รู้จักคำนาม 4 ชนิด Proper Noun, Common Noun, Abstract Noun และ Collective Noun
Noun (คำนาม)
เนื้อหา เหมาะสำหรับนักเรียน ระดับชั้น ม.1
สาระที่ ๒ ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตัวชี้วัด ม. 1/1 บอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
คำนาม ( Nouns ) หมายถึงคำที่ใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งต่างๆ สถานที่ คุณสมบัติ สภาพ อาการ การกระทำ ความคิด ความรู้สึก ทั้งที่มีรูปร่างให้มองเห็น และไม่มีรูปร่าง เราแบ่งคำนามออกเป็น 4 ประเภท คือ
1.Common Nouns เป็นคำนามที่ใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ทั่วๆไป ความคิด ( person, animal, place, thing, idea ) โดยไม่เฉพาะเจาะจง กล่าวโดยสรุปคือ คำนามทั้งหลายที่ไม่ใช่ proper nouns คือ common nouns เช่น
สิ่งของ boy, sign, table, hill, water, sugar, atom, elephant
สถานที่ city, hill, road, stadium, school,company
เหตุการณ์ revolution, journey, meeting
ความรู้สึก fear, hate, love
เวลา year, minute, millennium
* Common Nouns เป็นได้ทั้ง นามนับได้ (Countable) และนามนับไม่ได้ ( Uncountable )
Countable Nouns ( นามนับได้ ) สามารถอยู่ทั้งในรูปเอกพจน์หรือพหูพจน์
มีตัวตน เช่น dog, man, coin , note, dollar, table, suitcase
ไม่มีตัวตน เช่น day, month, year, action, feeling
Uncountable Nouns (นามนับไม่ได้ ) หรือ Mass Nouns อยู่ในรูปเอกพจน์ เท่านั้น
มีตัวตน เช่น furniture, luggage, rice, sugar , water ,gold
ไม่มีตัวตน เช่น music, love, happiness, knowledge, advice , information
| Common countable | Common uncountable | ||
indefinite(ไม่เจาะจง) | definite(เจาะจง) | indefinite(ไม่เจาะจง) | definite(เจาะจง) | |
Singular | a cow | the cow | milk | the milk |
plural | cows | the cows | - | - |
* Common Nouns จะไม่ขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่ ( Capital letter ) ยกเว้นเป็นคำขึ้นต้นของประโยค ตัวอย่าง
Ther are many children on the beach. Children love to swim.
2.Proper Nouns ( นามเฉพาะ ) จะต้องขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่เสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของประโยค
* เป็นคำนามที่เป็นชื่อเฉพาะของ Common Noun เช่น
ชื่อคน (Person Name) เช่น Somsak , Tom, Daeng
ชื่อสถานที่ ( Place Name) เช่น Australia,Bangkok,Sukhumvit Road, Toyota
ชื่อบอกระยะเวลา (Time name ) เช่น Saturday, January, Christmas
* Proper Nouns จะต้องเขียนขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่ ( Capital letter )
* Proper Nouns ปกติจะไม่มี determiner นำหน้า นอกจากอยู่ในรูปของพหูจน์ เช่น the Jones ( ครอบครัวโจนส์ )
the United States, the Himalayas
แต่อย่างไรก็ดีมีข้อยกเว้นของคำนามที่ไม่ได้อยู่ในรูปพหูพจน์ เช่น The White House, the Sahara ( ทะเลทราย ),
the Pacific ( Ocean ), the Vatican, the Kremlin ( ดูรายละเอียดจากเรื่องการใช้ articles – the )
- เปรียบเทียบระหว่าง common nouns และ proper nouns
Common Nouns | Proper Nouns |
dog | Lassie ( ชื่อของสุนัข ) |
boy | Jack ( ชื่อของเด็กชาย) |
car | Toyota ( ชื่อยี่ห้อรถ ) |
month | January ( ชื่อของเดือน) |
road | Sukhumvit ( ชื่อถนน ) |
university | Chulalongkorn ( ชื่อมหาวิทยาลัย) |
ship | U.S.S. Enterprise ( ชื่อเรือ ) |
country | Thailand (ชื่อประเทศ ) |
3.Abstract Nouns
