วัตถุประสงค์ของการละหมาด ผลบุญของการละหมาด การละหมาดในศาสนาอิสลาม
ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เมื่อมีปัญหาอะไรบางอย่างมาประสบในชีวิตของท่าน ท่านก็จะเข้าสู่การละหมาด ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ดียิ่งในการแก้ไขปัญหา ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จะมุ่งเข้าสู่การละหมาดไปหาการเยียวยาจากอัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา สิ่งที่ท่านมีปัญหาอยู่ก็ขอความช่วยเหลือจากพระองค์ดังที่ท่านหุซัยฟะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าเรื่องราวของท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า
«كان رسول الله صلى الله عليه وسلم إِذَا حَزَبَهُ أَمْرٌ فَزِعَ إِلَى الصَّلاَةِ»
ความว่า “คราใดก็ตามที่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ เมื่อมีสิ่งใดที่ทำให้ท่านทุกข์โศก ท่านก็จะมุ่งสู่การละหมาดโดยทันที” (บันทึกโดยอะหฺมัด : 5/388 และอบูดาวูด : 1319)
และในอีกหลายๆ เหตุการณ์ที่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้อาศัยการละหมาด เป็นวิธีการขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺ เช่นเมื่อครั้งที่เกิดสงครามสมรภูมิบัดรฺในปีฮิจญ์เราะฮฺที่สอง ท่านเคาะลีฟะฮฺอะลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าเหตุการณ์นี้ไว้ว่า
“ตลอดคืนก่อนการประจัญบานระหว่างกองทัพมุสลิมและกองทัพฝ่ายศัตรู พวกเราต่างนอนพักเอาแรง มีเพียงท่านเราะสูลุลลอฮฺเท่านั้นที่ยังคงยืนละหมาดและวิงวอนขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺจนถึงรุ่งเช้า” (ตัฟสีรอิบนุกะษีร : 1/ 252)
และในสงครามอะหฺซาบในปีฮิจเราะฮฺศักราชที่ห้า ท่านหุซัยฟะฮฺ ได้เล่าว่า “ตลอดช่วงเวลาที่กองทัพพันธมิตร (อะหฺซาบ) ปิดล้อมฝ่ายมุสลิมอยู่นั้น ท่านเราะสูลุลลอฮฺ เพียรละหมาด และขอดุอาอ์วิงวอนต่ออัลลอฮฺ ให้ทรงช่วยเหลือ และประทานชัยชนะให้แก่กองทัพฝ่ายมุสลิมตลอดทั้งคืน และทุกคืนท่านละหมาดอยู่เช่นนั้น จนกระทั่งสงครามยุติและมุสลิมเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะในที่สุด” (ตัฟสีรอิบนุกะษีร : 1/ 252)
ท่านอนัส บินมาลิกเคยเล่าไว้ว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวเสมอว่า
«وَجُعِلَتْ قُرَّةُ عَيْنِيْ فِيْ الصَّلاَةِ»
ความว่า “ความสุขใจสูงสุดของฉันอยู่ในการละหมาด” (บันทึกโดย อัน-นะสาอีย์ )
นี่คือภาคปฏิบัติของคำสั่งนี้ที่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ปฏิบัติเป็นแบบอย่าง เพราะการละหมาดเป็นสิ่งที่จะช่วยเชื่อมต่อกับอัลลอฮฺโดยตรง อันเป็นแนวทางที่มีความเชื่อมั่นได้มากที่สุด เป็นการติดต่อกับอัลลอฮฺทางจิตวิญญาณ ด้วยวะฮฺยูและการดลใจ น้ำพุนี้ยังคงพวยพุ่งในทุกที่ ที่ผู้ศรัทธาจะรับมาเป็นเสบียงสำหรับการเดินทาง เป็นร่มที่พักร้อน เป็นความช่วยเหลือ สำหรับผู้ที่ไม่มีที่พึ่งพิงเป็นทรัพย์สินที่คงเหลือทุก เมื่อสำหรับผู้ที่ทรัพย์สินขาดมือ การละหมาดย่อมจะสร้างอะไรสักอย่าง สำหรับคนที่ตระหนักในเรื่องนี้
แต่คนที่ไม่เชื่อตรงนี้ คนที่ไม่เชื่อว่าการละหมาดมีความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับอัลลอฮฺ ระหว่างบ่าวกับผู้ทรงอภิบาลของเขาคงจะสัมผัสเรื่องนี้ไม่ได้ และการละหมาด ก็ย่อมเป็นเรื่องที่เพิ่มความหนักใจให้กับเขามากยิ่งขึ้น จนหลายคนเวลาเกิดปัญหาหรือมีวิกฤติชีวิต ก็จะลืมละหมาดและทิ้งละหมาดโดยสิ้นเชิง
ดังที่อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ตรัสว่า
(وَاسْتَعِينُواْ بِالصَّبْرِ وَالصَّلاَةِ وَإِنَّهَا لَكَبِيرَةٌ إِلاَّ عَلَى الْخَاشِعِينَ)
ความว่า “และจงขอความช่วยเหลือ ด้วยความอดทนและการละหมาดแน่นอนการละหมาดนั้นเป็นงานหนัก เว้นแต่สำหรับบรรดาผู้นอบน้อมถ่อมตน” (สูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ : 45)
