ปัจจัยที่ควรจะทำการประเมิน
ปัจจัยที่ควรจะทำการประเมินนั้นมีมากมายหลายปัจจัย ปัจจุบันนี้องค์การต่างๆนิยมที่จะประเมินโดยเน้นที่ผลงานมากกว่าบุคลิกลักษณะของพนักงาน เพราะว่าบุคคลสองคนบุคลิกลักษณะต่างกัน หากปฏิบัติงานได้เท่ากัน ผลการประเมินก็ควรจะเห็นเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน
ในการสำรวจแบบฟอร์มการประเมินผลการปฏิบัติงานของบริษัท 50 แห่งในประเทศ สหรัฐอเมริกาปรากฏว่าปัจจัยต่างๆ ถูกนำมาใช้มากน้อยต่างกันดังนี้
Quantity of work ปริมาณงาน 44 ครั้ง
Cooperativeness ความร่วมมือ 36 ครั้ง
Dependability ความไว้ใจได้ 35 ครั้ง
Quality of work คุณภาพของงาน 31 ครั้ง
Intelligence สติปัญญาและไหวพริบ 27 ครั้ง
Attendance การทำงานสม่ำเสมอ 17 ครั้ง
Accuracy การทำงานโดยไม่ผิดพลาด 14 ครั้ง
Industry ความขยันหมั่นเพียร 14 ครั้ง
Adaptability ความสามารถในการปรับตัว 14 ครั้ง
Attitude ความรู้สึกและท่าทีต่องาน 13 ครั้ง
Personality บุคลิกภาพ 13 ครั้ง
Judgment ดุลยพินิจ 12 ครั้ง
Punctuality การตรงต่อเวลา 12 ครั้ง
ความสามารถในการนำไปปฏิบัติ 10 ครั้ง
ปัจจัยที่ถูกนำมาใช้น้อยกว่า 10 ครั้ง ได้แก่ปัจจัยต่อไปนี้
Safety Habits ลักษณะนิสัยในการรักษาความปลอดภัย
Leadership ความเป็นผู้นำ
Conduct ความประพฤติ
Resourcefulness ความรู้ทั่วไป
Health สุขภาพอนามัย
Neatness ความละเอียด
Appearance ภาพลักษณ์
Enthusiasm ความกระตือรือร้น
Potential ศักยภาพในการเลื่อนตำแหน่ง
Integrity ความซื่อสัตย์สุจริต
Loyalty ความจงรักภักดี
Through ness ความรอบคอบ
ที่มา : Dale Yoder. Personnel Management and Industrial Relations. (New Jersy : Prentice – Hall Inc.) P.362
ที่มาโดย : รองศาสตราจารย์ ผุสดี รุมาคม
-----------
สิ่งที่คุณไม่อาจหลีกเลี่ยงได้นั่นคือ ใครบางคนติดตามดูผลงานบางอย่างของคุณอยู่ ตัวอย่างบุคคลเหล่านั้นได้แก่ เพื่อน เพื่อนร่วมชั้นเรียน สมาชิกในกลุ่ม คนรัก คู่ชีวิต หรือแม้กระทั่งเจ้านาย บางคนอาจจะกำลังประเมินพฤติกรรมและความสามารถของคุณซึ่งอาจจะเป็นแบบไม่ทางการ หรือเป็นแบบเป็นทางการก็ได้
ตลอดชีวิตการทำงาน งานของคุณจะถูกตรวจสอบและถูกประเมินอยู่เสมอ ระดับเงินเดือน ระดับชั้น ตลอดจนภาระหน้าที่ที่รับผิดชอบจะขึ้นอยู่กับว่าผลงานของคุณได้ตามเกณฑ์การประเมินแค่ไหน และแน่นอนที่สุดการประเมินผลการปฏิบัติงานไม่ได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับคุณ สิ่งเหล่านี้คุณเคยพบเห็นเคยผ่านมาแล้วจากการเรียนหนังสือในโรงเรียน จากการสอบเพื่อให้ผ่านวิชาต่างๆ จากการทำรายงานส่ง จากข้อสอบ และจากการนำเสนอเรื่องราวหรือรายงานต่างๆ สิ่งที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดคือตัวอย่างเทคนิคที่จัดทำขึ้นเพื่อวัดคุณภาพของงานคุณ
โดยหลักแล้วเทคนิคเหล่านั้นเหมือนกับสิ่งที่นำมาใช้วัดผลการปฏิบัติงานของคุณ ผลที่ได้จากการวัดเหล่านี้แน่นอนที่สุดมีความสำคัญต่ออนาคตของคุณ
แม้ว่าคุณอาจจะไม่ต้องทำข้อสอบช่วงที่ทำงานอยู่ในองค์กรหนึ่งองค์กรใด การประเมินผลการปฏิบัติงานมีความสำคัญเท่ากับในมหาวิทยาลัย การขึ้นเงินเดือน การเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ไม่เพียงแต่ส่งผลให้มีรายได้มากขึ้น ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ยังมีผลถึง (Self-esteem) ความรู้สึกที่มั่นคง (Emotional security) และความสุขใจในชีวิตด้านอื่นๆ (General satisfaction with life) อีก โดยความหมายนี้คุณไม่เคยทำข้อสอบเสร็จเลย ตราบใดที่ยังทำงานอยู่ ผลการทำงานก็ยังคงจะถูกประเมินต่อไป
โปรดระลึกไว้เสมอว่า ผลการปฏิบัติงาน มีประโยชน์ต่อคุณเองเท่าๆกับต่อองค์กร ตัวอย่างของแบบทดสอบในห้องเรียนแสดงให้เห็นว่าตัวคุณเองอยู่ตรงไหนและควรพัฒนาอย่างไร ดังนั้นแบบการประเมินที่ใช้ได้ผลสามารถช่วยคุณประเมินทักษะความชำนาญ (Competence) และพัฒนาการส่วนบุคคลของคุณได้ ผลการประเมินจะสะท้อนให้เห็นจุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses) ซึ่งช่วยให้คุณมีความเชื่อมั่น (Self-confidence) มากขึ้นในบางเรื่อง และสามารถเป็นแรงจูงใจให้คุณปรับปรุงคุณภาพงานในด้านอื่นต่อไป