บทที่ 5 DNA การสังเคราะห์โปรตีน


1,180 ผู้ชม


DNA กับการสังเคราะห์โปรตีน ประกอบด้วย RNA 3 ชนิด รหัสพันธุกรรม ไรโบโซม เอนไซม์ของDNAaseและRNAase  
 

DNA กับการสังเคราะห์โปรตีน

1


ที่มา members.tripod.com/.../lillys_rdna_insulin.htm

โครงสร้างและชนิดของ RNA

RNA มีโครงสร้างคล้าย DNA ประกอบด้วยนิวคลีโอไทด์เรียงต่อกันด้วยพันธะฟอสโพไดเอสเทอร์เป็นโพลีนิวคลี โอไทด์ แต่องค์ประกอบนิวคลีโอไทด์แตกต่างกันที่น้ำตาลและเบส โดย น้ำตาลของ RNA เป็นไรโบส ส่วนเบสใน RNA มียูราซิล (u) มาแทนไทมีน(T) 
RNA ในเซลล์มีปริมาณมากมาย มากกว่า DNA 5-10 เท่า หน้าที่หลักเกี่ยวข้องกับ กระบวนการสังเคราะห์โปรตีน RNA ในเซลล์ส่วนใหญ่เป็นสายเดี่ยว (single standed) เนื่องจาก RNA ต้องมีโครงสร้างสามมิติที่ถูกต้องสำหรับทำหน้าที่ภายในเซลล์ดังนั้น RNA อาจจะเสียสภาพได้ด้วยความร้อน และpHสูงๆ เช่นเดียวกับ DNA แต่โครงสร้างส่วนที่เป็นเกลียวเป็นช่วงสั้นๆเท่านั้น จึงทำให้เสียสภาพได้ง่ายกว่า DNA

ชนิดของ RNA
ภายในเซลล์มี RNA 3 ชนิด ดังนี้
1. เมสเซนเจอร์อาร์เอ็นเอ หรือ เอ็มอาร์เอ็นเอ ( messenger RNA : mRNA) เป็นอาร์เอ็นเอที่ได้จากกระบวนการถอดรหัส ( transcription ) ของสายใดสายหนึ่งของดีเอ็นเอ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นรหัสพันธุกรรมที่ใช้ในการสังเคราะห์โปรตีน
2. ทรานสเฟอร์อาร์เอ็นเอ หรือ ทีอาร์เอ็นเอ ( transfer RNA : tRNA) อาร์เอ็นเอชนิดนี้ผลิตจากดีเอ็นเอเช่นเดียวกัน ทำหน้าที่ในการนำกรดอะมิโนต่างๆ ไปยังไรโบโซม ซึ่งเป็นแหล่งที่มีการสังเคราะห์โปรตีน ในไซโทพลาซึม
3. ไรโบโซมอลอาร์เอ็นเอ หรือ อาร์อาร์เอ็นเอ (ribosomal RNA : rRNA ) อาร์เอ็นเอชนิดนี้ผลิตจากดีเอ็นเอโดยกระบวนการถอดรหัสเช่นเดียวกัน แต่ทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบของไรโบโซมโดยอาร์เอ็นเอรวมกับโปรตีนกลายเป็น หน่วยของไรโบโซม

บทที่ 5 DNA การสังเคราะห์โปรตีน      บทที่ 5 DNA การสังเคราะห์โปรตีน      บทที่ 5 DNA การสังเคราะห์โปรตีน
mRNA                              mRNA                      t RNA

การสังเคราะห์ RNA

การสังเคราะห์ RNA จำเป็นต้องอาศัย DNA สายหนึ่งเป็นต้นแบบ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1. พอลินิวคลีโอไทด์สองสายของดีเอ็นเอคลายเกลียวแยกจากกันบริเวณที่
จะมีการสังเคราะห์ RNA
2. นำนิวคลีโอไทด์ของ RNA เข้าจับกับเบสของ DNA แต่ใน RNA ไม่มีไทมีน(T)
มียูราซิล (U) แทน
3. การสังเคราะห์ RNA เริ่มจากปลาย 3’ไปยังปลาย 5’ของ DNA โมเลกุลของ RNA 
จึงเริ่มจากปลาย 5’ ไปยังปลาย 3’ 
4. นิวคลีโอไทด์ของ RNA เชื่อมต่อกันโดยอาศัย เอนไซม์ ชื่อ อาร์เอ็นเอพอลิเมอเรส
( RNA polymerase)
ขั้นตอนการสังเคราะห์ RNA โดยมี DNA เป็นแม่พิมพ์นี้ เรียกว่า ทรานสคริปชัน(transcription)

