ยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรัก


1,255 ผู้ชม


การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการที่ทารกจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามความต้องการ ในน้ำนมแม่มีความสมดุลของสารอาหารทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุอย่างครบถ้วน นอกจากนี้นมแม่มีสารที่ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน และภูมิต้านทานที่ดีที่   

นมแม่เป็นยามะเร็ง ฆ่าเซลล์เนื้อร้ายลงได้มากถึง 40 ชนิด

       สารอย่างหนึ่งในน้ำนม ซึ่งตั้งชื่อให้ว่า แฮมเลต สรรพคุณฆ่าเซลล์มะเร็งได้  มันสามารถฆ่าเซลล์มะเร็ง และขับออกมาทางปัสสาวะ โดยไม่ทำอันตรายกับเซลล์ปกติ...
นักวิจัยชาติสแกนดิเนเวียพบพระคุณของนมแม่อีกอย่างหนึ่งว่า เป็นยารักษามะเร็งได้ นอกจากนี้นักวิจัยมหาวิทยาลัยลันด์และโกเตนเบิร์ก ของสวีเดน ได้พบสารอย่างหนึ่งในน้ำนม สรรพคุณฆ่าเซลล์มะเร็งได้ สารซึ่งตั้งชื่อให้ว่า แฮมเลต ความจริงถูกค้นพบมานานหลายปีแล้ว 

         จากการทดลองในห้องปฏิบัติการ ได้รู้ว่า มันสามารถฆ่ามะเร็งชนิดต่างๆ ได้ถึง 40 ชนิด ขณะนี้กำลังมีการทดลองใช้รักษามะเร็งผิวหนัง และมะเร็งสมองอยู่.(หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ. วันเสาร์ ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2553https://www.thairath.co.th/content/life/80083)

 
น้ำนมจากมารดา..โภชนาการที่แสนวิเศษ(^__^*) 

ยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรัก

ภาพที่ 1 มาของภาพ : กมลรัตน์ ฉิมพาลี
(คำอธิบายภาพ : การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่)

 สารอาหารในนมแม่
         การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการที่ทารกจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามความต้องการ ในน้ำนมแม่มีความสมดุลของสารอาหารทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุอย่างครบถ้วน นอกจากนี้นมแม่มีสารที่ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน และภูมิต้านทานที่ดีที่สุดสำหรับทารกจะถูกถ่ายทอดจากแม่ไปสู่ลูกผ่านทางนมแม่  
        น้ำนมแม่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่สำคัญ 2 ชนิด คือ AA และ DHA นักวิจัยเชื่อว่า AA และ DHA ที่มีอยู่ในน้ำนมแม่มีส่วนสำคัญในด้านพัฒนาทางสมอง อารมณ์และการมองเห็น 
         นมแม่มีนิวคลีโอไทด์ที่มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และระบบการย่อยอาหารของเด็ก จึงช่วยลดอาการท้องผูกและท้องเสีย นมแม่เป็นแหล่งของแคโรทีนและซิลิเนียม ที่มีหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระและสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน
( https://www.wyethnutrition.co.th/$3$Golden%20Ingredients.html?menu_id=215&menu_item_id=8
โภชนาการแสนพิเศษ เพื่อคนพิเศษ)

ยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรัก

ภาพที่ 2 https://www.enfababy.com/genius_code/detail/26/
(คำอธิบายภาพ : การเลี้ยงดูทารกหลังคลอดด้วยความรักและนมแม่)

ยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรักยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรักยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรักยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรัก

ยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรักยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรักยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรัก

ยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรัก 

        หลังคลอด ระดับฮอร์โมนในตัวแม่จะเปลี่ยนแปลงและร่างกายจะสร้างน้ำนมขึ้น น้ำนมเหลือง (Colostrums) จะค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นน้ำนมขาวซึ่งอุดมไปด้วยไขมัน โปรตีนต่างๆ น้ำตาลแล็คโตส วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ และน้ำ ซึ่งในน้ำนมแม่นั้น สารอาหารต่างๆมีอยู่ในระดับที่พอเหมาะ เหมาะสมสำหรับทารกแต่ละวัย


 

ยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรัก

ภาพที่ 3 :https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Taurine_molecule.png
(คำอธิบายภาพ :โครงสร้างของโมเลกุลกรดอะมิโนทอรีน)

** โปรตีนคุณภาพ**

        โปรตีนในนมแม่มีโปรตีนต่ำกว่านมวัว แต่ก็มีอยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองทารก กรดอะมิโนที่เป็นองค์ประกอบของโปรตีนในนมแม่นั้นสำคัญยิ่ง กรดอะมิโน “ทอรีน” พบได้มากในนมแม่ ช่วยอย่างยิ่งในการสร้างสมองและจอตาของทารก การให้ทารกกินนมแม่จึงเป็นการช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตของสมองลูก !!!

