ยอดจ่ายแอดมิชชันส์ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาและอยู่ในจำนวนที่เหมาะสมกับที่นั่งว่างในมหาวิทยาลัย 94 แห่ง
นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) สรุปยอดนักเรียนที่ชำระเงินสมัครเข้ารับการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบัน อุดมศึกษา (แอดมิสชันส์) จากทั่วประเทศ มีการชำระเงินซ้ำ กรณีที่เปลี่ยนแปลงคณะสาขาที่เลือกและมีสิทธิ์ได้สอบสัมภาษณ์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยอยู่ระหว่างรอผลคะแนนจากสำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) นายสุเมธ กล่าวด้วยว่า ยอดผู้ชำระเงินสมัครแอดมิสชันส์ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาและอยู่ในจำนวนที่เหมาะสมกับที่นั่งว่างในมหาวิทยาลัย 94 แห่ง
ข่าว ยอดจ่ายแอดมิชชันส์ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาและอยู่ในจำนวนที่เหมาะสมกับที่นั่งว่างในมหาวิทยาลัย 94 แห่ง
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
สถิติที่เกี่ยวข้อง
1. การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
1.1 ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Arithmetic Mean )
นิยาม ค่าเฉลี่ยเลขคณิต คือผลรวมของค่าสังเกตหรือค่าของตัวอย่างที่ได้จากการสำรวจทุกค่า
ของข้อมูลแล้วหารด้วยจำนวนตัวอย่างของข้อมูล
ค่าเฉลี่ยเลขคณิต คือผลรวมของค่าสังเกตหรือค่าของตัวอย่างที่ได้จาก
การสำรวจทุกค่าของข้อมูลแล้วหารด้วยจำนวนตัวอย่างของข้อมูลเป็นค่าที่มีความสำคัญมากในวิชาสถิติ
เพราะค่าเฉลี่ยเลขคณิตเป็นค่ากลางหรือเป็นตัวแทนของข้อมูลที่ดีที่สุดเพราะ
1) เป็นค่าที่ไม่เอนเอียง
2) เป็นค่าที่มีความคงเส้นคงวา
3) เป็นค่าที่มีความแปรปรวนต่ำที่สุด และ
4) เป็นค่าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
แต่ค่าเฉลี่ยเลขคณิตก็มีข้อจำกัดในการใช้เช่น ถ้าข้อมูลมีการกระจายมาก หรือข้อมูลบางตัวมีค่ามากหรือน้อยจนผิดปกติ หรือข้อมูลมีการเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวค่าเฉลี่ยเลขคณิตจะไม่สามารถเป็นค่ากลางหรือเป็นตัวแทนที่ดีของข้อมูลได้
1.2 ค่ามัธยฐาน (Median : Me) เป็นค่ากลางของข้อมูลที่ได้จากการพิจารณาตำแหน่งของข้อมูล ที่อยู่ตรงกลางโดยที่ข้อมูล ต้องทำการเรียงลำดับตามปริมาณจากมากไปน้อยหรือจากน้อยไปมากก็ได้และ
ค่ามัธยฐานยังสามารถใช้เป็นตัวแทนของข้อมูลได้เป็นอย่างดีในกรณีที่ข้อมูลมีการกระจายที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการที่มีข้อมูลบางตัวมีค่ามากหรือน้อยจนผิดปกติ
สำหรับขั้นตอนการหาค่ามัธยฐานมี 2 ขั้นตอนดังนี้
1) เรียงลำดับข้อมูลจากมากไปน้อย หรือจากน้อยไปมาก
2) ทำการหาตำแหน่งกึ่งกลางของข้อมูลที่ได้จากขั้นตอนที่ 1
1.3 ค่าฐานนิยม (Mode : Mo)
