ไชโย!! เคลียร์แล้วโลกแตก


897 ผู้ชม


“ดาวนิบิรุ” พุ่งชนโลกดับ กวาดล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์หายเกลี้ยงในปี 2012   

เคลียร์“ดาวนิบิรุ” พุ่งชนโลกดับ กวาดล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์หายเกลี้ยงในปี 2012
1. บทนำ
         
ข่าวเรื่องโลกจะถึงจุดจบเมื่อถูกดาวเคราะห์ “นิบิรุ” (Nibiru) พุ่งชนแพร่กระจายอยู่ในโลกออนไลน์มาระยะหนึ่ง 
ผู้คนสนใจสอบถามไปยัง  เดวิด มอร์ริสัน (David Morrison) นักดาราศาสตร์ดาวเคราะห์จากศูนย์วิจัยเอมส์ (Ames Research Center) องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) และนักวิทยาศาสตร์อาวุโสประจำสถาบันชีววิทยาอวกาศ (Astrobiology Institute) ของนาซา เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะเด็กๆถึงขนาดเตรียมฆ่าตัวตาย  มอร์ริสันกล่าวว่าเรื่องวันโลกแตกเนื่องจากถูกดาวเคราะห์พุ่งชนนี้น่าจะเสนอขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1995  โดย แนนซี ไลเดอร์ (Nancy Lieder) ที่ขนานนามตัวเองว่า “ผู้รับการติดต่อ” (contactee) ซึ่งอ้างว่าเธอสมองของเธอสามารถรับข้อความของมนุษย์ต่างดาวจากระบบดาวเซตาเรติคูลิ (Zeta Reticuli) ได้  ได้นำข่าวโลกแตกมาเผยแพร่ใน  ในเว็บไซต์ของไลเดอร์ชื่อ “เซตาทอล์ก” (ZetaTalk)
             นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์แล้วว่า ดาวนิบิรุ ไม่มีในระบบสุริยะดังความเชื่อ  ดาวนิบิรุ ที่กล่าวถึงอาจเป็นดาวหางขนาดเล็กที่ชื่อ “อีเลนิน” (Elenin) ซึ่งจะผ่านใกล้โลกที่สุดในเดือน ต.ค.2011  แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนระบุว่า ดาวหางอีเลนินจะไม่เข้าใกล้โลกเกินกว่าระยะ 100 เท่าของระยะทางระหว่างโลกและดวงจันทร์   แต่บางคนเชื่อว่าดาวหางนี้ทำให้แกนโลกเอียงไป 3 องศา และกระตุ้นให้เกิดแผนดินไหวที่ชิลี จากนั้นทำให้ขั้วโลกขยับมากพอที่จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
   แท้จริงแล้ว ดาวหางอีเลนินเป็นเพียงดาวหางน้ำแข็งก้อนกลมๆ ที่มีความกว้างประมาณ 5 กิโลเมตร ไม่มีสนามแม่เหล็กที่พอจะทำให้สนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนแปลงได้

ไชโย!! เคลียร์แล้วโลกแตก

 ที่มา:Science - Manager Online - เคลียร์ความเชื่อ “ดาวนิบิรุ” พุ่งชนโลกดับ.mht

2.ประเด็นสำคัญ
        ระบบสุริยะมีดาวเคราะห์เป็นบริวาร 8 ดวง นักดาราศาสตร์ไม่ยอมรับว่า นิบิรุเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ  ดาวเคราะห์ต้องมีสถานะครบถ้วนตามนิยามของดาวเคราะห์   ของสมาพันธ์ดาราศาสตร์สากล 
ส่วนดาวหางเป็นเพียงก้อนน้ำแข็งไม่มีอำนาจพอที่จะทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลง

3. สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 2-3 สาระที่ 7
 4.  สาระสำคัญ

    4.1  ระบบสุริยะ เป็นระบบการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ ระบบสุริยะที่มีโลกของเราเป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่เป็นบริวารของดวงอาทิตย์ อยู่ในกาแลกซีทางช้างเผือก มีดาวเคราะห์ทั้งหมด 8ดวง  เรียงตามลำดับ จากในสุดคือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจูน
และวัตถุท้องฟ้าอื่นๆ  ซึ่ง ประกอบด้วยดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง และอุกกาบาต รวมไปถึงฝุ่นและก๊าซ ที่ล่องลอยระหว่าง ดาวเคราะห์ แต่ละดวง

                        

ไชโย!! เคลียร์แล้วโลกแตก


ไชโย!! เคลียร์แล้วโลกแตก
ที่มา: จาก ระบบสุริยะ คลังปัญญาไทย https://www.panyathai.or.th/wiki/index.php

        สถานะของดาวเคราะห์

            นิยามดาวเคราะห์  ของสมาพันธ์ดาราศาสตร์สากล เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2549 ในเรื่องของการแบ่งประเภทของวัตถุในระบบสุริยะซึ่งเป็นบริวารของดวงอาทิตย์ ดังนี้ 
          
