ผู้เปิด L/C ซึ่งก็คือผู้ซื้อนั่นเอง มาทำการชำระเงินทั้งหมดตามมูลค่าของ L/C จากนั้น ธนาคารก็จะปล่อยเอกสารทั้งหมดให้ ผู้ซื้อเพื่อนำไปดำเนินพิธีการศุลกากร (Customs clearance) เพื่อออกของต่อไป
โดยกรณีปกติ ตังแทนออกของ (Customs Broker) ทำหน้าที่เพียงเป็นตัวแทนของผู้ส่งสินค้าเท่านั้น ไม่ได้แสดงตัวเป็นผู้ขนส่งสอนค้าดังกล่าวเลย ส่วนสายเดินเรือหรือสายการบินก็จะส่งข้อมูลของใบกำกับสินค้าของการขนส่งสินค้า (Cargo Manifest) ครั้งนั้นๆ ไปยังประเทศปลายทางเพื่อให้ตัวแทนของตนทราบว่ามีสินค้าชนิดใดมาและผู้ใดเป็นผู้มีสิทธิ์ในตัวสินค้านั้นๆ เมื่อรับข้อมูลใบกำกับสินค้าตัวแทนสายเดินเรือ หรือ สายการบิน จะจัดเตรียม ใบสั่งปล่อยสินค้า (D/O - Delivery Order) เพื่อให้ผู้รับสินค้าหรือผู้ซื้อนำเอาใบตราส่ง (B/L - Bill of Landing) มาเวนคืนแลกกับ D/O เพื่อให้ตัวแทนออกของจะได้นำไปออกของ ทั้งนี้จากบทความข้างต้นท่านผู้อ่านจะเห็นได้ว่าเมื่อ Forwarder ทำงานมากกว่าขอบข่ายหน้าที่เดิม จึงทำให้วิวัฒนาการของกลุ่มธุรกิจ ดังกล่าวเปลี่ยนต้นเองเป็นรูปแบบ Logistice Provider ซึ่งกระผมจะนำมาเขียนในโอกาศต่อไป