บทที่ 5 DNA การสังเคราะห์โปรตีน

บทที่ 5 DNA การสังเคราะห์โปรตีน

บทที่ 5 DNA การสังเคราะห์โปรตีน

https://www.bioarunya.th.gs/web-b/ioarunya/bio043.htm
ภาพที่ 6.5 การสังเคราะห์ RNA

รหัสพันธุกรรม

รหัสพันธุกรรม คือ ลำดับของเบสบน DNA ซึ่งถ่ายทอดไปยัง RNA ในการสังเคราะห์โปรตีน เบสใน DNA มีเพียง 4 ตัว ส่วนกรดอะมิโนมีอย่างน้อย 20 ชนิด ดังนั้นรหัสหนึ่ง ๆ จะต้องประกอบด้วยเบสอย่างน้อย 3 ตัว ประกอบกัน และจากการคำนวณรหัสหนึ่งมีเบส 3 ตัวจะได้รหัสจำนวนถึง 64 รหัสด้วยกัน ซึ่งมากเกินพอสำหรับกรดอะมิโนที่มีอยู่ในธรรมชาติ จากการทดลองทำให้ทราบว่ามีหลาย ๆ รหัสที่มีความหมายสำหรับกรดอะมิโนตัวเดียวกัน รหัสบน mRNA นี้เรียกว่า โคดอนซึ่งมีเบสคู่รวมกับเบสอิสระ
บน tRNA ที่เรียกว่า แอนทิโคดอน