ค่าฐานนิยมเป็นค่ากลางซึ่งจะนำมาใช้ในกรณีที่ข้อมูลมีการซ้ำกันมากๆ จนผิดปกติซึ่งค่าฐานนิยมจะเป็นค่ากลางหรือ ตัวแทนของข้อมูลที่สามารถอธิบายลักษณะที่เกิดขึ้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยเลขคณิตและค่ามัธยฐานนอกจากนี้ค่าฐานนิยมยังมีข้อพิเศษมากกว่าค่าเฉลี่ยและมัธยฐานตรงที่สามารถใช้ได้กับข้อมูลที่เป็นข้อมูลเชิงคุณภาพ(Qualitative) และข้อมูลเชิงปริมาณ(Quantitative) และค่าฐานนิยม ยังสามารถมีค่าได้มากกว่า 1 ค่าอีกด้วย การหาค่าฐานนิยม (Mo) เมื่อข้อมูลไม่ได้มีการแจกแจงความถี่ในกรณีที่ข้อมูลไม่ได้มีการแจกแจง ความถี่วิธีการหาค่าฐานนิยม (Mo) สามารถทำได้โดยการนับจำนวนข้อมูลซึ่งข้อมูลชุดใดมีจำนวนซ้ำกันมากที่สุดก็จะเป็นค่าฐานนิยม
https://pibul2.psru.ac.th/~buncha/Chp1_5.htm
2. การวัดตำแหน่งที่หรือตำแหน่งสัมพัทธ์ของข้อมูล
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลการกล่าวถึงตำแหน่งหรือลำดับที่ของข้อมูลในแต่ละชุดเพื่อให้การกล่าวถึงตำแหน่งเป็นไปอย่างมีความหมายกล่าว คือ สามารถบอกได้ทันทีว่า ตำแหน่งนั้นดีหรือไม่ดีอย่างไรในกลุ่มจึงมีการบอกตำแหน่งที่ของข้อมูลโดยบอกตำแหน่งด้วยค่าเปอร์เซ็นไทล์ เดไซล์และควอร์ไทล์
2.1 เปอร์เซ็นไทล์(Percentiles ) หมายถึงตำแหน่งของข้อมูลในทั้งหมด100 ส่วน เขียนแทนด้วยPr โดย Pr คือตำแหน่งเปอร์เซ็นไทล์ที่ r ในข้อมูลทั้งหมด 100 ส่วน ตำแหน่งสุดท้ายในข้อมูลทั้งหมด 100 ส่วน คือ ตำแหน่งที่ 99 เขียนแทนด้วย P99ตำแหน่งP100 ไม่มี
1) การหาเปอร์เซ็นไทล์ของข้อมูลที่ไม่แจกแจงเป็นอันตรภาคชั้น
เมื่อนำข้อมูลชุดหนึ่งมาเรียงค่าจากน้อยไปมากค่าที่ตรงกับจุด 99 จุดที่แบ่งข้อมูล
ออกเป็น100 ส่วน โดยที่แต่ละส่วนมีจำนวนข้อมูลเท่า ๆ กันเรียกค่าที่ตรงกับจุด 99 จุดนี้ว่า เปอร์เซ็นไทล์ที่หนึ่ง (P1) เปอร์เซ็นไทล์ที่สอง (P2)
เปอร์เซ็นไทล์ที่สาม (P3) ... และเปอร์เซ็นไทล์ที่เก้าสิบเก้า (P99) ตามลำดับ
เปอร์เซ็นไทล์ที่หนึ่งเป็นค่าที่มีจำนวนข้อมูลน้อยกว่าค่านี้อยู่ประมาณหนึ่งในร้อยหรือ 1% ของจำนวนข้อมูลทั้งหมด
เปอร์เซ็นไทล์ที่สองเป็นค่าที่มีจำนวนข้อมูลน้อยกว่าค่านี้อยู่ประมาณสองในร้อยหรือ 2% ของจำนวนข้อมูลทั้งหมด
เปอร์เซ็นไทล์ที่สามเป็นค่าที่มีจำนวนข้อมูลน้อยกว่าค่านี้อยู่ประมาณสามในร้อยหรือ 3% ของจำนวนข้อมูลทั้งหมด
•
•
•
เปอร์เซ็นไทล์ที่เก้าสิบเก้าเป็นค่าที่มีจำนวนข้อมูลน้อยกว่าค่านี้อยู่ประมาณเก้าสิบเก้าในร้อยหรือ 99% ของจำนวนข้อมูลทั้งหมด
https://thaimathkids.com/Unit3_02.htm
2) การหาเปอร์เซ็นไทล์ของข้อมูลที่แจกแจงเป็นอันตรภาคชั้น
หาค่าเปอร์เซ็นไทล์ของข้อมูลที่แจกแจงเป็นอันตรภาคชั้นมีขั้นตอนดังนี้
1. หาความถี่สะสมของทุกอันตรภาคชั้น
2. หาตำแหน่งของ Pr โดยที่ ตำแหน่ง Pr
3. หาค่าของข้อมูลที่ตรงกับตำแหน่งของPr
https://thaimathkids.com/Unit3_03.htm
2.2 เดไซล์ (Deciles) คือตำแหน่งที่แสดงให้ทราบว่ามีจำนวนเท่าใดใน10 ส่วนของจำนวนข้อมูล
ทั้งหมดที่ได้คะแนนต่ำกว่าคะแนน ณตำแหน่งนั้น เดไซล์ เป็นค่าที่แบ่งจำนวนข้อมูลออกเป็น10 ส่วนเท่า ๆ กัน เมื่อข้อมูลถูกเรียงจากค่าน้อยไปหาค่ามากเนื่องจากค่าที่แบ่งจำนวนข้อมูลออกเป็น 10 ส่วนเท่า ๆ กัน มีอยู่ 9 ค่าดังนั้นเราตั้งชื่อแต่ละค่าว่า
เดไซล์ที่หนึ่งใช้สัญลักษณ์ D1
เดไซล์ที่สองใช้สัญลักษณ์ D2
•
•
•
เดไซล์ที่เก้า ใช้สัญลักษณ์ D9
ค่าแต่ละค่าจะมีความหมายดังนี้
D1 คือค่าที่มีจำนวนข้อมูลน้อยกว่าค่านี้อยู่ประมาณ 1 ใน 10 ของข้อมูลทั้งหมด
