อาหารสำหรับโรครูมาตอยด์ อาหารสำหรับผู้ป่วยโรครูมาตอยด์ อาหารสําหรับคนเป็น โรครูมาตอยด์
อาหารเสริมกับโรคข้อ |
นพ. พงษ์ศักดิ์ วัฒนา
เป็นความเชื่อของมนุษย์เราตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ที่พยายามขวนขวายหาวิธีการลดอาการปวดของข้อต่อที่อักเสบ ตลอดจนอาการปวดทุกชนิดที่เป็นเรื้อรังและไม่ทราบสาเหตุ โดยการเลือกหรืองดอาหารบางประเภทว่าสามารถลด อาการปวดลงได้ ในปัจจุบันนี้ได้มีการพิสูจน์ที่แน่นอนว่าอาหารที่มีกรดยูริกสูง อาทิเช่น เครื่องในสัตว์ ยอดผักบาง ประเภท จะทำให้มีอาการกำเริบในผู้ป่วยที่เป็นโรคเก๊าต์ได้ กรุณาเข้าใจว่าการงดอาหารเหล่านี้ ก็ไม่ได้ทำให้โรค เก๊าต์หายไป ด้วยยาที่รักษาโรคเก๊าต์ในปัจจุบัน ผู้ป่วยที่เป็นโรคเก๊าต์ก็ยังคงสามารถรับประทานอาหารที่มีกรดยูริกได้ และยังคงดื่มแอลกอฮอล์ในวงสังคมได้ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป แม้แต่ในประเทศไทยมีการจำหน่ายอาหารเสริมกันอย่างมากมาย และมีการอวดอ้างสรรพคุณในการรักษาโรคจากอาการปวดได้ทุกชนิด เป็นธุรกิจที่ดีมาก อาหารเสริมดังกล่าวมีดังนี้ 1. อาหารเสริมแคลเซี่ยม 2. วิตามินเสริม 3. น้ำมันจากปลา ( Fish Oil ) 4. เกลือแร่ต่าง ๆ เช่น ธาตุเหล็ก , ธาตุสังกะสี 5. สมุนไพรชนิดต่าง ๆ 6. กระเทียม 7. น้ำผึ้ง 8. กลูโคซามีน , ดอนครอยติน ( Glueosamine และ Chondroitin ) 9. น้ำผลไม้ น้ำจากลูกยอทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ อาหารเสริมเหล่านี้มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าสามารถรักษาโรคอาการปวดข้อ หรืออาการปวดเรื้อรัง น้อย มาก ในต่างประเทศกลุ่มของอาหารเสริมสามารถจะหาซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา ผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อซึ่งพวกเรา คงทราบแล้ว ว่ากว่าร้อยละ90ของโรคข้อเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด จำเป็นต้องรับประทานยาต้านการอักเสบ (N’SAID s) เป็นระยะเวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี ก็พยายามดิ้นรนที่จะรักษาโรคข้อ ให้หายขาดจากการแนะนำของ เพื่อน การโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ หรือการซื้อขายทางตรง ( Direct Sale ) เพื่อหวังว่าอาการทางโรคข้อมีโอกาส หายขาดได้ การซื้ออาหารเสริมมารับประทานกันเองทำให้ต้องสูญเสียเงินทองอย่างมหาศาลในแต่ละปีผู้เขียนเคยพบ อาหารเสริมจำนวนมากมายจากผู้ป่วยที่มารักษาที่คลินิกส่วนตัวที่นำมาให้ดู โดยที่ญาติอาจจะเป็นลูกหรือพี่น้องที่หวัง ดีซื้อส่งมาจากประเทศอเมริกา มาให้รับประทานวิตามินเสริม ในขนาดที่แนะนำจะไม่เกิดอันตรายต่อสุขภาพแต่ถ้ารับ ประทานวิตามินเอ หรือวิตามินดี ในขนาดที่สูงกว่าที่กำหนดไว้จะมีอันตรายต่อสุขภาพได้ อาหารเสริมที่มีไขมันต่ำ และมีใยอาหาร ผลไม้หรือผัก จะมีประโยชน์ต่อคนทุกคน ธาตุเหล็ก ใช้ในการรักษาในโรคโลหิตจาง ซึ่งพบบ่อยใน คนที่เป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ สาเหตุการเป็นโรคโลหิตจางมีสาเหตุจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์เอง หรือจากการ รับประทานยาต้านอักเสบ ( N ’ SAID s ) ทำให้เกิดแผลในกระเพาะหรือจากรับประทานยาสเตียรอยด์มานาน ๆ การรับประทานธาตุเหล็กอย่างเดียวอาจจะไม่ได้ผล ควรปรึกษาแพทย์โรคข้อทุกครั้งก่อนรับประทานธาตุเหล็ก แคลเซี่ยมเป็นอาหารเสริมยอดฮิตในปัจจุบันประชาชนทั่วไปเมื่อมีอาการปวดจากข้อเสื่อมหรือข้ออักเสบชนิดใดก็ตาม จะไปซื้อแคลเซี่ยมมารับประทาน ทำให้บริษัทขายนมมีการผสมระดับของแคลเซี่ยมให้สูงขึ้น เพื่อเป็นจุดขายของ สินค้าของตน แคลเซี่ยมจะมีประโยชน์ 1. ในเด็กที่กำลังเจริญเติบโต 2. ผู้หญิงตั้งครรภ์ที่ต้องแบ่งแคลเซี่ยมที่แม่รับประทานไปให้ลูกในท้อง 