ประโยชน์ของสตรอเบอร์รี่ ประวัติสาวสตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก พันธุวิศวกรรม สตรอเบอร์รี่
การผลิตสตรอเบอร์รี่ด้วยต้นไหลคุณภาพดี
สตรอเบอร์รี่ (Strawberry, Fragaria x ananassa) จัดเป็นไม้ผลสำคัญทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่งในภาคเหนือที่มีศักยภาพสูงในการส่งออก ดังจะเห็นได้จากผลผลิตกว่าร้อยละ 60 ได้ถูกส่งไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศ ที่สำคัญคือ ญี่ปุ่น ส่วนที่เหลือถูกนำมาใช้เพื่อการแปรรูปเป็นแยมและบริโภคสดในประเทศ ซึ่งยังมีปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะตลาดเพื่อการบริโภคสดที่มีแนวโน้มความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี สตรอเบอร์รี่มีพื้นที่ปลูกสำคัญอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เนื่องจากมีสภาพอากาศหนาวเย็นเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและติดดอกออกผล โดยเกษตรกรจะเริ่มปลูกสตรอเบอร์รี่ในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม และไปเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงเดือนธันวาคมถึงเมษายนของปีถัดไป ได้ผลผลิตรวมกันประมาณ 7,000 – 8,000 ตันต่อปี ทำรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่าปีละ 120 ล้านบาท
ปัญหาสำคัญของการปลูกสตรอเบอร์รี่ คือ การขาดแคลนต้นไหลคุณภาพดี ทำให้เกษตรกรใช้ต้นไหลเท่าที่จัดหาได้มาปลูกทั้งๆ ที่มีคุณภาพต่ำ มีอัตราการเจริญเติบโตต่ำ อ่อนแอต่อโรคและแมลงศัตรู ผลที่ตามมาก็คือการดูแลรักษายุ่งยากขึ้น ทั้งการพ่นสารเคมี การให้น้ำ ใส่ปุ๋ย แต่ปริมาณผลผลิตต่อไร่กลับลดลง ท้ายที่สุดเกษตรกรต้องทำการปลูกซ่อมแซมสูงถึงร้อยละ 20 – 30 อีกทั้งยังได้ผลผลิตเพียง 2.5 – 3.0 ตันต่อไร่เท่านั้น ขณะที่ประเทศที่มีการพัฒนาระบบการปลูกแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศในยุโรป ได้ผลผลิตสูงถึง 7 – 9 ตันต่อไร่ หรือแม้แต่ประเทศคู่แข่งสำคัญของไทย เช่น เกาหลีใต้ จีน และไต้หวัน ต่างก็มีผลผลิตเฉลี่ยสูงกว่าประเทศไทยทั้งสิ้น
ในต่างประเทศที่มีการปลูกสตรอเบอร์รี่เป็นอุตสาหกรรม เช่น ประเทศในแถบยุโรป สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ได้ให้ความสำคัญกับการผลิตต้นไหลคุณภาพดีเป็นอย่างมาก โดยได้พัฒนาวิธีการขยายพันธุ์ต้นไหลด้วยเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และการจัดการเขตกรรมอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้ต้นไหลแม่พันธุ์ที่มีคุณภาพดี สมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากการปนเปื้อนของโรคแมลงศัตรู รวมทั้งมีกลไกการรับรองคุณภาพต้นไหลแม่พันธุ์จากหน่วยงานที่รับผิดชอบด้วย ยกตัวอย่างเช่น การผลิตต้นไหลในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งบริษัทหรือเกษตรกรที่ผลิตต้นไหลเพื่อการจำหน่ายจะเลือกผลิตบนพื้นที่สูง มีอุณหภูมิหนาวเย็น และห่างไกลจากแหล่งปลูกสตรอเบอร์รี่เพื่อการผลิตผลสด เพื่อลดการเข้าทำลายของโรคและแมลง ในขณะที่เกษตรกรในประเทศไทยยังนิยมขยายต้นไหลโดยการคัดเลือกไหลที่เจริญออกมาจากต้นสตรอเบอร์รี่ในแปลงปลูกที่กำลังให้ผล แล้วนำไปปลูกบนดอยซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไป เพื่ออาศัยสภาพอากาศที่หนาวเย็นในตอนกลางคืนและช่วงวันสั้นช่วยกระตุ้นการสร้างตาดอก อีกทั้งเกษตรกรมักนิยมปลูกต้นไหลในถุงพลาสติก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว ซึ่งบรรจุดินที่มีธาตุอาหารต่ำและอัดกันแน่น… จึงไม่เป็นที่น่าประหลาดใจเลยว่าเหตุใดประเทศไทยจึงได้ต้นไหลที่มีคุณภาพไม่สม่ำเสมอ อ่อนแอ ต้นเล็ก ไม่แข็งแรง และมีระบบรากไม่สมบูรณ์ รวมทั้งมีการสะสมโรคต่างๆ ไว้มากมาย เมื่อเกษตรกรนำต้นไหลเหล่านี้ไปปลูกจึงทำให้ได้ผลผลิตต่ำ และมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
นอกจากวิธีการผลิตแล้ว แหล่งพื้นที่เพาะปลูกก็เป็นปัจจัยที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคุณภาพการผลิตของต้นไหล อาทิเช่น พื้นที่ผลิตไหลกับแปลงปลูกเพื่อการผลิตผลสดอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันหรืออยู่ในพื้นที่เดียวกัน เป็นสาเหตุให้เกิดการสะสมของโรคและแมลงศัตรูต่างๆ มากขึ้น
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหลายเหล่านี้คือตัวอย่างของปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการพัฒนาการผลิตต้นไหลคุณภาพดีในประเทศไทย ที่ผ่านมาคณะทำงานวิจัยและพัฒนาสตรอเบอร์รี่ มูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับมหาวิทยาลัยและหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้วางแนวทางการวิจัยและพัฒนาการผลิตต้นไหลสตรอเบอร์รี่คุณภาพดี ในการที่จะปรับเปลี่ยนระบบการผลิตต้นไหลของเกษตรกรจากแบบดั้งเดิม มาใช้ต้นไหลแม่พันธุ์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และส่งเสริมให้เกษตรกรทั่วไปใช้ต้นไหลคุณภาพดี โดยการแทรกแซงในระบบการผลิตแบบเดิม ซึ่งมีปริมาณการใช้ปีละ ประมาณ 25 - 30 ล้านต้น ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ ดังนั้นหากต้องการจะให้งานบรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายตามที่วางไว้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการผลักดันแผนงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากหน่วยงานที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยี นักวิจัย นักถ่ายทอดเทคโนโลยี พ่อค้า ผู้ประกอบการ และตัวเกษตรกรเอง เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตสตรอเบอร์รี่ของประเทศให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป
สัมฤทธิ์ เกียววงษ์
หน่วยบริการเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาชนบท
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ
แหล่งที่มา : vcharkarn.com