ตารางที่ 6.1 แสดงรหัสพันธุกรรม

รหัสพันธุกรรม (Genetic Code) = triplet codon      43 = 64

ชนิดของเบสตำแหน่งที่ 1

ชนิดของเบสตำแหน่งที่ 2

ชนิดของเบสตำแหน่งที่ 3

U

C

A

G

U

UUU     Phe 
UUC     Phe 
UUA     Leu 
UUG     Leu

UCU     Ser 
UCC     Ser 
UCA     Ser 
UCG     Ser

UAU     Try 
UAC     Try 
UAA     Stop 
UAG     Stop

UGU     Cys 
UGC     Cys 
UGA     Stop 
UGG     Trp




G

C

CUU     Leu 
CUC     Leu 
CUA     Leu 
CUG     Leu

CCU     Pro 
CCC     Pro 
CCA     Pro 
CCG     Pro

CAU     His 
CAC     His 
CAA     Gln 
CAG     Gln

CGU     Arg 
CGC     Arg 
CGA     Arg 
CGG     Arg




G

A

AUU     Ile 
AUC     Ile 
AUA     Ile 
AUG     Met

ACU     Thr 
ACC     Thr 
ACA     Thr 
ACG     Thr

AAU     Asn 
AAC     Asn 
AAA     Lys 
AAG     Lys

AGU     Ser 
AGC     Ser 
AGA     Arg 
AGG     Arg




G

G

GUU     Val 
GUC     Val 
GUA     Val 
GUG     Val

GCU     Ala 
GCC     Ala 
GCA     Ala 
GCG     Ala

GAU     Asp 
GAC     Asp 
GAA     Glu 
GAG     Glu

GGU     Gly 
GGC     Gly 
GGA     Gly 
GGG     Gly




G

คำสั่ง  ให้นักเรียนสืบค้นและวิเคราะห์กระบวนการสังเคราะห์โปรตีนที่ไรโบโซม

การสังเคราะห์โปรตีน

 DNA ทำหน้าที่ในการกำหนดชนิดของโปรตีนที่เซลล์สังเคราะห์ขึ้นมาเพื่อนำไปใช้ใน กิจกรรมต่างๆ ภายในเซลล์ ลำดับเบสในโมเลกุลของ   DNA ของยีนหนึ่งจะเป็นตัวกำหนดการเรียงตัวของกรดอะมิโนชนิดต่างๆ ของโปรตีนที่
จะสังเคราะห์ขึ้นมา
     DNA แต่ละโมเลกุลแตกต่างกันที่ลำดับเบส ซึ่งมีเพียง 4 ชนิด คือ A  T  C  G  ถ้ามีนิวคลีโอไทด์ 2 โมเลกุลเรียงต่อกัน  ลำดับเบส  4 ตัว นี้จะแตกต่างกัน เท่ากับ 42 = 16 แบบได้แก่ AA  AT  TA  AC  CA  AG  GA  TT  TC  CT  TG  GT  CC  CG  GC  และGG  จำนวน 16 แบบนี้ ไม่เพียงพอที่จะเป็นรหัสให้แก่กรดอะมิโนซึ่งมีประมาณ 20 ชนิด ถ้ามีนิวคลีโอไทด์ 3 โมเลกุลเรียงต่อกัน  ลำดับเบส 4 ตัวนี้ จะแตกต่างกันเท่ากับ 43 = 64 แบบ ซึ่งเกินกว่าจำนวนชนิดของกรดอะมิโนที่มีอยู่ 
      ใน พ.ศ. 2504 เอ็ม.ดับบลิว. ไนเรนเบิร์ก ( M.W.Nirenberg) และ เจ.เอ็ช. แมททัย ( J.H.  Matthei)  ชาวอเมริกัน  ได้ค้นพบรหัสพันธุกรรมแรก คือ   UUU ซึ่งเป็นรหัสของกรดอะมิโนชนิด ฟินิลอะลานีน ( phenylalanine) และต่อมามีการค้นพบเพิ่มเติมขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งใน พ.ศ. 2509 พบรหัสพันธุกรรมถึง 61 รหัสด้วยกัน เหลือเพียง 3 รหัส คือ UAA , UAG และ  UGA ซึ่งไม่พบเป็นรหัสของกรดอะมิโนใดๆ ภายหลังจึงพบว่า รหัสทั้งสามนี้ทำหน้าที่หยุดการสังเคราะห์โปรตีน  นอกจากนี้ยังพบว่า AUGซึ่งเป็นรหัสของกรดอะมิโนชนิดเมไทโอนีน ( methionine ) เป็นรหัสตั้งต้นของการสังเคราะห์โปรตีนอีกด้วยการสังเคราะห์โปรตีนเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นในไซโทพลาซึมของเซลล์โดยมีออร์แกเนล์ ที่เกี่ยวข้องคือไรโบโซม เมื่อDNA ภายในนิวเคลียส  สังเคราะห์ mRNA    ลำดับของ mRNA ซึ่งเป็นรหัสพันธุกรรมนี้ถูกกำหนดโดยลำดับเบสของDNA เรียก ขั้นตอนการสังเคราะห์mRNA ว่า การถอดรหัสพันธุกรรม  (Transcription)    mRNAจะถูกส่งออก มาที่ไซโทพลาซึม โดยmRNAจะนำรหัสพันธุกรรมไปสู่การ สังเคราะห์โปรตีน  โดยการทำงานของไรโบโซม ร่วมกับ tRNA ที่ทำหน้าที่ นำกรดอะมิโนมาเรียงต่อกันตามรหัสพันธุกรรม ของ mRNA   ไรโบโซมหน่วยเล็กจะเข้าไปจับกับmRNAก่อน ต่อจากนั้นtRNA โมเลกุลแรกนำกรดอะ มิโนเข้าจับกับ mRNA ในไรโบโซม แล้วไรโบโซมหน่วยใหญ่จึงจะเข้าจับ ต่อจาก นั้น tRNA โมเลกุลที่สองจะเข้าจับกับ mRNA อิกตำแหน่งหนึ่ง  จนกระทั่งไรโบโซมเครื่อนที่ไปพบรหัสที่ทำหน้าที่หยุดการสังเคราะห์โปรตีนไรโบโซม ก็จะแยกออกจากmRNA การสังเคราะห์โปรตีนจึงสี้นสุดลงและการสังเคราะแบบนี้เรียกว่า
การแปลรหัสพันธุกรรม (Translation)

บทที่ 5 DNA การสังเคราะห์โปรตีน

ที่มา https://bioweb.uwlax.edu/GenWeb/Molecular/Theory/Translation/translation.htm

บทที่ 5 DNA การสังเคราะห์โปรตีน

ที่มา https://bioweb.uwlax.edu/GenWeb/Molecular/Theory/Translation/translation.htm
ภาพที่
 6.6 การสังเคราะห์โปรตีน

translation การแปลรหัสพันธุกรรม

 