สภาพของผู้ศรัทธา เมื่อเขารู้สึกไม่สบายใจหรือมีปัญหาเพียงได้กล่าวว่า “อัลลอฮุ อักบัรฺ” เพื่อเข้าสู่การละหมาดและเข้าเฝ้าผู้เป็นเจ้าของชีวิตของเขา วิงวอนต่อพระองค์ ก็เหมือนได้เข้าสู่สวนสวรรค์อย่างแน่แท้
ดังที่ท่านอิมามอัล-หะสัน อัล-บัศรีย์ได้กล่าวว่า “เรา ได้ละหมาด เราได้ทำอิบาดะฮฺ เรามีความสุข ถ้าบรรดากษัตริย์หรือคนร่ำรวย รับรู้(ว่าเรามีความสุขมากแค่ไหน) เขาจะมาต่อสู้จะมาฆ่าเรา แล้วแย่งความสุขจากเราไปอย่างแน่นอน”
ท่านอิมามอัฏ-เฏาะบะรีย์ เราะหิมะฮุลลอฮฺ ได้บันทึกเรื่องราวหนึ่งจากท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไว้ว่า
“ท่านได้เดินผ่านท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ซึ่งเขากำลังนอนคว่ำเนื่องด้วยความหิว (ท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เป็นเศาะหาบะฮฺท่านหนึ่ง ที่เป็นอะฮฺลุซศุฟฟะฮฺ คือคนที่พักอาศัยอยู่ในมัสญิด เนื่องจากไม่มีที่อยู่อาศัยและเป็นคนยากจน อาหารก็ต้องรอให้คนนำมาบริจาค) ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เห็นดังกล่าวจึงได้กล่าวว่า ท่านปวดท้องกระนั้นหรือ ? ท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ก็ได้กล่าวว่า ใช่ครับ ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมจึงกล่าวว่า ท่านจงลุกขึ้นละหมาด แท้จริงการละหมาดนั้นเป็นยา(ชีฟาอ์) สำหรับท่าน” (ตัฟสีรอิบนุกะษีร : 1/253 )
ท่านอิมามอัฏ-เฏาะบะรีย์ เราะหิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวอีกว่า “ความอดทนและการละหมาดนั้น แท้จริงมันเป็นการให้ความช่วยเหลือบนความเมตตาของอัลลอฮฺ” (ตัฟสีรอิบนุกะษีร : 1/253 )
إِنَّ اللّهَ مَعَ الصَّابِرِينَ -
“แท้ที่จริงแล้วอัลลอฮฺทรงอยู่กับบรรดาผู้ที่อดทนทั้งหลาย”
ถือเป็นการให้กำลังใจอย่างยิ่งสำหรับผู้อดทน เพราะอัลลอฮฺทรงสัญญาว่า พระองค์จะทรงอยู่กับบรรดาผู้ที่อดทนทั้งหลาย
ท่านสัยยิด กุฏุบ เราะหิมะฮุลลอฮฺ ได้ กล่าวว่า “อัลลอฮฺทรงอยู่กับพวกเขา สนับสนุนพวกเขา ให้ความเข้มแข็งกับพวกเขา ให้พวกเขาสุขุมขึ้น ไม่ปล่อยพวกเขาผ่านทางไปโดยเพียงลำพัง ไม่ปล่อยให้พวกเขาหยุดอยู่กับพละกำลังอันจำกัด พละกำลังอันเล็กๆน้อยๆ ที่มีอยู่ พระองค์ทรงสนับสนุนและเพิ่มพูนเสบียงให้กับพวกเขา ให้กำลังใจ ให้พวกเขามีความตั้งใจตลอดการเดินทางแม้จะยาวไกล พระองค์ทรงเรียกพวกเขาในต้อนต้นอายะฮฺว่า “โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย” และสิ้นสุดลงด้วยพระดำรัสที่ว่า “แท้ที่จริงแล้วอัลลอฮฺทรงอยู่กับบรรดาผู้ที่อดทนทั้งหลาย” (ฟิซิลาลิลกุรอาน 2:60 )
สารัตถะสำคัญที่ได้รับจากบทเรียน
• ความอดทนและการละหมาด เป็นสิ่งที่จะช่วยให้บรรดาผู้ศรัทธา มีความมั่นคงและยืนหยัดในหลักการของศาสนา
• สำหรับผู้ที่จะมุ่งสู่โลกอาคิเราะฮฺนั้น จำเป็นสำหรับเขาที่ต้องใช้ความอดทนและการละหมาด ในการเป็นตัวช่วยให้เขาบรรลุถึงเป้าหมายนั้น
• การปฏิบัติศาสนกิจที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา ทรงสั่งใช้มานั้น แน่นอนต้องประสบกับอุปสรรคและความยากลำบาก แต่ด้วยความอดทนและการเข้าสู่การละหมาด จะช่วยให้เรายืนหยัดในสิ่งนั้นได้
• ทุกๆ ครั้งที่เรามีปัญหา ต้องการความช่วยเหลือเราอย่าได้ลืมคำแนะนำที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา ได้ให้ไว้ นั่นคือการอดทนและการเข้าสู่การละหมาด
• ทุกๆ ปัญหาที่เราได้พบเจอมันคือบททดสอบที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา ได้วางไว้เพื่อที่จะทดสอบพวกเราว่า ผู้ใดบ้างในหมู่พวกเราที่มีผลงานดียิ่งและเป็นผู้ศรัทธาที่เที่ยงแท้
• โดยแน่แท้ สำหรับผู้ที่อดทนนั้นพระองค์จะทรงอยู่กับเขา ช่วยเหลือเขา ไม่ปล่อยเขาให้เผชิญกับอุปสรรคโดยตามลำพังอย่างแน่นอน
แวมูฮัมหมัดซาบรี แวยะโก๊ะ / Islam house