การวัดผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
คาร์บอน ฟุตพริ้นท์ กับการลดปริมาณการปล่อยกาซเรือนกระจก ต้นเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน
ที่มาภาพ: https://cpfshe.cpportal.net/Portals/0/journal/j09-07.png
เนื้อหาเกี่ยวข้องกับ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ทุกระดับชั้น และผู้สนใจทั่วไป
สาระที่ 2 ชีวิตกับสื่งแวดล้อม
มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในระดับท้องถิ่น
ประเทศ และโลก นำความรู้ไปใช้ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
คาร์บอนฟุตพริ้นท์ คือ การวัดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากกระบวนการผลิตสินค้าตลอดวัฎจักรชีวิต ( Product Life Cycle )ตั้งแต่เริ่มจัดหาวัตถุดิบที่ไปแปรรูป ผลิต จัดจำหน่าย การใช้งาน ตลอดจนการจัดการหลังจากผลืตภัณฑ์นั้นๆหมดสภาพการใช้งานแล้ว
ฉลากคาร์บอน คืออะไร
ที่มาภาพ www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2009/12/lif08081252p1.jpg
“ ฉลากคาร์บอน ( Carbon Reduction Label ) หมายถึง ฉลากแสดงข้อมูล คาร์บอนฟุตพริ้นท์ หรือปริมาณการปลอดปล่อยแก๊สเรือนกระจก โดยตลอดวัฏจักรของผลิตภัณฑ์และบริการ ( Life Cycle greenhouse gas emissions of goods and service ) ครอบคลุมการได้มาซึ่งวัตถุดิบ การแปรรูป วัตถุดิบ กระบวนการผลิต การขนส่งไปยังร้านค้าปลีก การใช้และการกำจัดขั้นสุดท้าย การแสดงข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ สามารถทำได้โดยการติดฉลากบนผลิตภัณฑ์หรือภาชนะบรรจุ รวมทั้งการแสดงข้อมูล ณ จุดขาย ในรายงานประจำปี แผ่นพับ บัญชีรายชื่อสินค้า หรือบนเว็บไซด์ ”
การคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จะใช้“ การประเมินวัฏจักรชีวิต ” ( Life Cycle Assessment : LCA ) ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ในการประเมินศักยภาพการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ( Climate Change Potential ) อันเนื่องมาจากการปลดปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ รวมทั้งแก๊สเรือนกระจกอื่นๆ โดยตลอดวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์และบริการ แสดงผลในเชิงปริมาณ คือ เทียบเท่ากับศักยภาพการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เป็น กิโลกรัม ( kg CO2 equivalent )
โดยในประเทศอังกฤษได้พัฒนามาตรฐานการวิเคราะห์ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ ที่เรียกว่า PAS 2050:2008 - Specification for the assessment of the life cycle greenhouse gas emissions of goods and services โดย British Standards Institution ( BSI ) , Defra ( Department for Environment, Food and Rural Affairs ) และ Carbon Trust ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่ยอมรับ ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป และระดับสากล
ซึ่ง แนวคิดฉลากคาร์บอน ได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้ค้าปลีก นำไปสู่นโยบายการจัดซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากคาร์บอน โดยคาดหวังว่าผู้บริโภคจะใช้ข้อมูลจากฉลากคาร์บอน ในการพิจารณาตัดสินใจซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ ที่มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ต่ำกว่า เพื่อแสดงความตระหนักและความร่วมมือของผู้บริโภคสินค้าว่าเป็นผู้หนึ่งที่ช่วยรณรงค์ในการลดภาวะโลกร้อน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ผลิตพัฒนาการออกแบบสินค้าโดยคำนึงถึงปริมาณ การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตลอดวัฏจักรผลิตภัณฑ์ของชีวิต
การส่งเสริมการใช้คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ในผลิตภัณฑ์ เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ที่ ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคได้พิจารณาประกอบในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ นั้นๆ อันจะเป็นการยกระดับการพัฒนาของผู้ประกอบการในการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์ ให้ผู้บริโภคได้มีสิทธิ์เลือกใช้มากขึ้น เป็นการรับผิดชอบต่อสังคมและรับผิดชอบต่อโลกร่วมกันได้อีกทางหนึ่ง
ที่มาของการจัดทำคาร์บอนฟรุตพริ้นท์ ส่วนหนึ่งมาจากพิธีสารโตเกียว (Kyoto Proyocol ) ซึ่งประเทศสมาชิกวางเป้าหมายจะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ( Greenhouse Gases Emission)
ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเพิ่มอุณหภูมืโลกลง ให้ได้ร้อยละ 5.2 ระหว่างปี 2551 - 2555