เป็นคำนามของสิ่งที่ไม่มีรูปร่าง ไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยประสาททั้ง 5 ( touch- สัมผัสได้, sight-มองเห็นได้, taste-ชิมได้ , hearing- ได้ยิน, smell- ได้กลิ่น ) เป็นนามที่บอกลักษณะ สภาวะ อาการ เมื่อแปลเป็นภาษาไทยมักจะมีคำว่า ความ การนำหน้าอยู่ด้วยรวมทั้งชื่อศิลปวิทยาการต่างๆ
Abstract Nouns จะมีที่มาจากคำกริยา ( verb) ,คำคุณศัพท์ ( adjective) และ คำนาม ( noun) ด้วยกันเองบ้าง เช่น
Abstract Nouns จะมีที่มาจากคำกริยา ( verb) ,คำคุณศัพท์ ( adjective) และ คำนาม ( noun) ด้วยกันเองบ้าง เช่น
Abstract Nouns ที่มาจากคำกริยา | Abstract Nouns ที่มาจากคำคุณศัพท์ | Abstract Nouns ที่มาจากคำนาม |
decision - to decide | beauty - beautiful | infancy - infant |
thought - to think | poverty - poor | childhood - child |
Imagination - to imagine | vacancy - vacant | friendship - friend |
speech - to speak | happiness - happy | |
growth - to grow | wisdom - wise |
4. Collective noun เป็นคำนามของสิ่งที่เป็นหมวดหมู่ กลุ่มของคน สัตว์ สิ่งของ เช่น family , class, company, committee, cabinet, audience, board, group, jury, public, society, team, majority orchestra, party เป็นต้นรวมทั้ง a flock of birds, a herd of cattle ,a fleet of ships เป็นต้น อาจจะใช้คำกริยารูปของเอกพจน์หรือพหูพจน์ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้ ว่าต้องการให้เป็นหนึ่งเดียวหรือเป็นแต่ละส่วน แต่คำนามยังเป็นรูปเดิม เปลี่ยนแต่รูปกริยา เช่น
เอกพจน์ : The average British family has 3.6 members.
ครอบครัวชาวอังกฤษ (ครอบครัวหนึ่ง ) มีสมาชิกโดยเฉลี่ย 3.6 คน
พหูพจน์: The family are always fighting among themselves. ครอบครัวนี้มักจะทะเลาะกันเอง
( ประโยคนี้มีความหมายว่าสมาชิกในครอบครัวต่างทะเลาะกันเองทั้งครอบครัว จึงใช้กริยาเป็นพหูพจน์ )
เอกพจน์: The committee has reached its decision. คณะกรรมการได้ผลการตัดสินใจ
( ของคณะกรรมการรวมกันทั้งคณะ)
พหูพจน์: The committee have been arguing all morning over what they should do.
คณะกรรมการเถียงกันตลอดทั้งเช้าว่าควรจะทำ อะไร
( กรรมการแต่ละคนนับเป็น 1 หน่วย ทั้งคณะจึงเป็นพหูพจน์ )
Collective noun บางคำมีความหมายเป็นพหูพจน์เท่านั้น เช่น people, police, cattle
นอกจากนี้ยังมีรูปแบบ คำวลีผสมด้วย of เพื่อเน้นให้ความเป็นหมู่หรือคณะให้ชัดเจนขึ้น รูปแบบคือ Collective noun + of +common noun ตัวอย่างเช่น
a flock of birds | a group of students |
a flock of sheep | a pack of cards |
a herd of cattle | a bunch of flowers |
a fleet of ships | a kilo of pork |
คำถามนำสู่การอภิปรายชั้นเรียน
1. Do you know Noun in English,give me examples of nouns?
2. How many kinds of nouns in English?
ขั้นตอนการสอน
1. ถามคำถามนำเข้าสู่บทเรียน
2.เปิดวีดีโอแนะนำคำนาม
<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/MZcka8Zg-uc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
3. แจกใบความรู้(เนื้อหาด้านบน) ให้นักเรียนศึกษา
4. ดูวีดีโอประกอบ เรื่องชนิดของคำนาม
<iframe width="420" height="315" src="//www.youtube.com/embed/2iBbHmyJwHM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
5. ทบทวนด้วยเกมส์ Noun Dunk
6. ทำแบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดที่ 1 : หาคำนามที่เป็นบุคคล
แบบฝึกหัดที่ 2 : หาคำนามที่เป็นสถานที่
แบบฝึกหัดที่ 3 : หาคำนามที่เป็นสัตว์หรือสิ่งของ
ที่มา : https://ict.moph.go.th/English/content/nouns01.htm
https://www.harcourtschool.com/activity/basketball/index_pre.html
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=3071