1.ดาวเคราะห์ (Planet) หมายถึงเทห์วัตถุที่มีสมบัติดังต่อไปนี้ครบถ้วน  (ก) โคจรรอบดวงอาทิตย์  (ข) มีมวลมากพอที่จะแรงโน้มถ่วงของดาวสามารถเอาชนะความแข็งของเนื้อดาว ส่งผลให้ดาวอยู่ในสภาวะสมดุลไฮโดรสแตติก (hydrostatic equilibrium; เช่น ทรงเกือบกลม)  (ค) สามารถกวาดเทห์วัตถุในบริเวณข้างเคียงไปได้
           2.ดาวเคราะห์แคระ (Dwarf Planet) หมายถึงเทห์วัตถุที่มีสมบัติดังต่อไปนี้ครบถ้วน  (ก) โคจรรอบดวงอาทิตย์ (ข) มีมวลมากพอที่จะแรงโน้มถ่วงของดาวสามารถเอาชนะความแข็งของเนื้อดาว ส่งผลให้ดาวอยู่ในสภาวะไฮโดรสแตติก   (ค) ไม่สามารถกวาดเทห์วัตถุในบริเวณข้างเคียงไปได้  (ง) ไม่ใช่ดวงจันทร์บริวารของดาวเคราะห์อื่นๆ
           3.เทห์วัตถุขนาดเล็กในระบบสุริยะ (Small Solar-System Bodies) หมายถึง วัตถุอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวไปแล้ว
           เนื่องจากเทคโนโลยีด้านอวกาศในยุคปัจจุบัน ก้าวหน้าไปมาก ทำให้มีการค้นพบวัตถุในแถบไคเปอร์ ที่มีขนาดใกล้เคียงกับดาวพลูโตอีกเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น ซีนา อีริส เซดนา วารูนา เป็นต้น  อย่างไรก็ตามวัตถุเหล่านี้มิได้มีวงโคจรอยู่ในสุริยะวิถี 
 แต่กลับมีวงโคจรเป็นรูปวงรีเฉียงกับระนาบสุริยะวิถีดังเช่น วงโคจรของดาวพลูโตที่เอียงทำมุม 17 องศา กับระนาบสุริยะวิถี 

4.2  ดาวหาง

              ดาวหางเป็นวัตถุขนาดเล็กที่มีรูปร่างไม่แน่นอน โดยทั่วไปมีขนาดเล็กกว่า 10 กิโลเมตร ประกอบด้วยน้ำแข็ง คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และแอมโมเนีย ปะปนอยู่กับฝุ่นและหิน ขณะที่ดาวหางอยู่ห่างดวงอาทิตย์มันจะมีปฏิกิริยาเพียงเล็กน้อยและจางมาก แสงส่วนใหญ่ที่สังเกตได้เกิดจากการสะท้อนแสงอาทิตย์ เมื่อดาวหางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ รังสีความร้อนจะทำให้น้ำแข็งระเหิด นำพาฝุ่น แก๊ส และโมเลกุลต่าง ๆ พุ่งออกมา เกิดเป็นหัวดาวหางหรือโคม่า (coma) มีลักษณะเป็นทรงกลมล้อมรอบนิวเคลียส ฝุ่นและแก๊สเหล่านี้พุ่งออกมาจากพื้นผิวด้านที่หันเข้าหาดวงอาทิตย์ จากนั้นลมสุริยะอาจทำให้เกิดหาง โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น 2 หาง คือหางแก๊สกับหางฝุ่น

ไชโย!! เคลียร์แล้วโลกแตก

            ดาวหางเอเลนินเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2553
ที่มา:   สมาคมดาราศาสตร์ไทยhttps://thaiastro.nectec.or.th/skyevnt/comets/2011comets.html
ไชโย!! เคลียร์แล้วโลกแตก
ไชโย!! เคลียร์แล้วโลกแตก

วงโคจรของดาวเคราะห์
ที่มาของภาพ : https://stloe.most.go.th/html/lo_index/LOcanada9/903/images/3_1.jpg 

5. ประเด็นอภิปรายในห้องเรียน
        5.1  ความเชื่อเรื่องโลกแตกเป็นไปได้หรือไม่ อย่างไร
        5.2  หากโลกจะแตกจริงเราควรทำอย่างไร
        5.3  การโคจรของดาวเคราะห์มีโอกาสพุ่งชนโลกหรือไม่
        5.4   ดาวหางทำอันตรายแก่โลกได้หรือไม่อย่างไร
6.   กิจกรรมเสนอแนะ
     สืบค้นเพิ่มเติม เกี่ยวกับจักรวาลและอวกาศ
     ฝึกคิดหาเหตุผล และมีวิจารณญาณ ในการรับฟังข่าวสาร
7.  บูรณาการกับสาระการเรียนรู้อื่น
         - เทคโนโลยี การสืบค้นข้อมูล
8.เอกสารอ้างอิง
- www.atom.rmutphysics.com 
- วิกิพีเดีย
- คลังปัญญาไทย https://www.panyathai.or.th/wiki/index.php
- Science - Manager Online

ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=4176

อัพเดทล่าสุด