1. LSASS.EXE | |||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||
ความจริง lsass.exe เป็นไฟล์แอพพลิเคชันที่มีความสำคัญมากสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows โดยชื่อ LSASS จะย่อมาจาก Local Security Authority Subsystem Service ซึ่งมีหน้าที่หลักคือช่วยจัดการระบบรักษาความปลอดภัย และล็อกอินของยูสเซอร์ โดยผู้ใช้สามารถพบไฟล์นี้ได้ในโฟลเดอร์ c:windowssystem32 หรือ c:winntsystem32 ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่ใช้ในขณะนั้นผู้ใช้สงสัยว่าเขาควรจะปิดการทำงานของ lsass หรือไม่? | |||||||||||||||||||||||||||
เมื่อ ทราบความหมายของมันแล้วคงรู้คำตอบนะว่า ไม่ควรอย่างยิ่งที่สำคัญคุณควรจะปล่อยให้มันทำงานเพื่อช่วยให้ระบบอยู่ใน ความปลอดภัย ข้อเท็จจริงก็คือถ้าคุณพยายามปิดมัน (เช่นเดียวกับที่คุณปิดแอพฯ อื่นๆ ในทาสก์บาร์) ทาสก์แมแนเจอร์ก็จะไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นอยู่ดี อย่างไรก็ตามหากคอมพิวเตอร์ที่ใช้มีอาการล่มอยู่บ่อยๆ เนื่องจากไฟล์ lsass.exe นั่นอาจหมายความว่ามีไวรัสหรือสปายแวร์ติดเข้าไปในระบบแล้วก็ได้ เนื่องจากปี 2004 พบช่องโหว่ใน lsass ทำให้วายร้ายอย่างหนอนไวรัสที่ชื่อว่า Sasser ใช้ในการโจมตีได้ ผลจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ผู้ใช้รู้สึกกังวลเวลาที่พบเห็นไฟล์ lsass โดยมักเข้าใจผิดคิดว่าติดไวรัสเข้าไปแล้ว แต่อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า lsass เคยถูกมองเป็นผู้ต้องหาในช่วงนั้น ซึ่งปัจจุบันปัญหาดังกล่าวได้ถูกกำจัดหมดไปแล้ว แต่นั่นหมายความว่า คุณได้อัพเดต Windows อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้แนะนำให้คุณติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยให้กับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ด้วย | |||||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลจาก : จากเว็บไซต์ ARiP.co.th | |||||||||||||||||||||||||||
2. Wi-Fi | |||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||
Wi-Fi หรือในชื่อเต็มๆว่า Wireless-Fidelity เป็น เทคโนโลยีสื่อสารแบบไร้สายที่ตอนนี้ได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินสายเหมือนกับเครือข่ายแลนแบบเดิ มๆ เทคโนโลยีหรือมาตรฐานของ Wi-Fi ในปัจจุบันที่ใช้กันอยู่คือ 802.11 ซึ่งมีอายุมากกว่า 7 ปีแล้ว โดยเป็นมาตรฐานที่ถูกอนุมัติให้ใช้จาก IEEE(the Institute of Electrical and Electronics Engineers) เพื่อ ให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์สามารถสื่อสารกันได้บนมาตรฐานการทำง านแบบเดียวกันนั่นเอง ในปัจจุบัน ทั่วกรุงเทพฯ ตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่โรงพยาบาล ฯลฯ ได้เริ่มมีบริการ Access Point สำหรับใช้งาน Wi-Fi ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทันใจ จนแทบจะพูดได้ว่า คุณสามารถมีชีวิตแบบไร้สายได้ทุกที่ทุกเวลากันเลยทีเดียว | |||||||||||||||||||||||||||
โดย นิตยสาร Computer.Today | |||||||||||||||||||||||||||
3. ActiveX | |||||||||||||||||||||||||||
ActiveX เป็นชื่อที่ Microsoft ตั้งให้กับกลุ่มของเทคโนโลยี object - oriented programming และเครื่องมือหลักของเทคโนโลยีนี้ คือ Component Object Model (COM) เมื่อใช้ในระบบเครือข่ายด้วยไดเรคทอรี และการสนับสนุนเพิ่มเติมทำให้ COM เปลี่ยนมาเป็น Distributed Component Object Model (DCOM) ซึ่งสำคัญในการสร้าง เมื่อเขียนโปรแกรมใช้สภาพแวดล้อมของ ActiveX คือ component ซึ่งโปรแกรมจะเพียงพอในตัวเอง ซึ่งสามารถเรียกใช้ในทุก ๆที่ ของเครือข่าย ActiveX (โดยเป็นเครือข่ายของระบบ windows และ Macintosh) โดย component รู้จักในชื่อของ ActiveX control นอกจากนี้ ActiveX เป็นคำตอบของ Microsoft ต่อ เทคโนโลยี Java จาก Sun Microsystems และ ActiveX control สามารถเปรียบเทียบโดยคร่าว ๆ ได้กับ Java applet | |||||||||||||||||||||||||||
ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows จะสังเกตเห็นไฟล์ใน windows ที่มีสกุล "OCX" ซึ่ง OCX ใช้สำหรับ Object linking and embedding control โดย Object linking and Embedding (OLE) เป็นเทคโนโลยีของ Microsoft ที่ใช้กับระบบเอกสารแบบ compound document เช่น window desktop นอกจากนี้ Component Object Model ได้เป็นส่วนของ OLEในฐานะเป็นส่วนที่อยู่ในแนวคิดที่กว้างกว่า Microsoft ใช้ศัพท์ ActiveX control " แทนที่ OCX สำหรับอ๊อบเจคแบบ component | |||||||||||||||||||||||||||
ความได้เปรียบประการหนึ่ง ของ component คือ สามารถใช้ใหม่ได้โดยโปรแกรมประยุกต์ (ด้วยการอ้างอิง component แบบ container ) ส่วนอ๊อบเจค COM (ActiveX control) สามารถสร้างได้หลายภาษา หรือ เครื่องมือพัฒนา เช่น C++, Visual Basic หรือ Power Builder หรือคำสั่งสคริปต์ VBScript | |||||||||||||||||||||||||||
ปัจจุบัน ActiveX control สามารถใช้กับ Windows 95/98/NT และ Macintosh ซึ่ง Microsoft มีแผนในพัฒนา ActiveX control สำหรับ UNIX | |||||||||||||||||||||||||||
ActiveX control | |||||||||||||||||||||||||||
ActiveX control เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี ActiveX ของ Microsoft | |||||||||||||||||||||||||||
ActiveX control เป็นส่วนประกอบของโปรแกรมอ๊อบเจคที่สามารถใช้ซ้ำ (reused) ได้จากโปรแกรมประยุกต์ภายในคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์ภายในเครือข่าย เทคโนโลยีสำหรับการสร้าง ActiveX control เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี ActiveX ของ Microsoft โดยส่วนสำคัญ คือ Component Object Model (COM) การทำงานของ ActiveX control สามารถ ดาวน์โหลด เป็นโปรแกรมเล็ก หรือภาพเคลื่อนไหวสำหรับเว็บเพจ และสามารถใช้สำหรับงานพื้นฐานทั่วไป โดยโปรแกรมประยุกต์ในสภาพแวดล้อมของ Windows รุ่นล่าสุด หรือ Macintosh โดยทั่วไป ActiveX control ได้แทนที่ OCX (Object Linking and Embedding Custom controls) นอกจากนี้ ActiveX control สามารถเทียบเคียงอย่างคร่าว ๆ ในแนวคิดและการใช้กับ Java applet | |||||||||||||||||||||||||||
4. Virtual Private Network (VPN) | |||||||||||||||||||||||||||
Virtual Private Network หรือที่เรียกย่อๆ ว่า VPN หาก อธิบายความหมายอย่างตรงไปตรงมามันก็คือ การสร้างเครือข่ายส่วนตัวโดยอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย สาธารณะ เพื่อเชื่อมต่อการทำงานระหว่างผู้ใช้ หรือกลุ่มผู้ใช้ที่อยู่ไกลออกไปเข้าด้วยกัน | |||||||||||||||||||||||||||
สำหรับเครือข่ายสาธารณะที่พูดถึงในที่นี้ แน่นอนว่า มันก็คือ อินเทอร์เน็ต นั่นเอง ดังนั้นหากจะกระชับความหมายของ VPN ให้สั้นลงไป เครือข่าย VPN ก็ คือ การสร้างการเชื่อมต่อแบบเสมือน โดยใช้เส้นทางผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบของเครือข่ายส่ วนตัว ยกตัวอย่างเช่น การที่บริษัทแห่งหนึ่ง หรือแม้กระทั่งบ้านของคุณเองจะสามารถเซตอัพ VPN เพื่อ ถ่ายโอนข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อลักษณะนี้ไปยังคอมพิวเตอร์ท ี่อยู่ในสถานที่ห่างไกลออกไป หรือเฉพาะบุคคล (ผู้ใช้คนหนึ่ง) ที่คุณต้องการ (ราว กับว่า คุณสามารถเปลี่ยนเครือข่ายสาธารณะอย่างอินเทอร์เน็ต มาใช้ทำหน้าที่เป็นเครือข่ายส่วนตัวของคุณได้นั่นเอง) เครือข่ายไร้สายที่ใช้ฮอตสปอตเป็นตัวอย่างที่ดีอันหนึ่งของการทำ VPN เนื่อง จากคุณสามารถใช้บริการฮอตสปอตตามสถานที่ต่างๆ เพื่อใช้เครือข่ายสาธารณะอย่างอินเทอร์เน็ตในการเชื่อมต่อเข้าไ ปยังคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของคุณ (หรือเซิร์ฟเวอร์ของทางบริษัท) เพื่อทำงานต่างๆ ได้นั่นเอง | |||||||||||||||||||||||||||
โครงสร้าง VPN อย่างง่ายๆ ที่แสดงให้เห็นการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์เครือข่ายของธุรกิจผ่านเครือข่าย | |||||||||||||||||||||||||||
ปัจจุบันบริษัทใหญ่ๆ นิยมใช้ VPN กัน มากขึ้น เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้พร้อมกับเค รือข่ายของบริษัท เนื่องจากความง่าย และความคุ้มค่าในการเซตอัพเครือข่ายลักษณะนี้นั่นเอง VPN สามารถให้ประโยชน์กับผู้ใช้งานได้ทุกคน หากมันได้รับการออกแบบ และวางแผนมาเป็นอย่างดี ซึ่งมันมีข้อกำหนดบางอย่างที่ทุก VPN ควรจะมี เพื่อให้มันสามารถให้บริการได้อย่างเหมาะสมกับผู้ใช้ทุกคน ดังนั้น VPN ควร จะมีคุณสมบัติการทำงานในเรื่องของความปลอดภัย เสถียรภาพ ความสามารถในการขยายเครือข่าย การบริหารจัดการ และการควบคุมนโยบายการใช้งาน ซึ่งหากขาดคุณสมบัติที่ช่วยป้องกัน และดูแลการใช้เครือข่ายในลักษณะนี้แล้ว คุณจะไม่สามารถควบคุมการใช้ VPN ได้ | |||||||||||||||||||||||||||
ภาพแสดงการเชื่อมต่อเครือข่าย VPN ของบริษัทขนาดใหญ่ | |||||||||||||||||||||||||||
จากเว็บไซต์ ARiP.co.th | |||||||||||||||||||||||||||
5. PS/2 Port | |||||||||||||||||||||||||||
เชื่อว่า คุณผู้อ่านหลายๆ ท่านน่าจะเคยได้ยินคำนี้มาบ้างแล้ว แต่ทราบจริงๆ หรือไม่ว่า พอร์ต PS/2 คืออะไรกันแน่? และมันสำคัญ อย่างไร เรามาทำความรู้จักกับพวกมันมากขึ้นอีกสักนิด | |||||||||||||||||||||||||||
โดยทั่วไป พอร์ต PS/2 จะ เป็นที่รู้จักกันในฐานะของช่องเชื่อมต่อสำหรับเมาส์ เนื่องมันเป็นพอร์ตพิเศษที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อเมาส์ หรือคีย์บอร์ดเข้ากับคอมพิวเตอร์ พอร์ตชนิดนี้จะทำงานร่วมกับปลั๊ก DIN ขนาดเล็กที่ภายในมีเข็มสัญญาณ 6 เข็ม เรียงตัวกันเป็นวง นอกจากนี้เราสามารถจดจำหน้าที่ของพอร์ต PS/2 จากสีของมันก็ได้ โดยพอร์ตที่เชื่อมต่อกับเมาส์จะใช้สีเขียว ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นสีม่วง | |||||||||||||||||||||||||||
ช่องต่อ PS2 สำหรับเมาส์จะเป็นสีเขียว ส่วนคีย์บอร์ดสีม่วง | |||||||||||||||||||||||||||
พอร์ตอีกชนิดหนึ่งที่มีการทำงานใกล้เคียงกับ PS/2 ก็คือ พอร์ตสื่อสารแบบอนุกรม (serial port) ซึ่ง สามารถใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้เหมือนกัน เช่น โมเด็ม เป็นต้น ทั้งนี้เนื่องจากพอร์ตอนุกรมจะมีขีดความสามารถในการทำงานที่เหนือกว่า ดังนั้น พอร์ต PS/2 จึงเหมาะกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กกว่า และมีการทำงานที่ไม่ซับซ้อนอย่างเช่น เมาส์ และคีย์บอร์ด เท่านั้น พอร์ต PS/2 ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท IBM และคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะมีพอร์ต PS/2 ให้ 2 ช่อง เพื่อเชื่อมต่อกับเมาส์ และคีย์บอร์ด นั่นเอง อย่างไรก็ดี ปัจจุบันพอร์ตยอดฮิตที่รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้มากมาย ซึ่งรวมถึงเมาส์ และคีย์บอร์ดก็คงจะหนีไม่พ้น USB | |||||||||||||||||||||||||||
|