สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้จัดทำหนังสือคู่มือคุณธรรม จริยธรรม แห่งความเป็นคน ชื่อ "สอนคุณธรรมอย่างไรให้ดำรงสามัคคี" เป็นหนังสือที่ให้แง่คิด เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคนให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ดังนั้นเราจึงยกข้อสรุปนี้จาก วารสารวิชาการ มาเพื่อเ
สอนคุณธรรมอย่างไรให้ดำรงสามัคคี | |||
สอนคุณธรรมอย่างไรให้ดำรงสามัคคี สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้จัดทำหนังสือคู่มือคุณธรรม จริยธรรม แห่งความเป็นคน ชื่อ "สอนคุณธรรมอย่างไรให้ดำรงสามัคคี" เป็นหนังสือที่ให้แง่คิด เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคนให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ดังนั้นเราจึงยกข้อสรุปนี้จาก วารสารวิชาการ มาเพื่อเป็นสาระสำคัญเผยแพร่แก่ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษาและผู้สนใจทั่วไป เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง ดังนี้ คุณธรรมแม่บท 4 คุณธรรมแม่บท 4 ลักษณะจำเป็น 4 ประการ ที่ทำให้การกระทำได้ชื่อว่าดี หากไม่ครบก็ถือว่าเป็นความประพฤติไม่ดี ดังนี้
มโนธรรมเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขาดมิได้ เพราะเป็นองค์ประกอบที่ทำให้พฤติกรรมกลายเป็นความประพฤติ รู้ว่าอะไรชั่ว อันเป็นเงื่อนไขที่เปิดโอกาสให้มนุษย์ได้ตัดสินใจด้วยเจตนาจำนงเสรีเฉพาะตัวว่า จะทำดีหรือทำชั่ว ในเมื่อมีสิทธิเลือกตัดสินใจ ความรับผิดชอบต่อการเลือกของตนก็ตามมาเป็นของคู่กัน ดังนั้นจึงควรวิเคราะห์กันให้ถ่องแท้ เพื่อจะได้ตระหนักในคุณค่าของคุณธรรม ดังกลไกมโนธรรม ต่อไปนี้ มนุษย์ทำอะไรย่อมมีเป้าหมายของตนเอง มนุษย์เรามีส่วนเหมือนสัตว์เดรัจฉานทั้งหลายตรงที่ว่า ทำอะไรมีเป้าหมายที่มาจากสัญชาตญาณคือ ไม่ได้คิดเอง แต่ธรรมชาติผลักดันให้ทำเพราะมีเป้าหมายตามสัญชาตญาณ เพื่อเอาตัวรอดและการดำรงอยู่ของมนุษย์ชาติ เช่น การกิน อยู่ หลับ นอน สืบพันธุ์ เป็นต้น นอกเหนือไปจากนั้น มนุษย์ยังมีเป้าหมายจากใจของตนเองซึ่งจะแตกต่างกันไปตามบุคคล เมื่อมนุษย์มีเป้าหมายแล้วไม่ว่าจะมาจากสัญชาตญาณหรือจากใจของตนเอง มนุษย์เรามีเสรีภาพตัดสินใจเลือกว่าจะเดินตามหรือไม่ก็ได้ ซึ่งสัตว์เดรัจฉานไม่สามารถกระทำได้ ความสำนึกอย่างนี้เรียกว่า มีมโนธรรม เป้าหมายสุดท้ายของคนเราไม่เหมือนกัน บางคนจบลงแค่ความสะดวกสบายในโลกนี้ อยากกินอะไรได้กิน อย่างทำอะไรได้ทำ อยากเที่ยวที่ไหนได้เที่ยว นอกจากนั้นไม่สนใจ เรากำหนดคนประเภทนี้ว่า ในใจห้องขวาของเขามีอภิปรัชญาแบบสสารนิยม (Materialism) หรือ ธรรมชาตินิยม (Naturalism) นั่นคือ ไม่เชื่อว่ามีชีวิตเหนือธรรมชาติ หรือมีชีวิตหลังความตาย ธรรมชาตินิยมต่างจากสสารนิยมตรงที่ว่า มีจิตซึ่งเป็นองค์ประกอบของมนุษย์ สัตว์และพืช แต่จิตไม่ใช่วิญญาณอมตะ จิตแบบนี้จะสลายตัวไปพร้อมกับ ความตาย ส่วนสสารนิยม เชื่อว่าจิตไม่มี ที่เรียกว่า จิตนั้น คือ พลังงานของสสารซึ่งผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ทึกทักเอาว่าเป็นจิตหรือวิญญาณ ธรรมาภิบาลหรือ การบริหารงานที่ดี (Good Governance) ต้องมีเป้าหมายชัดเจนและมีนโยบายบริหารทรัพยากรทุกอย่างที่มีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิผลสูงสุด ใช้เวลาน้อยที่สุด และใช้จ่ายน้อยที่สุด ทรัพยากรแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ทรัพยากรมนุษย์ และทรัพยากรทรัพย์สิน ที่สำคัญ คือ ทรัพยากรมนุษย์ เพราะเป็นฝ่ายใช้ทรัพยากรทรัพย์สินตามความรู้ ความสามารถ อุดมการณ์และการตัดสินใจของแต่ละคน การบริหารทรัพยากรมนุษย์จึงต้องยืดหยุ่นภายใน 3 เกณฑ์ คือ เกณฑ์จำเป็น เกณฑ์เสริม และเกณฑ์ส่งเสริม การบริหารงานที่ดีของรัฐบาล (Good Governance for a Good Government) รัฐบาลที่ดีต้องใช้ทั้ง 3 เกณฑ์โดยผสมผสานกันอย่างเหมาะสม ด้วยคุณธรรมความพอเพียง คือ
