ชมห้อง dna คือ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ dna การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทาง dna
เยี่ยมห้องแล็ป และ ทำความรู้จักกับ DNA
วิชาการดอทคอมได้ไปเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการชีววิทยาด้าน Molecular Biology ของภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อชมการสาธิตกระบวนการแยกสารพันธุกรรม DNA จากใบพืช โดยมี อาจารย์ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ และ นางสาวปองทิพย์ ใจดี นิสิตปริญญาโทสาขาชีววิทยาเป็นผู้พาชมห้องแล็ปและสาธิต ห้องปฏิบัติการนี้ทำหน้าที่แยกสารพันธุกรรมทั้งของพืชและสัตว์ เพื่อใช้ในการวิจัยของภาควิชาชีววิทยา
DNA คืออะไร
สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ สุนัข คน ล้วนประกอบขึ้นมาจากเซลล์ โดยที่แต่ละเซลล์มีลักษณะพื้นฐานคล้ายๆกัน ก็คือมีเยื่อหุ้มเซลล์ล้อมรอบและมีนิวเคลียสอยู่ตรงกลางคล้ายไข่แดงอยู่กลางไข่ขาว ภายในนิวเคลียสก็จะมีสารพันธุกรรมอยู่ สารพันธุกรรมนี้มีชื่อเรียกว่า โครโมโซม ซึ่งในกรณีของมนุษย์มีอยู่ด้วยกัน 23 คู่ โดยโครโมโซมแต่ละคู่ครึ่งหนึ่งได้รับมาจากแม่ และอีกครึ่งหนึ่งได้รับมาจากพ่อ แต่ละโครโมโซมนั้นประกอบขึ้นสารพันธุกรรมที่เรียกว่า DNA ซึ่งย่อมาจาก Deoxyribonucleic acid มีโครงสร้างเป็นเส้นคู่บิดเข้าหากันเป็นเกรียว สารพันธุกรรมใน DNA ประกอบด้วยการจับตัวกันของสารเคมี 4 ชนิด ที่เรียกว่า เบส คือ A G C T สารเคมี 4 ชนิดนี้จะเรียงตัวกันเป็นลักษณะของการเข้ารหัสโดยเรียงลำดับสลับไปสลับมามีความยาวกว่า 3,000 ล้านต่อเส้น เราเรียกว่ารหัสพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมลักษณะของสิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดก็จะมีรหัสพันธุกรรมที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งในการแพทย์ การสืบสวนสอบสวน เช่น ใช้แทนลายนิ้วมือที่เรียกว่า DNA Fingerprint นอกจากนี้ยังช่วยให้การศึกษาด้านชีววิทยาทำได้ง่ายขึ้นด้วย ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ จากภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นกับเรื่องนี้ว่า
DNA จะช่วยเสริมข้อมูลให้กับนักชีววิทยาในการหาความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด วิวัฒนาการของมัน หรือแม้กระทั่งถิ่นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตที่สนใจ
การวิเคราะห์ DNA
DNA ที่นำมาให้วิชาการดอมคอมทดลองวิเคราะห์ดูเป็น DNA ที่ได้จากพืชไม้ประดับชนิดหนึ่งที่ชื่อ ต้นลิปสติก ซึ่งตัวอย่างใบพืชเก็บรักษาอยู่ในเจลเพื่อป้องกันความชื้นและแช่ในตู้เย็นที่ความเย็น -20 องศาเซลเซียส การแยก DNA นั้นในขั้นแรกจะต้องทำการบดใบไม้ตัวอย่างในโกร่งให้ละเอียด ใช้ไนโตรเจนเหลวช่วยในการบด จากนั้นก็จะใส่สารเคมีบางชนิดที่สามารถทำลายผนังเซลของพืช เพื่อให้ของเหลวภายในเซลของต้นไม้ หลุดออกมาข้างนอกเซลได้ ของเหลวในเซลที่หลุดออกมามีหลายชนิดทั้งโปรตีน DNA RNA ฯลฯ เราจึงต้องใช้กระบวนการทางเคมีเข้ามาช่วยสกัดสารที่ไม่ต้องการออกไปและให้เหลือไว้เฉพาะแต่ DNA รายละเอียดในขั้นตอนนี้ค่อนข้างซับซ้อนและใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ปองทิพย์ ใจดี บอกกับวิชาการว่า ถ้าเราสกัด DNA ได้คุณภาพดีจะได้เป็นสายยาว แต่ถ้ากระบวนการสกัดไม่ดีพอ DNA ที่ได้ก็จะขาดเป็นสายเล็ก ๆ ก่อนที่เราจะนำ DNA ที่สกัดได้ไปใช้เราจะต้องทำการวิเคราะห์ ดีเอ็นเอ ด้วยวิธี อากาโรส เจล อิเลคโตรโฟรีซิส (Agarose Gel Electrophoresis)
วิชาการดอทคอมได้มีโอกาสทดลองทำกระบวนการวิเคราะห์ DNA และเก็บภาพมาฝากกันค่ะ
ขั้นแรกต้องทำการเตรียม Agarose Gel ก่อน ก็คล้าย ๆ กับการทำวุ้นที่เรารับประทานนั่นแหละค่ะโดยผสมกับTBE บัฟเฟอร์ แทนน้ำเพื่อการนำไฟฟ้าที่ดี และวุ้นก็เป็นแบบพิเศษและอุ่นด้วยความร้อนเพื่อให้เจลละลาย (ร้อนมากค่ะต้องใส่ถุงมือ) |
จากนั้นก็รอให้เย็นประมาณ 10 นาที แล้วจึงค่อย ๆ เทเจลที่เราผสมไว้ลงในเครื่องอิเลคโตรโฟรีซิส เพื่อวิเคราะห์ DNA ซึ่งเครื่องนี้มีหลักการคือ ทำให้ DNA ซึ่งมีประจุบลบ เคลื่อนที่ด้วยไฟฟ้ากระแสตรงจากขั้วบวกและลบ ซึ่งขนาดของ DNA ที่ต่างกัน จะทำให้ ความเร็วในการเคลื่อนที่ต่างกัน ดังนั้นระยะทางที่เคลื่อนที่ได้ ก็สามารถแยกชนิดของ DNA ได้ |
ใช้ ไมโครปิเปต ดูด DNA ที่เราสกัดได้มาหยดกับสีที่เตรียมไว้ (1 หยดต่อ 1 ตัวอย่าง จะไม่มีการปนเปื้อน) เราผสมสีกับ DNA เพื่อติดตามการเคลื่อนที่ของ DNA ค่ะ |
โหลดลงบน แผ่นเจล ที่เตรียมไว้แล้วในเครื่องอิเลคโตรโฟรีซิส (ที่เห็นเป็นจุดน้ำเงิน) |
เสร็จแล้วค่ะ DNA เคลื่อนที่แล้ว หลังจากที่รอเครื่องทำงานเป็นเวลา 30 นาที (สังเกตจาก DNA เคลื่อนที่ออกจากจุดที่เราโหลดไว้เปรียบเทียบจากภาพข้างบน) |
แหล่งที่มา : vcharkarn.com