มีการค้นพบไวรัสที่ทำอันตรายให้กับมนุษย์อยู่ตลอดเวลา ล่าสุดจากนิตยสารแลนเซต ประเทศอังกฤษ รายงานผลการศึกษาใหม่ของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอดินบะระในสก็อตแลนด์ซึ่ง เป็นการศึกษาระดับโลกครั้งแรก ค้นพบว่าไวรัสที่มีชื่อว่าอาร์เอสวี (RSV : respiratory syncytial vir
ไวรัสบุกรุก...สิ่งที่ชีวิตที่ซุกซ่อนในตัวคุณ
ที่มาของภาพ : https://viromag.wordpress.com/2009/02/06/avian-influenza-some-facts/
กระทรวงสาธารณสุข เตือนอันตราย ไวรัส “อาร์เอสวี” คร่าชีวิตเด็กทั่วโลกปีละ 2 แสนราย ร้อยละ 99 อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ในไทยพบเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ กว่า 1 หมื่นคน ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้แล้วนางพรรณสิริ กุลนารถศิริ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยกรณีที่นิตยสารแลนเซต ประเทศอังกฤษ รายงานผลการศึกษาใหม่ของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอดินบะระในสก็อตแลนด์ซึ่ง เป็นการศึกษาระดับโลกครั้งแรก ค้นพบว่าไวรัสที่มีชื่อว่าอาร์เอสวี (RSV : respiratory syncytial virus) เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดของการติดเชื้อในปอดของเด็ก ทำให้เกิดโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ คร่าชีวิตเด็กทั่วโลกถึงปีละ200,000 ราย
โดยมาตรการสำคัญในการป้องกันคือการล้างมือให้เด็กเล็กบ่อยๆ และพี่เลี้ยงเด็กก็ต้องล้างมือบ่อยๆเช่นกัน เมื่อมีเด็กป่วย หากเป็นไปได้ให้ผู้ปกครองรับกลับบ้าน แต่หากไม่สามารถรับกลับบ้านได้ ให้แยกเด็กและแยกเครื่องใช้ของเด็กป่วย ออกจากเด็กปกติ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค
ภาพที่ 1 ภาพที่ 2
ที่มาของรูป :ภาพที่ 1 https://www.empowher.com/media/reference/respiratory-syncytial-virus
ภาพที่ 2 https://frealfitness.files.wordpress.com/2010/01/sick-kid.jpg
หลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาระที่ 1 สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6
ไวรัส(virus) เป็นศัพท์จากภาษาลาตินแปลว่า พิษ หมายถึงจุลินทรีย์ที่สามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ (infectious agents) ทั้งในมนุษย์, สัตว์, พืช และ สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่เป็นสิ่งมีชีวิตมีเซลล์ (cellular life) ทำให้เกิดโรคที่ส่งผลกระทบกว้างขวาง จึงมีความสำคัญที่จะต้องศึกษาทั้งในทางการแพทย์และทางเศรษฐกิจ ไวรัสเป็นปรสิตอยู่ในร่างของสิ่งมีชีวิตอื่น (obligate intracellular parasite) ไม่สามารถเติบโตหรือแพร่พันธุ์นอกเซลล์อื่นได้ ไวรัสอาจถือได้ว่าเป็นจุลินทรีย์ที่มีลักษณะของการเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงประการเดียวคือสามารถแพร่พันธุ์ หรือการถ่ายทอดสารพันธุกรรมของตนเองจากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่ง อย่างไรก็ตามไวรัสไม่ใช่จุลินทรีย์ที่มีขนาดเล็กที่สุด ยังมีจุลินทรีย์ที่มีขนาดเล็กกว่าไวรัสคือ ไวรอยด์ (viroid) และ พริออน (prion) ไวรัสชนิดแรกที่ค้นพบคือไวรัสใบยาสูบด่าง(TMV หรือ Tobacco Mosaic Virus) ซึ่งค้นพบโดยมาร์ตินัส ไบเยอรินิค ใน ค.ศ. 1899 ในปัจจุบันมีไวรัสกว่า 5,000 ชนิดที่ได้รับการบันทึกไว้ วิชาที่ศึกษาไวรัสเรียกว่าวิทยาไวรัส (virology) อันเป็นสาขาหนึ่งของจุลชีววิทยา (microbiology) (https://th.wikipedia.org)
ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย(Human Immunue System) สิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายของมนุษย์เรียกว่่า แอนติเจน (antigen) ซึ่งเป็นสารหรือสิ่งมีชีวิตที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะส่งผลทำให้เกิดการตอบสนองของร่างกายหรือก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ได้ ดังนั้นร่างกายมนุษย์จึงจำเป็นต้องมีกลไกตอบสนองในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ เพื่อให้การทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายสามารถดำเนินไปได้อย่างปกติ โดยเราเรียกระบบภายในร่างกายที่มีหน้าที่ต่อต้านสิ่งแปลกปลอมและความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายว่า ระบบภูมิคุ้มกัน (immune system)
สามารถจำแนกลักษณะการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ตามความจำเพาะเจาะจงในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมได้เป็น 2 ลักษณะ คือ ระบบภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะเจาะจง และระบบภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะเจาะจง ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้
1. ระบบภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะเจาะจง (nondpecific defense mechanism)
ระบบภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะเจาะจง เป็นกลไกการกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายแบบไม่จำเพาะเจาะจง มีความสามารถในการป้องกันหรือทำลายเชื้อจุลินทรีย์หรือสิ่งแปลกปลอมไม่สูงนัก เช่น ผิวหนัง(skin) เยื่อเมือก(mucos) ที่บุตามผิวของอวัยวะต่างๆ ต่อมเหงื่อ ต่อมน้ำตา เป็นต้น
2. ระบบภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะเจาะจง (specific defense mechanism)
ระบบภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะเจาะจง หรือการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน (immune response) เป็นกลไกการกำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือแอนติเจนต่าง ๆ ในร่างกาย ที่มีความจำเพาะต่อแอนติเจนแต่ละชนิด ซึ่งได้แก่ จุลินทรีย์ สารพิษ และโมเลกุลของสารต่าง ๆ ภายนอกร่างกาย รวมถึงเซลล์หรือสิ่งที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติในร่างกาย เช่น อิมมิวโนโกลบูลิน (immunoglobulin) เซลล์ลิมโฟไซต์ที่มีการตอบสนองต่อสารจำเพาะ (specificcally sensitized lymphocyte; SSL) หรือ ลิมโฟไซต์ชนิดที่ (T lymphocyte) ซึ่งมีการพัฒนาผ่านทางต่อมไทมัส จนได้เป็นเซลล์ที่สมบูรณ์ 3 ชนิด คือ เซลล์ที่ทำลายสิ่งแปลกปลอม เซลล์ทีผู้ช่วย และเซลล์ทีกดระงับ ซึ่งเซลล์ทีต่าง ๆ เหล่านี้จะไปสะสมอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ ได้แก่ ต่อมน้ำเหลือง ต่อมทอนซิลและม้าม(https://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=2879)
ที่มาของภาพ :https://www.reishiscience.com/Benefits_1.html
ประเด็นคำถามสู่การอภิปราย
1. ไวรัสจัดเป็นสิ่งมีชีวิต โดยใช้คุณสมบัติข้อใด
2. ไวรัสเข้าสู่ร่่างกายได้อย่างไร
3. ไวรัสมีผลต่อระบบใดในร่างกาย
4. เมื่อไวรัสเข้าสู้่ร่างกาย กลไกการของร่างกายมีการตอบสนองต่อไวรัสอย่างไร
กิจกรรมเสนอแนะ
1. ดูวีดีทัศน์เรื่องไรวัส เพื่อศึกษาความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตชนิดนี้
2. ศึกษาไวรัสชนิดอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอันตรายกับสิ่งมีชีวิต
แหล่งอ้างอิง
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 28 เมษายน 2553
https://th.wikipedia.org
https://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=2879 อ้างอิงจาก ดร.ฤทธิ์ วัฒนชัยยิ่งเจริญ . ชีวิตกับสิ่งแวดล้อมสิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต . พิมพ์ครั้งที่ 1 . กรุงเทพ ฯ : อักษรเจริญทัศน์ .
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=2222