D2 คือค่าที่มีจำนวนข้อมูลน้อยกว่าค่านี้อยู่ประมาณ 2 ใน 10 ของข้อมูลทั้งหมด
D3 คือค่าที่มีจำนวนข้อมูลน้อยกว่าค่านี้อยู่ประมาณ 9 ใน 10 ของข้อมูลทั้งหมด
ดังนั้น Dr จะเป็นค่าที่บอกให้เรารู้ว่ามีจำนวนข้อมูลที่น้อยกว่าค่าดังกล่าวอยู่ r ส่วนจากทั้งหมด 10 ส่วน
การหาเดไซล์แต่ละค่ามีธีการหาเหมือนกับควอร์ไทล์ทุกอย่างจะต่างกันตรงที่เดไซล์เราสามารถหาได้ถึง 9 ค่าและในแต่ละค่าสามารถหาตำแหน่งได้ ดังนี้
https://thaimathkids.com/Unit3_04_3.htm
2.3 ควอร์ไทล์ (Quartiles) เป็นค่าที่แบ่งจำนวนข้อมูลออกเป็น4 ส่วนเท่า ๆ กัน
เมื่อข้อมูลดังกล่าวถูกเรียงจากค่าน้อยไปหามาก เนื่องจากค่าที่แบ่งจำนวนข้อมูลออกเป็น4 ส่วนเท่าๆ กันมีอยู่ 3 ค่า ดังนั้นเราจึงตั้งชื่อเรียกแต่ละคำว่า
ควอร์ไทล์ที่หนึ่ง ใช้สัญลักษณ์ Q1
ควอร์ไทล์ที่สอง ใช้สัญลักษณ์ Q2
ควอร์ไทล์ที่สาม ใช้สัญลักษณ์ Q3
ค่าแต่ละค่ามีความหมายดังนี้
Q1 คือ ค่าที่มีจำนวนข้อมูลน้อยกว่าค่านี้อยู่ประมาณ 1 ใน 4 ของข้อมูลทั้งหมด
Q2 คือ ค่าที่มีจำนวนข้อมูลน้อยกว่าค่านี้อยู่ประมาณ 2 ใน 4 ของข้อมูลทั้งหมด
Q3 คือ ค่าที่มีจำนวนข้อมูลน้อยกว่าค่านี้อยู่ประมาณ 3 ใน 4 ของข้อมูลทั้งหมด
ดังนั้น Q1 จะเป็นค่าที่บอกให้เรารู้ว่ามีจำนวนข้อมูลทีมีค่าต่ำกว่าค่าดังกล่าวอยู่ r ส่วนจากทั้งหมด 4 ส่วน
จากความหมายดังกล่าว ถ้านักเรียนสังเกตให้ดีจะพบว่า Q2 คือมัธยฐาน นั่นเอง
ดังนั้น การหา Q1 , Q2 และ Q3 ก็จะใช้วิธีการหาเช่นเดียวกับการหามัธยฐานซึ่งมีวีการหาตามลำดับขั้นดังนี้
กรณีที่มีข้อมูลไม่ได้แจกแจงความถี่ ให้ N เป็นจำนวนข้อมูลทั้งหมด
ขั้นที่ 1 นำข้อมูลมาเรียงจากค่าน้อยไปหามาก
ขั้นที่ 2 หาตำแหน่งของค่าที่เราต้องการหา
ถ้าต้องการหา Q1 ตำแหน่งที่ Q 1 คือ ( N + 1) ½
ถ้าต้องการหา Q2 ตำแหน่งที่ Q 2 คือ ( N + 1) ¼
ถ้าต้องการหา Q3 ตำแหน่งที่ Q3 คือ ( N + 1) ¾
ขั้นที่3 หาค่าที่อยู่ในตำแหน่งดังกล่าวโดยใช้วีการเช่นเดียวกับการหาเปอร์เซ็นไทล์และมัธยฐาน นั่นเอง
https://thaimathkids.com/Unit3_04.htm
คำถามในห้องเรียน
1. การนำยอดผู้ชำระเงินแอดมิชชันส์ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นหรือไม่เพราะเหตุใด
2. การประกาศผลคะแนนเพื่อจัดอันดับผู้ที่จะมีสิทธิ์ได้สอบสัมภาษณ์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ ใช้การวัดตำแหน่งที่หรือตำแหน่งสัมพัทธ์ของข้อมูลใดเหมาะสมที่สุดพร้อมทั้งอธิบายเหตุผลประกอบ
กิจกรรมเสนอแนะ
1. ศึกษาผลคะแนนเพื่อจัดอันดับผู้ที่จะมีสิทธิ์ได้สอบสัมภาษณ์ในมหาวิทยาลัยต่างๆจากสำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.)กับจำนวนที่นั่งว่าง120,000 ที่นั่ง ในมหาวิทยาลัย 94 แห่ง มีความสัมพันธ์กับความนิยมมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐหรือไม่
การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
อ้างอิงที่มาของข้อมูล https://www.thairath.co.th/content/edu/1850
ภาพประกอบ https://www.thairath.co.th/media/content/2009/04/25/300/1850.jpg
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=29