ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ... กับ ความน่าจะเป็น ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 ต.ค. 53 ผลการออกรางวัล งวดวันที่ 16 ตุลาคม 2553 รางวัลที่ 1 621377 รางวัลเลขท้าย 3 ตัว 310 385 518 872 รางวัลเลขท้าย 2 ตัว 42 รางวัลที่ 1 พิเศษ สลากกินแบ่งรัฐบาล กลุ่มที่ 1 ชุดที่ เลขที่ 621377 สลากกินแบ่งรัฐบาล กลุ่มที่ 2 ชุดที่ เลขที่ 621377 คลิกที่ภาพขนาดเต็มhttps://news.impaqmsn.com/imagelib/102010/d187a4e08853db5.gif ที่มาของข้อมูล https://news.impaqmsn.com/articles_hn.aspx?id=369813&ch=hn คณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ความน่าจะเป็น การทดลองสุ่ม คือการทดลองที่ผลลัพธ์อาจจะเกิดขึ้นได้แตกต่างกันหลายอย่าง แต่เราไม่ทราบว่าผลลัพธ์ใดจะเกิดขึ้น แซมเปิลสเปซ(Sample Space) คือเซตของผลลัพธ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทั้งหมดจากการทดลองสุ่มและเป็นสิ่งที่เราสนใจ เรานิยมใช้สัญลักษณ์ S แทนแซมเปิลสเปซ จากความหมายของแซมเปิลสเปซ แสดงว่า ในการทดลองหรือการกระทำใด ๆ ก็ตาม ผลลัพธ์ที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ต้องเป็นสมาชิกในแซมเปิลสเปซทั้งสิ้น
ตัวอย่าง การหาแซมเปิลสเปซในการโดยเหรียญ 1 เหรียญ ถ้าเราสนใจหน้าที่หงายขึ้น ผลลัพธ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้คื หัว หรือ ก้อย ดังนั้นแซมเปิลสเปซที่ได้ คือ S={หัว, ก้อย} ตัวอย่าง ในการทอดลูกเต๋า 1 ลูก ถ้าเราสนใจแต้ม ของลูกเต๋าที่หงายขึ้น ผลลัพธ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้คือ ลูกเต๋าขึ้นแต้ม 1 หรือ 2 หรือ 3 หรือ 4 หรือ 5 หรือ 6 ดังนั้นแซมเปิลสเปซที่ได้คือS = {1, 2,3,4,5,6} ตัวอย่าง จากการทดลองสุ่มโดยการทดลองทอดลูกเต๋า 2 ลูก 1. จงหาแซมเปิลสเปซของแต้มของลูกเต๋าที่หงายขึ้น 2. จงหาแซมเปิลสเปซของผลรวมของแต้มบนลูกเต๋า วิธีทำ 1. เนื่องจากโจทย์สนใจแต้มของลูกเต๋าที่หงายขึ้น ดังนั้นเราต้องเขียนแต้มของลูกเต๋าที่มีโอกาสที่จะหงายขึ้นมาทั้งหมด และเพื่อความสะดวกให้ (a,b) แทนผลลัพธ์ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยที่ a แทนแต้มที่หงายขึ้นของลูกเต๋าลูกแรก b แทนแต้มที่หงายขึ้นของลูกเต๋าลูกที่สอง ดังนั้น แซมเปิลสเปซของการทดลองสุ่มคือ S={(1,1),(1,2),(1,3),(1,4),(1,5),(1,6), (2,1),(2,2),(2,3),(2,4),(2,5),(2,6), (3,1),(3,2),(3,3),(3,4),(3,5),(3,6), (4,1),(4,2),(4,3),(4,4),(4,5),(4,6), (5,1),(5,2),(5,3),(5,4),(5,5),(5,6), (6,1),(6,2),(6,3),(6,4),(6,5),(6,6)} 2.เนื่องจากโจทย์สนใจผลรวมของแต้มบนลูกเต๋า ดังนั้นเราต้องเขียนผลรวมของแต้มบนลูกเต๋าที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งหมด จะได้แซมเปิลสเปซของผลรวมของแต้มบนลูกเต๋าทั้ง 2 ลูก คือ {2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12} ตัวอย่าง ในกล่องใบหนึ่งมีลูกบอลสีแดง 2 ลูก สีขาว 1 ลูก ถ้าเราหยิบลูกบอลออกจากกล่องมา 1 ลูก โดยวิธีสุ่ม 1. จงหาแซมเปิลสเปซของสีของลูกบอลที่จะเกิดขึ้น 2. จงหาแซมเปิลสเปซของลูกบอลที่หยิบออกมาได้ วิธีทำ 1.