คำอธิบาย : เป็นการแปลรหัสของอาร์เอนเอนำรหัส (mRNA) โดยที่ อาร์เอนเอนำรหัส (mRNA) อาร์เอนเอถ่ายทอด (tRNA)และไรโบโซมอลอาร์เอนเอ (rRNA) ทำหน้าร่วมกันในการสังเคราะห์โปรตีน หรือสายโพลีเปปไตด์บนไรโบโซม โดยมีตัวช่วยสร้าง คือ เอนไซม์และแฟกเตอร์ต่างๆ 

 


การสังเคราะห์โปรตีน (protein synthesis) มี 3 ขั้นตอนโดยสังเขป คือ
  1. ขั้นเริ่มต้น (initiation) :
  2. ขั้นต่อสาย (elongation) :
  3. ขั้นหยุด (termination) :
ไรโบโซมหน่วยย่อยเล็กมาจับที่ mRNA จากนั้น tRNA ที่นำกรดอะมิโนตัวแรกเข้ามาจับ แล้วไรโบโซมหน่วยย่อยใหญ่จึงมาจับ mRNA เป็นลำดับต่อไป 
ไรโบโซมเคลื่อนที่ไปตามสาย mRNA จากปลาย 5' ไป 3' และมีการต่อสายโพลีเปปไตด์ให้ยาวขึ้นเรื่อยๆ จากปลายอะมิโนไปสู่ปลายคาร์บอกซิล
เป็นขั้นตอนการหยุดสร้างสายโพลีเปปไตด์์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อไรโบโซมเคลื่อนที่มาถึงรหัสหยุด และจะไม่มี tRNA นำกรดอะมิโนมาต่อสายโพลีเปปไตด์์อีก ในขั้นนี้มีการปลดปล่อยสายโพลีเปปไตด์์ mRNA และไรโบโซมออกจากกัน

บทที่ 5 DNA การสังเคราะห์โปรตีน

เซลล์ของสิ่งมีชีวิต

1.โปรคาริโอติค เซลล์ (prokaryotic cell) 

เป็น เซลล์ที่ไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียสห่อหุ้มสารพันธุกรรม (genetic material) ได้แก่ เซลล์ของแบคทีเรีย ริคเก็ตเซีย และสาหร่าย สีน้ำเงินแกมเขียว (ภาพที่ 6.7)

บทที่ 5 DNA การสังเคราะห์โปรตีน

ภาพที่ 6.7 โครงสร้างและองค์ประกอบของเซลล์โปรคาริโอต

 2. ยูคาริโอติค เซลล์ (eukaryotic cell) 
เซลล์ที่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียสห่อหุ้มสารพันธุกรรม ได้แก่ เซลล์ของ ยีสต์ รา โปรโตซัว เซลล์สัตว์ต่าง ๆ (ภาพที่ 6.8) และเซลล์พืช (ภาพที่ 6.9)

บทที่ 5 DNA การสังเคราะห์โปรตีน

ภาพที่ 6.8  โครงสร้างและองค์ประกอบของเซลล์สัตว์

https://reg.ksu.ac.th/teacher/myweb/Bio1/courseBio1/chapter%203.doc

บทที่ 5 DNA การสังเคราะห์โปรตีน

ภาพที่ 5.9  โครงสร้างและองค์ประกอบของเซลล์พืช

https://reg.ksu.ac.th/teacher/myweb/Bio1/courseBio1/chapter%203.doc

การ สังเคราะห์โปรตีนพวกยูคาริโอตจะเกิดในไซโทรพลาสซึม โดยจะมีการถอดรหัสภายในนิวเคลียส mRNA จะออกจากนิวเคลียสแล้วแปลรหัสในไซโทรพลาสซึม ส่วนพวกโพรคาริโอตกระบวนการถอดรหัสและแปลรหัสสามารถเกิดได้ต่อเนื่องกัน โดยที่ mRNA ที่สังเคราะห์มาจาก DNA จะถูกนำไปแปลรหัสทันทีทั้งๆที่กระบวนการแปลรหัสยังไม่สิ้นสุค

ดำเนินการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ตามกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5Es-CLM โดยครูณัฐฎา  แสงคำ
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=595

อัพเดทล่าสุด