** ไขมันที่ย่อยสลายได้เอง**

        เอ็นไซม์ไลเปส (Lipase) ในนมแม่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำลกุลให้นมแม่ย่อยง่าย ไลเปสจะช่วยในการย่อยสลายไขมันในนมแม่ ทำให้การดูดซึมของสารอาหารมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 

** สารอาหารที่เปลี่ยน เมื่อความต้องการเปลี่ยน

        ไขมันในนมแม่จะเปลี่ยนแปลงตลอดไม่เหมือนเดิม เมื่อลูกเริ่มต้นดูดนม น้ำนมส่วนหน้า (Foremilk) จะมีไขมันต่ำแต่มีปริมาณน้ำสูง ช่วยดับกระหายได้ดี แต่น้ำนมส่วนหลัง (hind milk) จะมีไขมันสูง ทารกที่ได้ดูดนมบ่อยจะได้รับน้ำนมส่วนหลังมากกว่า  ทารกควรที่จะได้ดูดนมบ่อยๆเมื่อต้องการ ไม่ใช่ตามตารางที่ตั้งไว้

  

ยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรัก

ภาพที่ 4 :https://sites.google.com/a/luther.edu/genetics/students/anna-simonson
(คำอธิบายภาพ :ปลอกหรือเยื่อไมอีลิน ( myelin sheath) จะทำหน้าที่ป้องกันอันตรายและเป็น  ฉนวนกั้นการถ่ายเทประจุไฟฟ้า ระหว่างข้างนอกกับข้างในแอกซอน นอกจากนี้ยังช่วยให้กระแสประสาทเดินทางได้เร็วขึ้น)

** ไขมันอันชาญฉลาด

        ไขมันที่พิเศษในนมแม่ช่วยเสริมสร้างสมองของลูก ในช่วงที่ทารกเติบโต เส้นประสาทที่ประกอบด้วย Myelin จะรับส่งสัญญาณระหว่างสมองและร่างกาย Myelin จะสมบูรณ์แข็งแรงเมื่อได้รับกรดไขมัน Linoleic และ Linolenic ที่สามารถพบได้มากในนมแม่


** วิตามันและแร่ธาตุ

        เมื่อนึกถึงแร่ธาตุหลักที่สำคัญ แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส และ เหล็ก มีปริมาณที่ต่ำกว่าในนมแม่เมื่อเทียบกับนมผงดัดแปลง แต่แร่ธาตุเหล่านี้ในนมแม่สามารถดูดซึมได้ถึง 50 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแตกต่างจากแร่ธาตุสังเคราะห์ในนมผง ที่สามารถดูดซึมได้เพียง 4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ลำไส้อันบอบบางของทารกจะต้องถูกทำงานอย่างหนักเพื่อขจัดสิ่งที่ “เกิน” ความต้องการ ในขณะเดียวกัน การได้รับธาตุเหล็กมากเกินไปจะทำให้เกิดสภาวะที่ไม่เป็นกลางในลำไส้ ป้องกันไม่ให้แบคทีเรียดีเติบโตในลำไส้ กลับกระตุ้นให้แบคทีเรียไม่ดีเจริญพันธุ์ได้ดีมากขึ้น นี่คืออีกสาเหตุหนึ่งที่อุจจาระของทารกที่กินนมผง แข็งกว่าและมีกลิ่นที่รุนแรงกว่าทารกที่กินนมแม่

