ว๊าย !!! ดวงจันทร์เปลี่ยนไป


717 ผู้ชม


เมื่อมองขึ้นไปบนดวงจันทร์คุณเห็นอะไร? กระต่าย ตากับยาย หรือ ......   

 เอาบ้าง.....รัสเชียคัดเอกชนสร้างจรวดส่งคนไปดวงจันทร์

             สำนักข่าวบีบีซีนิวส์ระบุว่า องค์การอวกาศรัสเซีย (Russian space agency) หรือ รอสคอสมอส (Roscosmos) ได้ผู้ชนะการประมูลในการเสนอโครงการสร้างยานอวกาศอวกาศ ส่งคนไปปฏิบัติภารกิจบนดวงจันทร์แล้ว โครงการนี้ถือเป็นแผนงานด้านอวกาศชิ้นแรกของรัสเซียที่ มีเป้าหมายหลักอยู่ที่ดวงจันทร์ นับแต่ปี พ.ศ.2507 อีกทั้งนับเป็นครั้งที่ 2 หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลาย ที่มอสโควได้รับรองการพัฒนายานอวกาศลำใหม่ โดยคาดว่าจะได้ทดสอบจรวดใหม่ประมาณปี 2558 [https://www.manager.co.th วันที่ 19 มีนาคม 2552 เวลา 08.48 น.]

            ในระหว่างที่รอให้ประเทศไทยสามารถสร้างจรวดหรือยานอวกาศเพื่อพาพวกเราไปท่องโลกอวกาศ เราก็มาใช้ชีวิตอย่างพอเพียง โดยการพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ นั่นคือมาศึกษาทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านที่แสนดีของเราให้ถ่องแท้กันดีกว่า

[เนื้อหานี้เหมาะสำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 1-2 และผู้สนใจทั่วไป]

1. ดวงจันทร์เพื่อนบ้านของเรา

ว๊าย !!! ดวงจันทร์เปลี่ยนไป     ว๊าย !!! ดวงจันทร์เปลี่ยนไป   
ที่มาภาพ : https://stloe.stkc.go.th/html/lo_index/LOcanada9/903/images/moon.jpg
ที่มาภาพ : https://www.pibul.ac.th/wordpress/wp-content/uploads/2007/09/mercury1.jpg

             ดวงจันทร์เป็นบริวารของโลกอยู่ห่างออกไป 36,104 กิโลเมตร มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3,476.28 กิโลเมตร ดวงจันทร์ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง แต่ขณะโคจรไปนั้นดวงจันทร์ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์แล้วสะท้อนมายังโลก ทำให้คนที่อยู่บนโลกมองเห็น ดวงจันทร์ในคืนวันเพ็ญซึ่งเราจะเห็นผิวพื้นของดวงจันทร์ได้เต็มดวงและด้วยตาเปล่า จะเห็นรอยดำๆ ปรากฏทั่วไปในพื้นดินคล้ายกับเป็นรูปของกระต่ายหรือยายตำข้าวตามความเชื่อของคนโบราณ  แต่ถ้ามองดูผิวพื้นของ ดวงจันทร์ด้วยกล้องโทรทรรศน์แรงสูง จะพบหุบเหวลึกๆ อันเป็นลักษณะของภูเขาไฟที่ดับแล้วจำนวนนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ตามผิวพื้นราบยังปรากฏเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่มหึมาอีกมากมาย ซึ่งเข้าใจกันว่า เกิดจากการกระแทกอย่างแรงของสะเก็ดดาวนอกเวหาที่พุ่งเข้าชนดวงจันทร์ เช่นเดียว กับหลุมลึกที่เกิดจากดาวตกพุ่งเข้าชนผิวโลกในทะเลทรายมลรัฐอริโซนาสหรัฐอเมริกา เมื่อสมัยก่อนประวัติศาสตร์                              

 2. การเคลื่อนที่ของดวงจันทร์
                ดวงจันทร์มีการเคลื่อนที่ 3 แบบ คือ  หมุนรอบตัวเองรอบละ  29.5  วัน  โคจรรอบโลกรอบละ 29.5 วัน และขณะเดียว กันก็โคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยรอบละ 12 เดือน ดวงจันทร์หมุนรอบตัวเองใช้เวลาเท่ากับเวลาที่ใช้ในการโคจรรอบโลก ดังนั้น เมื่อเรามองจากโลก เราจะมองเห็นดวงจันทร์เพียงด้านเดียวเสมอ
                             

ว๊าย !!! ดวงจันทร์เปลี่ยนไป

                                   ที่มาภาพ :  https://school.obec.go.th/siewthai/scince_p425_clip_image002.jpg    
 

3. วิธีสังเกตดวงจันทร์
         ดวงจันทร์วันเพ็ญ(เต็มดวง) จะขึ้นที่ขอบฟ้าตะวันออก ทันทีที่ดวงอาทิตย์ตกเวลาประมาณ 18.00 น. หลังจากวันนี้ดวงจันทร์จะขึ้นตำแหน่งเดิม คือ ตรงขอบฟ้า แต่จะช้าไปวันละประมาณ 50 นาที แต่เนื่องจากขณะที่ดวงจันทร์จะขึ้นจากขอบฟ้าตะวันออกเราจะสังเกตได้ยาก เพราะอาจมีบ้านเรือน ต้นไม้ หรือสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ บัง ดังนั้นเราอาจกำหนดเวลาสังเกตดวงจันทร์ เมื่อเรามองเห็นดวงจันทร์ได้ชัดเจน

