โรคกรดไหลย้อน อาการ โรคกรดไหลย้อน สาเหตุ อาหารรักษาโรคกรดไหลย้อน


632 ผู้ชม


โรคกรดไหลย้อน อาการ โรคกรดไหลย้อน สาเหตุ อาหารรักษาโรคกรดไหลย้อน

 

 

"โรคกรดไหลย้อน" (GERD) - ชีวิตและสุขภาพ

โรคกรดไหลย้อนเป็นภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการสำคัญ ได้แก่ อาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก และมีน้ำรสเปรี้ยวหรือรสขม ไหลย้อนขึ้นมาทางปาก ภาวะกรดไหลย้อนนี้ ถ้าเป็นเรื้อรังอาจทำให้เกิดพยาธิสภาพในหลอดอาหาร ได้แก่ หลอดอาหารอักเสบ มีเลือดออกจากหลอดอาหาร และอาจจะทำให้ปลายหลอดอาหารตีบได้ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุหลอดอาหาร ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงจะกลายเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้ในที่สุดอาการของผู้ป่วยขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ถูกระคายเคืองโดยกรด เช่น
1. อาการทางคอหอยและหลอดอาหาร
• กลืนลำบาก ติด ๆ ขัด ๆ คล้ายมีก้อนอยู่ในคอ หรือกลืนเจ็บ
• เจ็บคอ มีเสมหะอยู่ในลำคอ โดยเฉพาะในตอนเช้า หรือระคายคอตลอดเวลา
• อาการปวดแสบร้อนบริเวณหน้าอกและลิ้นปี่ บางครั้งอาจร้าวไปที่บริเวณคอได้
• เรอบ่อย คลื่นไส้ คล้ายมีอาหารหรือน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาในอกหรือคอ
• รู้สึกเหมือนมีรสขมของน้ำดี หรือรสเปรี้ยวของกรดในคอ หรือปาก

2. อาการนอกระบบหลอดอาหาร
• มีกลิ่นปาก เสียวฟัน หรือมีฟันผุได้
• เป็นหวัดเรื้อรัง
• เสียงแหบเรื้อรัง หรือแหบเฉพาะตอนเช้า หรือมีเสียงผิดปกติไปจากเดิม
• ไอเรื้อรัง รู้สึกสำลักน้ำลาย หรือหายใจไม่ออกในเวลากลางคืน จนอาจทำให้ต้องตื่นกลางดึก
• อาการหอบหืดที่เคยเป็นอยู่ (ถ้ามี) แย่ลง หรือไม่ดีขึ้นจากการใช้ยา เจ็บหน้าอก โรคปอดอักเสบ เป็น ๆ หาย ๆการรักษา
1. ปรับเปลี่ยนนิสัย และการดำเนินชีวิตประจำวัน  (lifestyle modification) และหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรค

2. การรักษาโดยการใช้ยาการปรับเปลี่ยนนิสัยและการดำเนินชีวิตประจำวัน ควรปฏิบัติดังนี้
นิสัยส่วนตัว
• อย่าให้เครียด และงดการสูบบุหรี่
• หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าที่คับ หรือรัดแน่น โดยเฉพาะบริเวณรอบเอว
• พยายามลดน้ำหนักถ้าน้ำหนักเกิน
• ถ้ามีอาการท้องผูก ควรรักษาและหลีกเลี่ยงการเบ่ง
นิสัยในการรับประทานอาหาร
• หลีกเลี่ยงการนอนราบ ออกกำลัง การยกของหนัก การเอี้ยวหรือก้มตัว หลังจากรับประทานอาหารทันที หรืออย่างน้อยควรห่างกัน 3 ชม.
• รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยการทอด อาหารมัน อาหารย่อยยาก พืชผักบางชนิด เช่น หัวหอม กระเทียม มะเขือเทศ ฟาสต์ฟู้ด
• หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกช็อกโกแลต ถั่ว ลูกอมเปปเปอร์มินต์ส เนย ไข่ นมหรืออาหารที่มีรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด หวานจัด  กาแฟ ชา  น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์
• รับประทานอาหารปริมาณพอดีในแต่ละมื้อ  ไม่ควรรับประทานอาหารจนอิ่มแน่นท้องมาก
นิสัยการนอน
• ไม่ควรนอนหลังการรับประทานอาหารทันที  หรืออย่างน้อยควรห่างกัน 3 ชม.
• เวลานอน ควรหนุนหัวเตียงให้สูงขึ้นประมาณ 6-10 นิ้วจากพื้นราบ
การรับประทานยา
• ควรรับประทานยาสม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง ไม่ควรลดขนาดยาหรือหยุดยาเอง และมาพบแพทย์ตามแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่องเพื่อปรับขนาดยา
• อย่าซื้อยารับประทานเองเวลาป่วย เนื่องจากยาบางชนิดจะทำให้กระเพาะอาหารมีการหลั่งกรดเพิ่มขึ้น หรือกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนล่างคลายตัวมากขึ้น
• ประมาณร้อยละ 90 ของผู้ป่วยที่มีอาการของโรคกรดไหลย้อน สามารถควบคุมอาการได้ด้วยยา
ข้อมูลจาก นายแพทย์จีรวัส  ศิลาสุวรรณ อายุรแพทย์ระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลพญาไท 2 https://www.

 

 

 

 

แหล่งที่มา :  dailynews.co.th , phyathai.com นายแพทย์จีรวัส  ศิลาสุวรรณ อายุรแพทย์ระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลพญาไท 2

อัพเดทล่าสุด