ขณะนี้องค์กรที่เสียสละแรงงานแรงใจและเวลาสร้างเครือข่ายชักชวนให้ทำอะไรบางอย่างหรืออย่างน้อยสักอย่าง เพื่อตอบสนองพระราชดำริและเดินตามเบื้องพระยุคลบาทแห่งปรัชญาความพอเพียง และนโยบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านธรรมาภิบาล ด้วยคุณธรรม จริยธรรม เท่าที่สำรวจรู้มีไม่ต่ำกว่า 500 องค์กรกระจายกันอยู่ทั่วประเทศ หากสำรวจให้ทั่วถึงจริงก็คงจะมีถึง 1,000 องค์กรขึ้นไป จึงน่าจะหวังอย่างฝันหวานที่น่าจะเป็นจริงได้ว่า หากบรรดาวิทยากรแห่งองค์กรเหล่านี้ได้เข้าใจความสำคัญของคุณธรรม จริยธรรมแห่งความเป็นมนุษย์ และใช้เป็นพื้นฐานร่วมหรือเป็นคำอธิบายเสริม โดยแต่ละองค์กรซึ่งมีวิธีดีอยู่แล้วพร้อมกับประสบการณ์ที่มีอยู่ ก็จะรับรู้ได้ว่า เบื้องหลังของวิธีการและเนื้อหาที่สรรหามาอบรมและสอนกันได้มากมายพร้อมเทคนิคดีๆ อันทรงประสิทธิผลอยู่แล้วนั้น หากได้ตระหนักและรับรู้คุณธรรมจริยธรรมแห่งความเป็นมนุษย์ผนวกเข้าไปด้วย โดยถือว่าเป็นพื้นฐานรวมเพื่อการพัฒนาขยายความออกไปทางไหนก็ได้ และเชื่อมโยงไปถึงอะไรก็ได้ สามัคคีธรรมก็จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ สามัคคีธรรมเริ่มต้นที่ความเข้าใจและยอมรับร่วมกันว่า มนุษย์ทุกคนเป็นคนและในฐานะที่เป็นคนจึงมีความสามารถคิดในระดับปัญญา ส่วนหนึ่งของปัญญาคือ ให้ความสำนึกดี/ชั่ว คือ เมื่อจะต้องตัดสินใจทำอะไร ปัญญาจะบอกทันทีว่า ควรทำหรือควรละเว้นเสียงบอกเช่นนี้นักปราชญ์เขาเรียกว่า เสียงมโนธรรม ซึ่งแต่ละสาสนามีชื่อเรียกต่างๆ กัน และแปลเป็นภาษาไทยได้ต่างๆ กัน โดยมีความหมายเพิ่มเติม ตามรายละเอียดคำสอนของแต่ละศาสนา แต่พื้นฐานความคงไม่พ้นความสำนึกดี/ชั่ว อันเป็นนิยามของปรัชญาของมโนธรรม เมื่อมโนธรรมสั่งก็ย่อมจะต้องตัดสินใจว่าจะทำตาม มโนธรรมหรือฝ่าฝืนมโนธรรม ผลก็คือ ทำดีหรือทำชั่วเป็นครั้งๆ หากทำจนเคยชินก็เรียกว่าคุณธรรม คุณธรรมชุดหนึ่งๆ ที่ทำให้คนใดคนหนึ่งนับได้ว่าเป็นคนดี เรียกว่าจริยธรรม จริยธรรมจึงใช้เรียกคุณธรรมทั้งชุด แต่ละสาสนาจะมีชุดจริยธรรมไม่เหมือนกันในรายละเอียด นักปรัชญาทำการวิเคราะห์เชิงปรัชญาว่า ทุกระบบจริยธรรมจะต้องมีคุณสมบัติ 4 ประการ เรียกว่า คุณธรรมแม่บท คือ ความรู้รอบความพอเพียง ความเข้มแข็งและความยุติธรรม ซึ่งนิยามได้ 5 แบบ เฉพาะแบบที่ 5 คือ การให้แก่แต่ละคนตามสิทธิของเขา จึงถือได้ว่ามีความชอบธรรม ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้ คือ คุณธรรม จริยธรรมแห่งความเป็นมนุษย์ ซึ่งแต่ละสาสนาอาจจะอธิบายด้วยศัพท์ สำนวน และโวหาร อันเป็นที่ยอมรับในศาสนา โดยอ้างหลักฐานตามคัมภีร์และคำสอนของนักปราชญ์ในศาสนาของตนต่อไปอีกเท่าใดก็ได้ ส่วนนักปราชญ์ก็อาจจะอธิบายขยายความต่อไปได้มากมายหลายแบบตามแนวคิดของแต่ละสำนัก แต่เท่าที่เสนอขึ้นมาเป็นโครงสร้างที่เป็นข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์อันเป็นผลจากการสังเกตกระบวนการคิดของตนเอง และสังเกตการแสดงออกของมนุษย์โดยทั่วไป ก็ย่อมถือได้ว่ามรดกร่วมของความเป็นมนุษย์ที่คนทุกคนพึงสำนึกและใช้ให้เป็นประโยชน์ร่วมกันในการศึกษา เรื่องคุณธรรมจริยธรรม เพื่อให้เกิดสามัคคีธรรม | |||
|