เนื่องจากโจทย์สนใจสีของลูกบอลที่จะหยิบมาได้ ดังนั้นแซมเปิลสเปซของสีของลูกบอลที่หยิบได้คือ S={สีแดง,สีขาว} 2.เนื่องจากโจทย์สนใจลูกบอลที่จะหยิบมาได้ ซึ่งมีทั้งหมด 3 ลูก สมมติให้เป็น แดง1 แดง2 ขาว1 ดังนั้นแซมเปลิสเปซของลูกบอลที่หยิบออกมาคือ S = {แดง1,แดง2, ขาว1} เหตุการณ์(event) คือสับเซตของแซมเปิลสเปซ เรานิยมใช้ A, B, C, D, E, ... เป็นสัญลักษณ์แทน เหตุการณ์ ข้อควรสนใจ เนื่องจากเหตุการณ์เป็นสับเซตของแซมเปิลสเปซ ดังนั้น เซตว่าง ก็คือ เหตุการณ์ ๆ หนึ่ง เช่นเดียวกัน ตัวอย่าง มีบัตรอยู่ 10 ใบซึ่งแต่ละใบมีหมายเลข 1,2,3,4, 5,6,7,8,9,10 ตามลำดับ สุ่มหยิบบัตรมา 2 ใบพร้อมกันจงหาเหตุการณ์ที่ผลรวมของหมายเลขบนบัตรทั้ง 2 ใบเป็นจำนวนคู่ วิธีทำ คำว่าสุ่มหยิบบัตรมา 2 ใบ หมายถึง หยิบโดยไม่ดู หรือไม่เห็นว่าแต่ละใบหมายเลขอะไรซึ่งลักษณะการหยิบโดยสุ่มแบบนี้ เราถือว่าเป็นการทดลองสุ่มเพราะเราไม่ทราบผลลัพธ์ล่วงหน้า เนื่องจากโจทย์ต้องการให้หาผลรวมของหมายเลขบนบัตร ดังนั้นแซมเปิลสเปซก็ต้องประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นผลรวมของหมายเลขบนบัตรทั้ง 2 ใบที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งหมด นักเรียนจะพบว่าผลรวมของหมายเลขจะมีค่าน้อยที่สุดเมื่อได้บัตรหมายเลข 1 และ 2 ซึ่งผลรวมเท่ากับ 3 และผลรวมจะมีค่ามากที่สุดเมื่อได้บัตรหมายเลข 9 และ 10 ซึ่งผลรวมเท่ากับ 19 แสดงว่าแซมเปิลสเปซ S จะมีลักษณะดังนี้ S = {3, 4, 5, 6,…,17, 18, 19} สมมติให้ A เป็นเหตุการณ์ที่ผลรวมของหมายเลขบนบัตรทั้ง 2 ใบเป็นจำนวนคู่ A = {4, 6, 8, 10, 12, 14, 16, 18} ตัวอย่าง ถุงใบหนึ่งมีลูกบอลสีขาว 3 ลูก สีแดง 2 ลูก หยิบลูกบอลออกจากถุง 2 ลูก จงหา 1.แซมเปิลสเปซของสีของลูกบอล และเหตุการณ์ที่จะได้ลูกบอลสีขาว 2.แซมเปิลสเปซของลูกบอลที่หยิบมาได้ และเหตุการณ์ที่จะได้ลูกบอลเป็นสีขาว 1 ลูก สีแดง 1 ลูก วิธีทำ 1.เนื่องจากเราสนใจเกี่ยวกับสีของลูกบอล และลูกบอลมีอยู่สองสีคือสีขาวและสีแดง ดังนั้น แซมเปิลสเปซ S={ขาว, แดง} สมมติให้ B เป็นเหตุการณ์ที่จะได้ลูกบอลสีขาว ดังนั้น B = {ขาว} 2.เนื่องจากเราสนใจแซมเปิลสเปซของลูกบอลแต่ละลูกที่ถูกหยิบขึ้นมา ดังนั้นแซมเปิลสเปซ S คือ S={ข1ข2,ข1ข3,ข1ด1,ข1ด2,ข 2ด3,ข2ด1,ข2ด2 ,ข3 ด1 ,ข3ด2,ด1ด2} ให้ C เป็นเหตุการณ์ที่ผลลัพธ์เป็นลูกบอลสีขาว 1 ลูก และ สีแดง 1 ลูก ดังนั้น เหตุการณ์ C คือ C = {ข1ด1 ,ข1ด2,ข2ด1,ข2ด2,ข3ด1,ข3 ด2} หมายเหตุ ข แทน ขาว และ ด แทน แดง ข้อควรสนใจ 1. เนื่องจากแซมเปิลสเปซ S เป็นเซตของผลลัพธ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทั้งหมด จากการทดลองสุ่ม ดังนั้น ถ้าเปรียบเทียบกับเรื่องเซตแล้ว แซมเปิลสเปซ S คือ เอกภพสัมพัทธ์ นั่นเอง 2. เนื่องจากเหตุการณ์เป็นสับเซตของแซมเปิลสเปซ S ดังนั้น ถ้าเปรียบกับเรื่องเซตแล้ว เหตุการณ์ิ ก็คือ เซต A, B, C, ... ซึ่งทุกเซตต่างก็เป็นสับเซตของเอกภพสัมพัทธ์นั้นเอง 3. เราสามารถใช้ความรู้เรื่องเซตมาช่วยในการพิจารณาเกี่ยวกับลักษณะของ เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ดังนี้ ให้ E1 และ E2 เป็นเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ E1U E 2= หมายถึงเหตุการณ์ที่อยู่ใน E 1 หรือใน E2 ที่มาของข้อมูล https://thatsanee.chs.ac.th/probability.html
ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ เป็นการหาว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเท่ากับเท่าใด หรือเหตุการณ์ดังกล่าวมีโอกาสที่จะเิกิดขึ้นกี่เปอร์เซนต์นั้นเอง เช่น ในการทอดลูกเต๋า 1 ลูกโอกาสที่ลูกเต๋าจะหงายแต้มเป็นจำนวนคู่ มีค่าเท่ากับเท่าใด โดยสามัญสำนึกจะตอบได้ว่ามีโอกาส 50% หรือมีโอกาส 3 ใน 6 เป็นต้น ถ้านำมาเรียบเรียงใหม่ให้ดีจะพบว่า โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เท่ากับ 50/100 = 3/6 = 1/2 นั่นคือความน่าจะเป็นของเหตุการณ์นี้ นิยาม ถ้า S เป็นแซมเปิลสเปซซึ่งเป็นเซตจำกัด ซึ่งแต่ละผลลัพธ์ใน S มีโอกาสเกิดขึ้นเท่า ๆ กัน P(E) แทนความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ E และจะได้หลักการหาความน่าจะเป็น ดังนี้ P(E) คือสัญลักษณ์แทนความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ E P(E) = n(E) = จำนวนของสมาชิกในเหตุการณ์ E n(S) จำนวนของสมาชิกในแซมเปิลสเปซ S สมบัติของความน่าจะเป็น 1. 0< P(E) < 1 2. ถ้า E = Ø แล้ว P(E) = 0 คือ P(Ø) = 0 3. ถ้า E = S แล้ว P(E) = 1 นั่นคือ P(S) = 1 4. P(AUB) = P(A)+P(B) - P(A B) 5. P(A) = 1 - P(A') หรือ P(A')=1-P(A) 6. P(AUBUC) = P(A)+P(B)+P(C)-P(A B)-P(B C)-P(A C)+P(A B C) ที่มาของข้อมูล https://thatsanee.chs.ac.th/p2_probra.html แบบทดสอบก่อนเรียน ที่มาของข้อมูล https://thatsanee.chs.ac.th/pretest_proba.html แบบทดสอบหลังเรียน ที่มาของข้อมูล https://thatsanee.chs.ac.th/posttest.html
คำถามในห้องเรียน 1. ความน่าจะเป็นของผลการออกรางวัล รางวัลที่ 1 มีกี่วิธี 2. ความน่าจะเป็นของรางวัลเลขท้าย 3 ตัว และความน่าจะเป็นของรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ต่างกันเท่าไร ข้อเสนอแนะ มีใครร่ำรวยจากการถูกรางวัลที่ 1 รางวัลเลขท้าย 2 ตัว แลรางวัลเลขท้าย 3 ตัว บ้าง ถ้าไม่รู้จากทำมาหากินและรู้จักการเก็บออมเงินบ้าง การบูรณาการกับกลุ่มสาระอื่นๆ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 1 การดำรงชีวิตและครอบครัว มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทำงานร่วมกัน และทักษะารแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทำงาน มีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมเพื่อการดำรงชีวิตและครอบครัว กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม¬ มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธำรงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทย และ สังคมโลกอย่างสันติสุข ที่มาของภาพ https://www.mathcenter.net/forum/attachment.php?attachmentid=2111&stc=1&d=1258982284 ที่มาของภาพ https://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTejLIjGfekUUptQRxZfomKyaPwx_5P9ikjsEfc8U0bNVjcDWI&t=1&usg=__cPfCUX4sECHze_vB1sklIOIkZXo= ที่มาของภาพ https://math.sura.ac.th/UserFiles/Image/math.jpg ที่มาของภาพ https://gotoknow.org/file/thanis_11/3101.jpg ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=3254 |