มาศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศประเทศไทยกันเถอะ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินชีวิตใต้ฟ้าเมืองไทยของเรา ภูมิอากาศของประเทศไทย ![ภูมิศาสตร์น่ารู้.....ตอน อากาศ[[ร้ายๆ]]ในประเทศไทย](https://www.pantown.com/data/15058/board1/50.jpg)
1. ขนาดและที่ตั้ง
ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปเอเชีย ระหว่างละติจูด 5 ํ 37' เหนือ กับ 20 ํ 27' เหนือ และระหว่างลองจิจูด 97 ํ 22' ตะวันออก กับ 105 ํ 37' ตะวันออก มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 513,115 ตารางกิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศใกล้เคียงดังนี้
ทิศเหนือ | ติดประเทศพม่าและลาว | ทิศตะวันออก | ติดประเทศลาว กัมพูชา และอ่าวไทย | ทิศใต้ | ติดประเทศมาเลเซีย | ทิศตะวันตก | ติดประเทศพม่าและทะเลอันดามัน | ![ภูมิศาสตร์น่ารู้.....ตอน อากาศ[[ร้ายๆ]]ในประเทศไทย](https://www.vcharkarn.com/uploads/94/94288.jpg) 2. ภูมิประเทศและการแบ่งภาคทางอุตุนิยมวิทยา ประเทศไทยเป็นประเทศเล็ก ลักษณะภูมิประเทศ และลมฟ้าอากาศส่วนใหญ่คล้ายคลึงกันมีแตกต่างกันบ้างเพียงเล็กน้อย การแบ่งภาคของประเทศไทยในทางอุตุนิยมวิทยา จึงพิจารณารูปแบบภูมิอากาศและแบ่งประเทศไทยออกได้เป็น 5 ภาค ดังนี้
![ภูมิศาสตร์น่ารู้.....ตอน อากาศ[[ร้ายๆ]]ในประเทศไทย](https://www.thaigoodview.com/files/u9/north_map.jpg) 1. ภาคเหนือ ประกอบด้วย 15 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขา มีภูเขาติดกันเป็นพืดในแนวเหนือ-ใต้ สลับกับหุบเขาทั้งแคบและกว้างมากมาย ทิวเขาที่สำคัญได้แก่ ทิวเขาแดนลาว ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือ กั้นเขตแดนระหว่างไทยกับพม่า และเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำปิง ทางตะวันตกมีทิวเขาถนนธงชัย และทิวเขาตะนาวศรีบางส่วน ตอนกลางของภาคมีทิวเขาผีปันน้ำ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำวังและแม่น้ำยม ด้านตะวันออกมีทิวเขาหลวงพระบางซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำน่าน และมีทิวเขาเพชรบูรณ์บางส่วนเป็นแนวกั้น ระหว่างภาคนี้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย คือ ดอยอินทนนท์อยู่ในเทือกเขาจอมทอง เขตจังหวัดเชียงใหม่ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 2,565 เมตร ![ภูมิศาสตร์น่ารู้.....ตอน อากาศ[[ร้ายๆ]]ในประเทศไทย](https://www4.msu.ac.th/satit/studentProj/2548/Selectted/M104/g11-I-sanNatural/index1_files/northeast_map.jpg)
2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ประกอบด้วย 19 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและลาดต่ำไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทางตะวันตกมีทิวเขาเพชรบูรณ์ และทิวเขาดงพญาเย็นเป็นแนวกั้นระหว่างภาคนี้กับภาคเหนือและภาคกลาง ส่วนทางใต้มีทิวเขาสันกำแพงกั้นระหว่างภาคนี้กับภาคตะวันออก และทิวเขาพนมดงรักกั้นพรมแดนภาคนี้ กับประเทศกัมพูชา ทิวเขาเพชรบูรณ์และทิวเขาดงพญาเย็นซึ่งสูงประมาณ 800 ถึง 1,300 เมตร และทิวเขาพนมดงรัก ซึ่งสูงประมาณ 400 เมตร เป็นแนวกั้นกระแสลมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้บริเวณด้านหลังเขาซึ่งได้แก่พื้นที่ทางด้านตะวันตกของภาคมีฝนน้อยกว่าทางตะวันออก ![ภูมิศาสตร์น่ารู้.....ตอน อากาศ[[ร้ายๆ]]ในประเทศไทย](https://pirun.ku.ac.th/~b4813056/center_map.jpg) 3. ภาคกลาง ประกอบด้วย 18 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สระบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม ระดับพื้นที่ลาดลงมาทางใต้ตามลำดับจนถึงอ่าวไทย ในภาคนี้มีภูเขาบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาที่ไม่สูงมาก เว้นแต่ทางด้านตะวันตกใกล้ชายแดนประเทศพม่า มีเทือกเขาตะนาวศรีวางตัวในแนวเหนือ-ใต้ ต่อเนื่องมาจากภาคเหนือเป็นแนวกั้นพรมแดนกับประเทศพม่า และมีความสูงเกินกว่า 1,600 เมตร ทางตะวันออกมีทิวเขาดงพญาเย็น เป็นแนวแบ่งเขตภาคนี้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
