ผลสำรวจกระทำโดย "Pew" ต่อโครงการชีวิตของชาวอเมริกันและอินเทอร์เนท
วัยรุ่นมะกันหนึ่งในสามส่งข้อความเอสเอ็มเอส 100 ครั้งต่อวัน
ผลสำรวจกระทำโดย "Pew" ต่อโครงการชีวิตของชาวอเมริกันและอินเทอร์เนทพบว่า เด็กวัยรุ่นอเมริกันอายุระหว่าง 12-17 ปี จำนวน 3 ใน 4 พบว่า เด็กหญิงกลุ่มสำรวจได้ส่งหรือรับข้อความเอสเอ็มเอสเป็นจำนวน 80 ครั้งต่อวัน ส่วนวัยรุ่นชาย 30 ครั้งต่อวัน ส่วนอีก 1 ใน 3 พบว่า ได้ส่งข้อความเอสเอ็มเอสเป็นจำนวนกว่า 100 ครั้งต่อวัน
รายงานระบุว่า โพลดังกล่าวชี้ว่า การส่งข้อความเอสเอ็มเอสได้กลายเป็นศูนย์กลางการสื่อสารของชีวิตวัยรุ่นอเมริกันในปัจจุบัน เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวสามารถกระทำได้อย่างสะดวก รอดหูรอดตาผู้ปกครอง ครูอาจารย์ และเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ และยังสามารถกระทำได้ทุกแห่งหนด้วย
สาระความรู้คณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง
เทคนิคการสุ่มเก็บรวบรวมข้อมูล , เทคนิคการสุ่มตัวอย่าง
เนื่องจากการเก็บข้อมูลจากประชากรทุกหน่วย สามารถทำได้ยาก(ประชากรมีขนาดใหญ่) จึงจำเป็นต้องเก็บบางส่วนของประชากร ซึ่งเรียกว่าตัวอย่าง การเก็บรวบรวมข้อมูลจากตัวอย่างหรือการสุ่มตัวอย่างมีวิธีการต่างๆ ซึ่งสามารถจำแนกออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้คือ
• การสุ่มตัวอย่างโดยไม่ใช้ความน่าจะเป็น
- การสุ่มโดยการกำหนดโควตา (Quota Sampling) เป็นการรวบรวมข้อมูลโดยการกำหนดจำนวนหรือจัดสรรจำนวนที่มีอยู่เช่น การสุ่มนักศึกษาทั้ง 6 คณะ โดยกำหนดโควตาคณะละ 100 คน หรือกำหนดโควตาคณะละ 10% จากนักศึกษาทั้งหมดของแต่ละคณะ เป็นต้น
- การสุ่มตัวอย่างตามสะดวก เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ไม่มีกฎเกณฑ์ เมื่อเจอหน่วยตัวอย่างของประชากรที่ต้องการก็เพียงแต่ทำการเลือกมาตามสะดวก
• การสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็น
- การสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย (Simple Random Sampling) หมายถึงการเก็บข้อมูลจากตัวอย่างโดยที่ให้แต่ละหน่วยของประชากรมีโอกาสถูกเลือกเท่าๆ กัน การสุ่มอย่างง่ายอาจทำได้หลายวิธี เช่น
• การจับฉลาก คือ การให้เบอร์หรือเลข กับทุกหน่วยของประชากรแล้วทำการสุ่มหยิบขึ้นมา ซึ่งอาจจะเป็นการสุ่มแบบใส่คืน หรือไม่ใส่คืนก็ได้
• การใช้ตารางเลขสุ่ม (Table of Random Number) ทำได้โดยการกำหนดตัวเลขให้กับประชากรทุกหน่วย เช่น ประชากร 2,500 หน่วย เลขสุ่มก็จะต้องเริ่มตั้งแต่ 0001 ถึง 2500 แล้วทำการเลือกเลข 4 หลัก จากตารางเลขสุ่ม โดยอาจจะใช้เลข 4 ตัวแรก หรือ 4 ตัวท้าย ของแต่ละชุดเลขสุ่มก็ได้ การกำหนดชุดเลขสุ่มที่จะทำการเริ่มสุ่มชุดแรกและวิธีการนับเรียงตามแถวหรือเรียงตามหลักของชุดเลขสุ่มนั้นขึ้นอยู่กับผู้เก็บข้อมูลว่าจะเริ่มนับ ณ จุดใด และเรียงตามแถวและตามหลัก
การนำเสนอข้อมูลสถิติ (Statistical Presentation)
การนำเสนอข้อมูลสถิติแบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ คือ
1) การนำเสนอข้อมูลสถิติโดยปราศจากแบบแผน (Informal Presentation)