        
** ฮอร์โมนและเอ็นไซม์

        เอ็นไซม์อื่นๆ นอกจากไลเปส (Lipase) ที่มีอยู่ในนมแม่จะช่วยให้ร่างกายของทารกย่อยอาหาร epidermal growth factor ยังสามารถช่วยให้การสร้างเนื้อเยื่อในระบบย่อยอาหารและในส่วนอื่นของร่างกาย อีกทั้งฮอร์โมนอื่นๆ ที่มีอยู่ในนมแม่จะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ การเจริญเติบโต และสรีรวิทยาของทารก  (บทความจาก AskDrSears.com Nutrient by Nutrient Why Breast is Best Mother’s Milk: Ideal Nutrition for Human Babies.https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=narcosis&month=01-2008&date=09&group=3&gblog=2)

 

ยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรัก 


ภาพที่ 5 :https://www.vcharkarn.com/vcafe/58172
(คำอธิบายภาพ : การที่เซลล์มะเร็งกระจายไปตามส่วนต่างๆของร่างกายเรียกว่า metastasis ซึ่งเป็นขั้นที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้โรคนี้อยู่ในระยะรุนแรงมากที่สุด)


มะเร็ง เป็นมากว่าแค่มาเล็งอย่างเดียว..เพราะมันจัดการเซลล์รอบด้านเลยทีเดียว
       
        มะเร็ง(Cancer) คือ กลุ่มของโรคที่เกิดเนื่องจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติ ที่ DNA หรือสารพันธุกรรม ส่งผลให้เซลล์มีการเจริญเติบโต มีการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ รวดเร็ว และมากกว่าปกติ  มะเร็งมาจากรากศัพท์ของ Carcinus หรือ Karkinos ที่แปลว่า ปู ซึ่งหมายถึง "กระบวนการไร้ระเบียบ ไม่มีอะไรมาขัดขวางการใช้อำนาจควบคุม" ที่ใช้คำนี้ อาจเป็นเพราะลักษณะการโตของก้อนมะเร็ง จะมีส่วนยื่นเข้าไปในเนื้อเยื่อปกติโดยรอบเหมือนขาปู (ฉะนั้น สัญลักษณ์ของมะเร็งหรือเครื่องหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง จึงมักใช้รูปปูเป็นเครื่องหมาย(https://www.vcharkarn.com/vblog/38571.Cancer)  แขนงวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับมะเร็งเรียกว่า "เนื้องอกวิทยา" (oncology) ซึ่งมาจากภาษากรีก onkos แปลว่า tumour หรือ mass มะเร็งอาจจะเกิดในลักษณะที่เป็นก้อนมะเร็ง หรืออาจจะเกิดในลักษณะที่เซลล์มะเร็งกระจายไปทั่วระบบอวัยวะนั้น ๆน จึงอาจทำให้เกิดก้อนเนื้อผิดปกติ และในที่สุดก็จะ ทำให้เกิดการตายของเซลล์(https://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK9/chapter6/t9-6-l1.htm.มะเร็งคืออะไร )

อาการของมะเร็ง
1. ไม่มีอาการใดเลยในช่วงแรกขณะที่ร่างกายมีเซลล์มะเร็งเป็นจำนวนน้อย 
2. มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งตามสัญญาณอันตราย 8 ประการ ที่เป็นสัญญาณเตือน ว่าควรไปพบแพทย์ เพื่อการตรวจค้นหาโรคมะเร็ง หรือสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้มีสัญญาณ เหล่านี้ เพื่อการรักษาและแก้ไขทางการแพทย์ที่ถูกต้องก่อนที่จะกลายเป็นโรคมะเร็ง หรือเป็นมะเร็งระยะลุกลาม 
3. มีอาการป่วยของโรคทั่วไป เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ร่างกายทรุดโทรม ไม่สดชื่น และไม่แจ่มใส 
4. มีอาการที่บ่งบอกว่า มะเร็งอยู่ในระยะลุกลาม หรือเป็นมาก ขึ้นอยู่กับว่าเป็นมะเร็ง ชนิดใดและมีการกระจายของโรคอยู่ที่ส่วนใดของร่างกายที่สำคัญที่สุดของอาการในกลุ่ม นี้ ได้แก่ อาการเจ็บปวด ที่แสนทุกข์ทรมาน