 4. ปรากฏการณ์ข้างขึ้นข้างแรม

ว๊าย !!! ดวงจันทร์เปลี่ยนไป

         แสงสว่างจากดวงจันทร์ที่เรามองเห็นนั้นเป็นผลมาจากการสะท้อนแสงของดวงอาทิตย์ด้านที่รับแสงซึ่งหันมาทางโลก เมื่อเรามองดวงจันทร์จากโลก จะเห็นดวงจันทร์มีรูปร่างเปลี่ยนไปทุกคืน ตามตำแหน่งของดวงจันทร์ที่โคจรรอบโลก บางคืนดวงจันทร์เป็นดวงกลมสว่างเต็มดวง บางคืนสว่างครึ่งดวง บางคืนเป็นเสี้ยว และบางคืนมองไม่เห็นดวงจันทร์เลย


        คืนใดที่ดวงจันทร์มืดหรือมองไม่เห็นดวงจันทร์ โลกเราจะมืดไปด้วย คืนต่อมาเราจะเห็นดวงจันทร์เป็นเสี้ยวโตขึ้น และโตขึ้นในคืนถัดมา ระยะที่เราเห็นดวงจันทร์โตขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคืนเช่นนี้ เราเรียกว่า ข้างขึ้น  มีระยะเวลาประมาณ 15 วัน

ว๊าย !!! ดวงจันทร์เปลี่ยนไป
ที่มาภาพ : https://www.thai-school.net/view_tj.php?ID=896
       เมื่อดวงจันทร์โตขึ้นจนสว่างเต็มดวงแล้ว คืนต่อมาเราจะเห็นดวงจันทร์เล็กลง เล็กลงเรื่อย ๆ ในคืนถัดมา จนมืดหมดทั้งดวง ระยะเวลาที่เราเห็นดวงจันทร์เล็กลงเรื่อย ๆ ทุกคืนเช่นนี้ เราเรียกว่า ข้างแรม มีระยะเวลาประมาณ 15 วัน

 ว๊าย !!! ดวงจันทร์เปลี่ยนไป
ที่มาภาพ : https://www.thai-school.net/view_tj.php?ID=896

6.แบบจำลองการเกิดข้างขึ้นข้างแรม

ว๊าย !!! ดวงจันทร์เปลี่ยนไป

ที่มาภาพ : https://www.dlf.ac.th/dltv/dltv-uploads/libs/html/1753/picture/animate_lab3.gif       

จากแผนภาพ สามารถอธิบายได้ ดังนี้
 
ตำแหน่งที่ 1               เป็นตำแหน่งที่ดวงจันทร์อยู่ระหว่างดวงอาทิตย์กับโลก จะเป็นวันแรม 15 ค่ำ จะมองไม่เห็น
                               ดวงจันทร์ เพราะดวงจันทร์สะท้อนแสงอาทิตย์ไปด้านอื่น เรียกว่า “วันเดือนดับ” หรือคืนเดือนมืด
ตำแหน่งที่ 2 – 4          เป็นตำแหน่งที่จะเริ่มมองเห็นดวงจันทร์เป็นรูปเสี้ยว และหันด้านเว้าไปทางทิศตะวันตก จากนั้น
                               จะค่อย ๆ มองเห็นแสงจากดวงจันทร์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเป็นครึ่งดวง (ตำแหน่งที่ 3) และ
                               เพิ่มเป็นค่อนดวง(ตำแหน่งที่ 4) 
ตำแหน่งที่ 5               เป็นตำแหน่งที่ดวงจันทร์อยู่ตรงกับโลกและดวงอาทิตย์จะเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งจะมองเห็นแสง
                               ของดวงจันทร์เต็มดวงเรียกว่า “วันเพ็ญ” หรือ 
คืนเดือนหงาย
ตำแหน่งที่ 6 – 8         เป็นตำแหน่งที่จะเริ่มมองเห็นแสงสะท้อนลดลงจากค่อนดวง (ตำแหน่ง 6) เป็นครึ่งดวง
                               (ตำแหน่ง 7) และจนกระทั่งเห็นดวงจันทร์เป็นรูปเสี้ยว (ตำแหน่ง 8)โดยหันด้านเว้าไปทางทิศ
                               ตะวันออก

7. กิจกรรมต่อยอดความคิด

     - ลองมาสังเกตดวงจันทร์ในเวลา 1 เดือน บันทึกการเปลี่ยนแปลงที่พบ  แล้วส่งมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะคะ
     - จัดทำปฏิทินดวงจันทร์ที่แสดงข้างขึ้นข้างข้างแรมในเวลา 1 เดือน
     - ศึกษาในหัวข้อที่เกี่ยวกับดวงจันทร์ที่ตนเองสนใจแล้วนำมาเขียนรายงานหรือจัดแสดงให้เพื่อน ๆ ชม 
       [ชมตัวอย่าง...คลิก  1  ]
     - อภิปรายถึงความสำคัญของข้างขึ้นข้างแรมกับสังคมไทย
     - วาดภาพสิ่งที่จินตนาการว่าจะพบบนดวงจันทร์

8. เอกสารอ่านเสริมเพิ่มความรู้

     -  การสังเกตดวงจันทร์ข้างขึ้นข้างแรม
     -  ปฏิทินทางจันทรคติ
     -  วันสำคัญทางพระพุทธศานากับข้างขึ้นข้างแรม
     
9. การบูรณาการกับกลุ่มสาระอื่น ๆ
    9.1 สาระสังคมศีกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

           
- วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
           - การอ่านปฏิทินทางจันทรคติ

    9.2 สาระศิลปะ

          - การวาดภาพตามจินตนาการในหัวข้อ "สิ่งที่ฉันพบบนดวงจันทร์"


 
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=105

อัพเดทล่าสุด