1.1 การนำเสนอข้อมูลสถิติเป็นบทความ
1.2 การนำเสนอข้อมูลสถิติเป็นบทความกึ่งตาราง
1.2.1 การนำเสนอข้อมูลสถิติด้วยตาราง (Tabular Presentation)
1.2.2 การนำเสนอข้อมูลสถิติด้วยกราฟและรูป (Graphic Presentation)
2) การนำเสนอข้อมูลสถิติโดยมีแบบแผน (Formal Presentation)
2.1 การเสนอข้อมูลสถิติด้วยตาราง
2.2 การเสนอข้อมูลสถิติด้วยกราฟและรูป
เทคนิคการนำเสนอข้อมูลสถิติด้วยกราฟและรูป
1. เมื่อต้องการเสนอข้อมูลสถิติโดยข้อมูลที่จะนำเสนอนั้นมีเพียงชุดเดียว
1.1 แผนภูมิแท่งเชิงเดียว (Simple Bar Chart)
1.2 ฮิสโตแกรม (Histogram)
2. เมื่อต้องการนำเสนอข้อมูลสถิติในเชิงเปรียบเทียบ เมื่อต้องการนำเสนอในเชิงเปรียบเทียบข้อมูลตั้งแต่ 2 ชุดขึ้นไป ควรนำเสนอข้อมูลด้วยกราฟดังนี้
2.1 แผนภูมิแท่งเชิงซ้อน (Multiple Bar Chart) ข้อมูลสถิติที่จะนำเสนอด้วยแผนภูมิแท่งต้องเป็นข้อมูลประเภทเดียวกันหน่วยของตัวเลขเป็นหน่วยเดียวกันและควรใช้เปรียบเทียบข้อมูลเพียง 2 ชุดเท่านั้น ซึ่งอาจเป็นแผนภูมิในแนวตั้งหรือแนวนอน ก็ได้สิ่งที่สำคัญต้องมีกุญแจ (Key)
2.2 แผนภูมิเส้นหลายเส้น (Multiple Line Chart) ถ้าต้องการเปรียบเทียบข้อมูลสถิติหลายประเภทพร้อมๆกันควรจะนำเสนอด้วยแผนภูมิเส้นซึ่งสามารถนำเสนอข้อมูลที่มีหน่วยเหมือนกันหรือมีหน่วยต่างกันได้ดูรูปที่1.7
3. เมื่อต้องการนำเสนอข้อมูลสถิติในเชิงส่วนประกอบ การนำเสนอข้อมูลในเชิงส่วนประกอบมีวิธีเสนอได้ 2 แบบ คือ
3.1 แผนภูมิวงกลม (Pie Chart)
3.2 แผนภูมิแท่งเชิงประกอบ(Component Bar Chart)แผนภูมิแท่งเชิงประกอบเหมาะจะนำไปใช้เสนอข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ วิธีทำคือเมื่อคิดองค์ประกอบต่างๆเป็นร้อยละของทั้งหมดแล้วจะให้ความสูงของแผนภูมิแท่ง แทนองค์ประกอบทั้งหมดความสูงขององค์ประกอบแต่ละส่วนเป็นไปตามสัดส่วนขององค์ประกอบนั้นๆจะเรียงลำดับองค์ประกอบที่มีความสำคัญมากให้อยู่ข้างล่าง
4.การนำเสนอข้อมูลสถิติด้วยแผนภูมิภาพ (Pictograph) การนำเสนอข้อมูลสถิติด้วยวิธีนี้จึงเป็นการเสนอสถิติที่เข้าใจง่ายที่สุด
5.การเสนอข้อมูลสถิติด้วยแผนที่สถิติ เป็นการนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิศาสตร์หรือสถานที่ เช่นสถิติเกี่ยวกับความหนาแน่นของประชากรตามภูมิภาคต่างๆ สถิติจำนวนผู้ป่วยเป็นไข้ทรพิษที่ระบาดในประเทศบังกลาเทศ เป็นต้น
คำถามในห้องเรียน
1. ให้นักเรียนสำรวจขัอมูลวัยรุ่นไทยอายุระหว่าง 15-17 ปี ในห้องเรียนถึงการส่งหรือรับข้อความเอสเอ็มเอสกี่ครั้งต่อวันโดยแยกเป็นวัยรุ่นชาย และวัยรุ่นหญิง
2. นักเรียนควรนำเสนอข้อมูลด้วยวิธีการใดที่คิดว่าเหมาะสมที่สุดพร้อมทั้งอธิบายเหตุผลประกอบ
กิจกรรมเสนอแนะ
1. ศึกษาแนวโน้มของผลการสำรวจระหว่างวัยรุ่นชายกับวัยรุ่นหญิงได้ส่งหรือรับข้อความเอสเอ็มเอสกี่ครั้งต่อวัน
การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ที่มาของข้อมูล https://www.thaigoodview.com/node/50480
ที่มาของข้อมูล https://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1271832268&grpid=&catid=04
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=2103