สัญญาณอันตราย 8 ประการที่ทุกคนควรจะจำไว้เพื่อสุขภาพที่ดี ได้แก่ 
1.มีการเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่ายอุจจาระ และปัสสาวะ เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ หรือปัสสาวะเป็นเลือด 
2. กลืนอาหารลำบาก หรือมีอาการเสียด แน่นท้องเป็นเวลานาน 
3. มีอาการเสียงแหบ และไอเรื้อรัง 
4. มีเลือดหรือตกขาวที่ผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็น 
5. แผลซึ่งรักษาแล้วไม่ยอมหาย 
6. มีการเปลี่ยนแปลงของหูดหรือไฝตามร่างกาย 
7. มีก้อนที่เต้านมหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 
8. หูอื้อหรือมีเลือดกำเดาไหล
 
 

5 ประการเพื่อการป้องกัน 
1. รับประทานผักตระกูลกะหล่ำให้มาก เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ผักคะน้า หัวผักกาด บรอคโคลี่ ฯลฯ  เพื่อป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ลำไส้ส่วนปลาย กระเพาะอาหาร และอวัยวะระบบทางเดินหายใจ  
2.รับประทานอาหารที่มีกากมากเช่น ผัก ผลไม้ ข้าว ข้าวโพด และเมล็ดธัญพืชอื่นๆ  เพื่อป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่  
3.รับประทานอาหารที่มีเบต้า- แคโรทีน และ ไวตามินเอ สูงเช่น ผัก ผลไม้ สีเขียว-เหลือง  เพื่อป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร กล่องเสียง และปอด  
4. รับประทานอาหารที่มีไวตามินซีสูง เช่น ผัก ผลไม้ต่าง ๆ  เพื่อป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร และ กระเพาะอาหาร  
5. ควบคุมน้ำหนักตัว  โรคอ้วนมีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็งมดลูก ถุงน้ำดี เต้านม และลำไส้ใหญ่ การออก กำลังกายและการลดรับประทานอาหารที่ให้ พลังงานสูง จะช่วยป้องกันมะเร็ง เหล่านี้ได้ 


7 ประการเพื่อลดการเสี่ยง
 

1.ไม่รับประทานอาหารที่มีราขึ้น  อาหารที่มีราขึ้นโดยเฉพาะสีเขียว-เหลือง จะมีสารอัลฟาทอกซินปนเปื้อนซึ่งอาจเป็น สาเหตุของโรคมะเร็งตับ  
2. ลดอาหารไขมัน  อาหารไขมันสูงจะทำให้เสี่ยงต่อการเป็น มะเร็งเต้านม ลำไส้ใหญ่และต่อมลูกหมาก  
3.ลดอาหารดองเค็ม อาหารปิ้ง-ย่าง รมควัน และอาหารที่ถนอมด้วยเกลือไนเตรท- ไนไตร์ท  อาหารเหล่านี้ จะทำให้เสี่ยงต่อ มะเร็ง หลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งลำไส้ใหญ่  
4.ไม่รับประทานอาหารสุกๆ ดิบ ๆ เช่น ก้อยปลา ปลาจ่อม ฯลฯ  จะทำให้เป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ และเสี่ยง ต่อการเป็นมะเร็งของท่อน้ำดีในตับ  
5.หยุดหรือลดการสูบบุหรี่  การสูบบุหรี่ จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็น มะเร็งปอด กล่องเสียง ฯลฯ การเคี้ยว ยาสูบจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งช่องปาก และช่องคอ  
6.ลดการดื่มแอลกอฮอล์  ดื่มแอลกอฮอล์ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ตับ ถ้าทั้งดื่มและสูบบุหรี่จะเสี่ยงต่อการ เป็นมะเร็งช่องปาก ช่องคอ กล่องเสียง และหลอดอาหาร  
7. อย่าตากแดด  ตากแดดจัดมากเกินไป จะเสี่ยงต่อการเกิด มะเร็งผิวหนัง  
(
https://www.nci.go.th/knowledge/action.html)

 

ยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรัก 

คุยกันต่อ
1. เหตุใดเด็กทารกจึงต้องการดื่มนมแม่
2. นมแม่ดีมากมาย เหตุใดแม่ไทยจึงไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
3. สารอาหารในแม่ มีประโยชน์ต่อลูกรักอย่างไร
4. มะเร็ง คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด และเป็นอันตรายกับมนุษย์อย่างไร
5. แนวทางป้องกันมะเร็งของวัยทารก วัยรุ่น และวัยชรา มีแนวทางอย่างไร


