เรียงความ เป็นรูปแบบการเขียนที่ต้องใช้กระบวนการคิดที่สัมพันธ์กับหัวข้อเรื่องและมี ทักษะในการเขียนเพื่อที่จะสื่อสารแนวคิดสู่ผู้อ่านด้วยการเลือกสรรคำที่ เหมาะสมและสร้างสรรค์
การเขียนเรียงความ
การเขียนเรียงความ
เรียงความ เป็นรูปแบบการเขียนที่ต้องใช้กระบวนการคิดที่สัมพันธ์กับหัวข้อเรื่องและมี ทักษะในการเขียนเพื่อที่จะสื่อสารแนวคิดสู่ผู้อ่านด้วยการเลือกสรรคำที่ เหมาะสมและสร้างสรรค์
1. ส่วนประกอบของเรียงความ ประกอบด้วย
1.1 คำนำ เป็นการบอกให้ผู้อ่านทราบว่า ผู้เขียนจะเขียนเรื่องอะไร เป็นการกระตุ้นให้ผู้อ่านสนใจอ่านเนื้อเรื่องต่อไป การเขียนคำนำมีหลายวิธี เช่น ยกคำพูด คำคม สุภาษิต ร้อยกรอง คำถาม
ข่าวที่กำลังสนใจกันทั่วไป ฯลฯ
1.2 เนื้อเรื่อง เป็นส่วนสำคัญที่สุดของการเขียนเรียงความ ผู้เขียนจะต้องคิดก่อนเป็นขั้นแรกว่า จะเลือกเขียนเรื่องอะไรและมีวัตถุประสงค์ใดในการเขียนเรื่องนั้น ๆ
1. จุดประสงค์ในการเขียนเรียงความ มี 4 ประการ คือ
- เพื่อให้ข้อเท็จจริงแก่ผู้อ่าน
- เพื่อโน้มน้าวใจผู้อ่าน
- เพื่อให้ความบันเทิง
- เพื่อส่งเสริมการใช้ความคิดของผู้อ่านให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
การกำหนดจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน จะทำให้เนื้อหาของงานเขียนต่างกันด้วย เช่น จะเขียนเรื่องเกี่ยวกับวัยรุ่นไทยเที่ยวกลางคืน และเสพสิ่งเสพติด เนื้อหาจะต่างกันตามจุดมุ่งหมาย
2. กำหนดโครงเรื่อง การกำหนดโครงเรื่อง ทำให้มีขอบเขตในการเขียน ไม่เขียนนอกประเด็น เป็นการจัดลำดับความคิดให้เป็นระเบียบต่อเนื่องเป็นเรื่องราว เช่น เขียนเรื่องเกี่ยวกับอิทธิพลของการ์ตูนญี่ปุ่น
(1) ลักษณะของการ์ตูนญี่ปุ่น
- เนื้อหา
- ภาพประกอบ
- ราคา
(2) แหล่งเผยแพร่การ์ตูนญี่ปุ่น
- ร้านขายหนังสือ
- ร้านเช่าหนังสือ
- อินเทอร์เน็ต
(3) อิทธิพลที่มีต่อวัยรุ่น
- ไม่สนใจหนังสือเรียน
- มีพฤติกรรมเลียนแบบ
- ยั่วยุกามารมณ์
(4) แนวทางให้วัยรุ่นเลิกอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นหรืออ่านน้อยลง
- กวดขันแหล่งเผยแพร่
- ส่งเสริมการ์ตูนไทยให้มากขึ้น
- ให้คำแนะนำกับพ่อแม่ผู้ปกครอง
1.3 บทสรุป ควรเขียนบทสรุปให้น่าประทับใจ ที่สำคัญคือต้องทำให้ผู้อ่านเข้าใจจุดประสงค์ของผู้เขียนอย่างแจ่มชัด อาจทำได้หลายวิธี เช่น
1. เน้นสาระสำคัญของเรื่อง
2. ตั้งคำถามให้ผู้อ่านไปคิดต่อ
3. ยกคำกล่าว คำคม สุภาษิต
4. ฝากข้อคิด
5. ยกส่วนของเนื้อเรื่องที่สำคัญที่สุดมากล่าวซ้ำ
2. วิธีการเขียนเรียงความ ประกอบด้วย
2.1 วางโครงเรื่อง การวางโครงเรื่องเป็นการกำหนดประเด็นนำเสนอตามลำดับเรื่อง โดยให้สอดคล้องกับชื่อเรื่องและส่วนอื่น ๆ การลำดับความและวางโครงเรื่องที่ดีย่อมเป็นประโยชน์แก่ผู้เขียนและผู้อ่าน ที่จะช่วยให้เข้าใจได้ตลอดเรื่อง
2.2 สาระความรู้ สามารถบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องที่เขียนให้ผู้อ่านเข้าใจ เกิดความศรัทธาและเชื่อมั่นว่า ได้อ่านเรื่องอันเป็นสาระความรู้ไว้ประดับสติปัญญา
2.3 การเลือกใช้ถ้อยคำ จะต้องรู้ถึงธรรมชาติ ความหมายและการวางเรียงถ้อยคำที่เหมาะสม สร้างสรรค์ ไม่ควรใช้คำที่มีความหมายหลายนัย การใช้ถ้อยคำ สำนวน ที่เหมาะสมกับกาลเทศะ จะช่วยให้ผู้อ่านมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในผลงาน
2.4 ความมีเหตุผล การเขียนเรียงความ เหตุผลย่อมเป็นเหมือนแสงสว่างที่จะส่องให้พบความเป็นจริง ทำให้เรียงความมีเสน่ห์ อ่านได้อย่างราบรื่น และเกิดความคิดเห็นคล้อยตาม
2.5 การเสริมความ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การเขียนเรียงความมีความดีเด่นขึ้น เช่น เสริมสำนวนสุภาษิตหรือคำคมเพื่อความสละสลวยไพเราะมากขึ้น หรือมีคำถามเพื่อใช้ในการเสริมสาระเติมให้มีเนื้อหามากขึ้น
ที่มาและได้รับอนุญาตจาก :
บุญลักษณ์ เอี่ยมสำอางค์ เกื้อกมล พฤกษประมูล และโสภิต พิทักษ์. ภาษาไทย หลักการใช้ภาษาและการใช้ภาษา ม.4. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์.