อารยธรรมญี่ปุ่น อารยธรรมญี่ปุ่นก่อนประวัติศาสตร์ อารยธรรมญี่ปุ่นยุคโบราณ
>>ยุคก่อนประวัติศาสตร์และยุคโบราณ (8,000 ปีก่อนคริสตกาล – ศตวรรษที่ 11)
ในยุคนี้เริ่มต้นจากการรวมตัวของชนเผ่าเล็กๆ จนกลายมาเป็นจักรวรรดิ และได้รับอิทธิพลการปกครองมาจากประเทศจีนโดยใช้ระบบที่เรียกว่า “ ริทสึเรียว คือ การใช้กฎหมายและหลักจริยธรรมตามแบบราชวงศ์สุยกับราชวงศ์ถัง” เป็นหลักในการปกครอง แต่ภายหลังเกิดความขัดแย้งขึ้นมาจนลุกลามออกไป หัวเมืองที่อยู่ห่างไกลแยกตัวจากรัฐบาลกลาง และก่อตั้งเป็นกลุ่มทหารกลุ่มต่างๆเพื่อปกครองเมืองของตนเองแทน
ยุคก่อนประวัติศาสตร์และยุคโบราณ แบ่งออกเป็น 5 สมัย คือ
- สมัยโจมน
- สมัยยะโยะอิ
- สมัยสุสานโบราณ
- สมัยนะระ
- สมัยเฮอัน
สมัยโจมน (縄文時代じょうもんじだい)
กล่าวคือประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นหมู่เกาะและมีผู้อาศัยมาตั้งแต่สมัยยุคหินเก่า ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่ายุคนี้เป็นต้นกำเนิดของภาษาญี่ปุ่น สมัยโจมงเรียกตามรูปแบบเครื่องปั้นดินเผาโจมงที่มีลวดลายคล้ายกับเชือก
ในสมัยนี้ชาวญี่ปุ่นจะขุดหลุมเพื่อทำเป็นที่อยู่อาศัย และมักจะอยู่รวมกันหลายๆ คน และยังมีการผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากหินด้วยความประณีต มีการพัฒนาวิธีการล่าสัตว์โดยใช้คันธนูและลูกธนู ตลอดจนมีการผลิตภาชนะเครื่องปั้นดินเผาใส่อาหารและเก็บรักษาอาหาร
สมัยยะโยะอิ (弥生時代やよいじだい)
ในช่วงต้นของยุคยะโยอิมีการพัฒนาถึงความรู้ทางด้านการเกษตร เช่นการปลูกข้าว การทำเครื่องใช้โลหะ และยังได้รับวัฒนธรรมของประเทศเกาหลีและประเทศจีนเข้ามาด้วยคือ พิธีการเคารพบูชาภูติผีปีศาจ ชาวญี่ปุ่นในยุคนี้จะนิยมใช้เครื่องมือเครื่องใช้ทำด้วยเหล็กในการเพาะปลูก เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และใช้ดาบที่ทำด้วยทองแดงและกระจกในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา การจัดแบ่งงานทำให้ช่องว่างระหว่างผู้ปกครองดินแดนและผู้อยู่ใต้การปกครองกว้างขึ้น ในช่วงนี้รัฐเล็กๆ จำนวนมากจึงได้ก่อตัวขึ้นทั่วประเทศจึงทำให้เกิด ความแตกต่าง ระหว่างความรวยความจน การแบ่งชนชั้น การปรับกลุ่มชาวนาให้เป็นกลุ่มนักปกครอง
สมัยสุสานโบราณ (古墳時代こふんじだい)
สาเหตุที่เรียนชื่อยุคนี้ว่า ยุคสุสานโบราณเพราะว่า ตั้งชื่อตามสุสานที่นิยมสร้างขึ้นกัน มีลักษณะเป็นรูปกุญแจขนาดใหญ่
ในยุคนี้ ความรู้ และวิทยาการต่าง ๆ จากประเทศจีน และประเศเกาหลีได้หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก การต่าง ๆ เข้ามา เช่น การผลิตเครื่องโลหะ เครื่องปั้นดินเผา การทอผ้า การถลุงเหล็ก และวิศวกรรมโยธา รวมทั้งมีการเริ่มใช้อักษรคันจิซึ่งเป็นตัวอักษรของจีนด้วย และเมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 6 ลัทธิขงจื้อ กับศาสนาพุทธก็ได้แพร่หลายเข้ามาในญี่ปุ่นเช่นกัน
สมัยนะระ (奈良時代ならじだい)
ประเทศญี่ปุ่นได้เข้าสู่ยุคนี้เมื่อ ญี่ปุ่นมีเมืองหลวงเมืองแรกเกิดขึ้นอย่างถาวร คือเมือง เฮโจเกียว ซึ่งได้สร้างแบบเมือง
ฉางอาน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศจีนในขณะนั้น
ในสมัยนี้ศาสนาพุทธได้รับการทำนุบำรุงอย่างดี ทำให้วัฒนธรรมหรือศิลปะทางพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากทางด้านวัฒนธรรมในสมัยนั้น การแต่งตัว สถาปัตยกรรม ฯลฯ ยังปรากฏให้เห็นวัฒนธรรมที่ยังคงแบบจีนอยู่ อาจจะมีความแตกต่างกันนิดหน่อยในรายระเอียดย่อยๆ เช่นบันทึกที่เขียนเป็นตัวอักษรจีนแต่อ่านเป็นภาษาญี่ปุ่น “โคะจิกิ”
สมัยเฮอัน (平安時代へいあんじだい)
ในสมัยนี้มีการย้ายเมืองหลวงใหม่มาอยู่ที่เมือง เฮอันเกียว ซึ่งคือเมืองเกียวโตในปัจจุบัน และยังมีการปกครองแบบจีน คือ ริทสึเรียว กลับมาใช้กับประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จ และเป็นยุคที่วัฒนธรรมแบบจีนเสื่อมลงตามไปด้วยและอารยธรรมญี่ปุ่นเริ่มที่จะมีลักษณะและรูปแบบเป็นของตนเอง คือได้มีการพัฒนาของตัวอักษรญี่ปุ่นในสมัยเฮอัน ความซับซ้อนของการเขียนของจีนทำให้นักเขียนและพระคิดค้นรูปพยางค์ขึ้นสองระบบโดยยึดรูปแบบอย่างของจีน ภายในกลางสมัยเฮอัน ได้มีการปรับปรุงพยัญชนะที่เรียกกันว่า ฮิระงะนะ และคะตะคะนะ และนำมาใช้กันอย่างกว้างขวาง
แหล่งที่มา : nihongo.igetweb.com