“ก๊าซเรือนกระจก ตามที่ระบุในพิธีสารเกียวโต มี 6 ตัว ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), มีเทน (CH4), ไนตรัสออกไซด์ (N2O), ซัลเฟอร์เฮกซะฟลูออไรด์ (SF6), ไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (HFC) และ เพอร์ฟลูออโรคาร์บอน (PFCs) ดังนั้น เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ที่ติดบนสินค้าต่างๆ นั้น เป็นการสื่อสารด้านสิ่งแวดล้อมจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคได้ทราบว่า ตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาปริมาณเท่า ไหร่ เช่นปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (คาร์บอนฟุตพริ้นท์) ของเสื้อยืดผ้าฝ้าย 100% ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (คาร์บอนฟุตพริ้นท์) ของข้าวหอมมะลิบรรจุถุง เป็นต้น โดยขณะนี้ในหลายประเทศเริ่มมีการนำคาร์บอนฟุตพริ้นท์มาใช้กันแล้ว ทั้งในอังกฤษ ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ แคนาดา ญี่ปุ่น และเกาหลี เป็นต้น และมีการเรียกร้องให้สินค้าที่นำเข้าจากประเทศไทยต้องติดเครื่องหมายคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ด้วย แม้ว่าในปัจจุบันจะไม่มีการบังคับใช้ฉลากชนิดนี้ในรูปแบบของกฏหมาย แต่ในอนาคตมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกบังคับจากคู่ค้าตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เพื่อผลประโยชน์ทางสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม” อย่างไรก็ตามประเทศไทยได้ดำเนินโครงการนำร่องการใช้เครื่องหมาย คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์มาตั้งแต่ต้นปี 2552 และมีการรับรองผลิตภัณฑ์กลุ่มแรก อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2552 จนถึงขณะนี้ มี 63 ผลิตภัณฑ์ จาก 25 บริษัท ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์แล้ว และขณะนี้มีอีกกว่า 50 บริษัท/องค์กร ที่สนใจจะประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์ และขอรับรองเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีทั้งผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ไนลอน ถุงยางอนามัย กระเบื้อง เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งแต่ละบริษัท/องค์กรก็มีเหตุผลความจำเป็นที่แตกต่างกัน เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยมีขีดความสามารถที่สูงขึ้น ส่งสินค้าไปยังประเทศคู่ค้าทั่วโลกได้ตามเงื่อนไขต่อไป
แก๊สเรือนกระจก (Greenhouse gases) คือแก๊สที่มีอยู่ในบรรยากาศที่ทำให้การสูญเสียความร้อนสู่ห้วงอวกาศลดลง จึงมีผลต่ออุณหภูมิในบรรยากาศผ่านปรากฏการณ์เรือนกระจก แก๊สเรือนกระจกมีความจำเป็นและมีความสำคัญต่อการรักษาระดับอุณหภูมิของโลก หากปราศจากแก๊สเรือนกระจก โลกจะหนาวเย็นจนสิ่งมีชีวิตอยู่อาศัยไม่ได้[1][2] แต่การมีแก๊สเรือนกระจกมากเกินไปก็เป็นเหตุให้อุณหภูมิสูงขึ้นถึงระดับเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตดังที่เป็นอยู่กับบรรยากาศของดาวศุกร์ซึ่งมีบรรยากาศที่ประกอบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์มากถึงร้อยละ 96.5 มีผลให้อุณหภูมิผิวพื้นร้อนมากถึง 467 ?C (872 ?F) คำว่า “แก๊สเรือนกระจก” บนโลกหมายถึงแก๊สต่างๆ เรียงตามลำดับความอุดมคือ ไอน้ำ คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน ไนตรัสออกไซด์ โอโซน และ คลอโรฟลูโอโรคาร์บอน (Chlorofluorocarbon) แก๊สเรือนกระจกเกิดเองตามธรรมชาติและจากกระบวนการอุตสาหกรรมซึ่งปัจจุบันทำให้ระดับคาร์บอนไดออกไซด์มีในบรรยากาศ 380 ppmv และที่ปรากฏในแกนน้ำแข็งตัวอย่าง (ดูแผนภูมิ) จะเห็นว่าระดับของคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศปัจจุบันสูงกว่าระดับเมื่อก่อนยุคอุตสาหกรรมประมาณ 100 ppmv
คำถามชวนคิด
1. คาร์บอน ฟุตพริ้นท์ คืออะไร
2. ฉลากคาร์บอน คืออะไร
3. ก๊าซเรือนกระจก คืออะไร
4. พิธีสารโตเกียวเป็นการลงนามเกี่ยวกับเรื่องอะไร
กิจกรรมเสนอแนะ
1.ให้นักเรียนสืบค้นชื่อสินค้าที่มี ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์
2. ให้นักเรียนไปสมัครร่วมกิจกรรมร่วมลดคาร์บอน 84 ล้านกิโลกรัม กับเวปไซต์กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
(จากกิจกรรมร่วมลดคาร์บอน 84 ล้านกิโลกรัม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2554 ของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม )
การบูรณาการ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย การเขียนคำขวัญเกี่ยวกับการช่วยกันลดคาร์บอน
กลุ่มสาระสังคมศึกษา การสืบค้นข้อมูลทำรายงานเกี่ยวกับพิธีสารเกียวโต
กลุ่มสาระภาษาอังกฤษ การค้นหาคำศัพท์เกียวกับเรื่องคารืบอน ฟุตพริ้นท์
กลุ่มสาระศิลปะ การวาดรูปปรากฏการณ์เรือนกระจก
กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ การคำนวณการปล่อยก๊าซคาร์บอนของนักเรียน
อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล
https://www.deqp.go.th/index
https://www.CarbonLabelThaiFood.sci.ku.ac.th/
https://www.manager.co.th/Science/viewbrowse.aspx?browsenews
https://th.wikipedia.org/wiki
https://www.tgo.or.th/index.php
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=3754