3. ในผู้สูงอายุที่รับประทานลำบาก และระบบย่อยอาหารไม่ค่อยดี 4. ในผู้หญิงที่หมดประจำเดือน มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำลง แคลเซี่ยมจะช่วยให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ป้องกันโรคกระดูกโปร่งบาง ( Osteoporosis ) ซึ่งโรคนี้ปกติจะไม่ค่อยมี อาการปวด จะมีอาการปวดเมื่อกระดูกหักแล้วประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่าแคลเซี่ยมสามารถรักษาโรคข้ออักเสบ ได้ ( Arthritis ) บางคนดื่มนมตลอดทั้งวันเพื่อให้อาการปวดเข่าหายไป ซึ่งนอกจากจะเสียเงินแล้วยิ่งทำให้ตนเอง อ้วนมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ข้อเข่าเสื่อมมากขึ้น กลูโคซามีน และคอนตรอยติน อาหารเสริมในกลุ่มนี้เป็นที่นิยมกันมาก มีกว่า 100 ชนิด ผลิตจากหลายบริษัท กลูโคซามีน สกัดมาจากกระดองปู กุ้งมังกร และเปลือกกุ้ง ส่วนคอนตรอยติน สกัดมาจากหลอดลมของวัว ควาย โดยเชื่อว่าสารทั้ง 2 ชนิดนี้จะช่วยซ่อมสร้างผิวกระดูกอ่อนที่ปลายกระดูกในข้อต่อ เสื่อม ให้กลับฟื้นขึ้นมาได้ และทำให้ลดอาการปวดลง แพทย์กระดูกและข้อในประเทศสหรัฐอเมริกาไม่เชื่อว่า อาหารเสริมกลุ่มนี้ช่วยรักษาข้อเสื่อมได้ แต่แพทย์กระดูกและข้อในทวีปยุโรปมีความเชื่อว่าช่วยรักษาได้ โดยสรุปแล้วการรักษาโรคข้อเสื่อมด้วยกลูโคซามีน และคอนดรอยตินในโรคข้อเสื่อมยังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ แต่มีหลักการคร่าว ๆ ดังนี้ ถ้ารับประทานยาในกลุ่มนี้แล้วไม่ได้ผลในการลดอาการปวดจากข้อเสื่อมในระยะเวลา 1 – 2 เดือน ควรหยุดยาได้แล้ว ปกติจะได้ผลในระยะเวลา 6 – 8 สัปดาห์ โดยใช้ขนาดดังนี้ กลูโคซามีน 1,500 มก. / วัน คอนดรอยติน 1,200 มก. / วัน 1. โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นโรคข้ออักเสบที่พบได้บ่อย ร้อยละ 0.3-1.5 ในประชากรทั่วไปเป็นโรคข้อที่ไม่ ่ทราบสาเหตุ และรักษาไม่หายขาด มีการอักเสบของข้อต่อทุกข้อในร่างกายในช่วงศตวรรษที่ผ่านมาได้มีผู้พยายาม ที่จะหาวิธีการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ให้หายขาดการรักษาในปัจจุบันได้แต่ใช้ยากดอาหารอักเสบของข้อต่อให้ ้นานที่สุดที่จะนานได้ การให้อาหารเสริมซึ่งผลการรักษายังไม่ได้ผลแน่นอน การให้อาหารเสริมมีหลักการในการรักษาดังนี้ ลักษณะที่ 1 เป็นการเสริมอาหารที่ช่วยลดอาการปวดลงในอาหาร ลักษณะที่ 2 เป็นการกำจัดสารที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุของอาการปวด หรืออาการกำเริบออกจากอาหาร อย่างไรก็ตาม อาหารที่มีไขมันต่ำ มีใยอาหาร , ผลไม้ , ผัก จะมีประโยชน์อย่างมากในผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ มักจะมีอาการของโรคโลหิตจางร่วมด้วย อาจจะมาจากยาต้านการอักเสบ ( N ’ SAID s ) ที่รับประทานนาน ๆ ทำให้เป็นโรคแผลในกระเพาะและมีเลือดออกการรับประทานธาตุเหล็กอย่างเดียวอาจไม่ได้ผล 2. โรคข้อเสื่อม พบบ่อยในผู้ที่น้ำหนักตัวมาก และผู้สูงอายุ เป็นกับข้อต่อที่รับน้ำหนัก เช่น ข้อเข่า , ข้อตะโพก การลดน้ำหนักตัวด้วยการรับประทานอาหารที่ถูกวิธีร่วมกับการออกกำลังกาย ถ้าท่านมีปัญหาในการลดน้ำหนัก ปรึกษาแพทย์จะปลอดภัยที่สุด 3. โรคกระดูกพรุน , โรคกระดูกโปร่งบาง (Osteoporosis)โรคกระดูกพรุนพบบ่อยในผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ผู้หญิงหลังหมดประจำเดือนแล้ว การรักษาโรคกระดูกโปร่งบาง หรือกระดูกพรุน โดยการออกกำลังกายสม่ำเสมอจะ ทำให้กระดูกแข็งแรงได้ ผู้หญิงหลังหมดประจำเดือนแล้วควรให้อาหารเสริมแคลเซี่ยม 1 กรัม / วัน , วิตามินดี 40 ยูนิต / วัน ( นมที่ปราศจากไขมันครึ่งลิตรจะมีแคลเซี่ยมสูง 700 มก. ) ถ้าท่านอยากจะลองรับประทานอาหารเสริมขอแนะนำดังนี้
|
แหล่งที่มา : thaiarthritis.org