กิจกรรมเพิ่มเติม เสริมความรู้

ความรู้เรื่องนี้ พัฒนาให้ดีทำข้อสอบ O-NET ฉลุย!!!
1. การรณรงค์ให้เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่ในระยะหลังคลอดเนื่องด้วยเหตุผลสำคัญในข้อใด(O-NET 49)
ก.น้ำนมแม่มีโปรตีนสูง
ข.น้ำนมแม่ไม่มีเชื้อโรค
ค.น้ำนมแม่มีแอนติบอดี
ง.น้ำนมแม่มีแอนติเจน

2. วัคซีนที่ใช้หลอดป้องกันโรคโปลิโอในเด็กเป็นสารใด(O-NET 49)
ก.แอนติบอดี                     ข. แอนติเจน
ค.เอนไซม์                         ง.แอนติไบโอติก

3. ข้อใดเป็นความจริง (O-NET 51)
ก.ภูมิคุ้มกันที่ทารกได้จากแม่สามารถคุ้มกันโรคได้ทุกชนิด
ข.วัคซีนป้องกันโรคไทฟอยด์ผลิตจากจุลินทรีย์ที่มีชีวิต
ค.ม้ามเป็นอวัยวะน้ำเหลืองขนาดใหญ่ที่สุดของมนุษย์
ง.ส่วนประกอบหลักของเซรุ่มคือสารพิษของจุลินทรีย์
ที่หมดสภาพความเป็นพิษแล้ว

เฉลย

ยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรักยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรักยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรักยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรัก

ยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรักยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรัก

ยาต้านมะเร็งร้าย...ผลิตได้จากความรัก

(เฉลย: ข้อ 1 ค.น้ำนมแม่มีแอนติบอดี  ข้อ 2  ข. แอนติเจน   ข้อ 3 ค.ม้ามเป็นอวัยวะน้ำเหลืองขนาดใหญ่ที่สุดของมนุษย์)


หลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 
สาระที่ 1 สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต  ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6

มาตรฐาน ว  1.1 เข้าใจหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของ
ระบบต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตที่ทำงานสัมพันธ์กัน มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้  สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในการดำรงชีวิตของตนเองและดูแลสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต

ตัวชี้วัด ที่ 4.   อธิบายเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและนำความรู้ไปใช้ในการดูแลรักษาสุขภาพ  
สาระการเรียนรู้แกนกลาง    ร่างกายมนุษย์ มีภูมิคุ้มกันซึ่งเป็นกลไก     ในการป้องกันเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม   เข้าสู่ร่างกาย ผิวหนัง เซลล์เม็ดเลือดขาวและระบบน้ำเหลืองเป็นส่วนสำคัญของร่างกายที่ทำหน้าที่ป้องกันและทำลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย
ระบบภูมิคุ้มกันมีความสำคัญยิ่งต่อร่างกายมนุษย์การรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ  การออกกำลังกาย  การดูแลสุขอนามัย  ตลอดจนการหลีกเลี่ยงสารเสพติด และพฤติกรรมที่เสี่ยงทางเพศ และการได้รับวัคซีนในการป้องกันโรคต่าง ๆ  ครบตามกำหนด จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและรักษาภูมิคุ้มกันของร่างกายได้


ความรู้ บูรณาการ
1. สามารถบูราการกับวิชาสุขศึกษา 

 อ้างอิง
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ. วันเสาร์ ที่ 1 พฤษภาคม 
        
พ.ศ.2553https://www.thairath.co.th/content/life/80083)
AskDrSears.com Nutrient by Nutrient Why Breast is Best Mother’s Milk: Ideal   Nutrition for Human Babies.
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=narcosis&month=01-
       2008&date=09&group=3&gblog=2

https://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK9/chapter6/t9-6-l1.htm.มะเร็งคืออะไร
https://www.nci.go.th/knowledge/action.html
https://www.vcharkarn.com/vblog/38571.Cancer.
https://www.wyethnutrition.co.th/$3$Golden%20Ingredients.html?menu_id=215&menu_item_id=8
        โภชนาการแสนพิเศษ เพื่อคนพิเศษ

 
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=2347

อัพเดทล่าสุด