![ภูมิศาสตร์น่ารู้.....ตอน อากาศ[[ร้ายๆ]]ในประเทศไทย](https://pirun.ku.ac.th/~b4813056/east_map.jpg) 4. ภาคตะวันออก ประกอบด้วย 8 จังหวัด ได้แก่ นครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาและที่ราบ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของภาค มีทิวเขาบรรทัดเป็นแนวกั้นพรมแดนกับประเทศกัมพูชา ถัดเข้ามามีทิวเขาจันทบุรี ทางเหนือมีทิวเขาสันกำแพงและพนมดงรักวางตัวในแนวตะวันตก-ตะวันออกเป็นแนวแบ่งเขตภาคนี้ กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางตะวันตกและทางใต้เป็นฝั่งทะเลติดกับอ่าวไทย มีเกาะใหญ่น้อยมากมาย
![ภูมิศาสตร์น่ารู้.....ตอน อากาศ[[ร้ายๆ]]ในประเทศไทย](https://pirun.ku.ac.th/~b4813056/south_map.jpg) 5. ภาคใต้ เป็นคาบสมุทรขนาบด้วยทะเลสองด้าน ด้านตะวันตกคือทะเลอันดามัน ด้านตะวันออก คืออ่าวไทยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลจีนใต้ ทางตอนบนของภาคมีทิวเขาตะนาวศรีซึ่งวางตัวในแนวเหนือ-ใต้ต่อเนื่องมาจากภาคเหนือและภาคกลางเป็นแนวกั้นพรมแดนกับประเทศพม่า ทางตอนล่างของภาคมีทิวเขาภูเก็ตและทิวเขานครศรีธรรมราชวางตัวในแนวเหนือ-ใต้ แบ่งภาคนี้ออกเป็นสองส่วน คือที่ราบชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกติดกับอ่าวไทยซึ่งมีอาณาเขตกว้างขวาง และที่ราบด้านตะวันตกขนานกับชายฝั่งทะเลอันดามัน และช่องแคบมะละกาซึ่งเป็นบริเวณแคบกว่าที่ราบด้านตะวันออก ทางทิศใต้ของภาคมีทิวเขาสันกาลาคีรีเป็นแนวกั้นพรมแดนกับประเทศมาเลเซีย | |
ภาคนี้แบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน ดังนี้  | ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้แก่บริเวณตอนบนของภาคต่อเนื่องถึงที่ราบชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก ประกอบด้วย 10 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส |  | ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล | |
![ภูมิศาสตร์น่ารู้.....ตอน อากาศ[[ร้ายๆ]]ในประเทศไทย](https://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=332&stc=1&d=1243988667) 3. ลมมรสุมกับภูมิอากาศของประเทศไทย ประเทศไทยอยู่ภายใต้อิทธิพลของมรสุมสองชนิด คือ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
 | มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดปกคลุมประเทศไทยระหว่างกลางเดีอนพฤษภาคมถึง กลางเดือนตุลาคม โดยมีแหล่งกำเนิดจากบริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกใต้ บริเวณมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งพัดออกจากศูนย์กลางเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้ และเปลี่ยนเป็น ลมตะวันตกเฉียงใต้เมื่อพัดข้ามเส้นศูนย์สูตร มรสุมนี้จะนำมวลอากาศชื้นจากมหาสมุทรอินเดีย มาสู่ประเทศไทย ทำให้มีเมฆมากและฝนตกชุกทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามบริเวณชายฝั่งทะเล และเทือกเขาด้านรับลมจะมีฝนมากกว่าบริเวณอื่น |  | มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากหมดอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้แล้ว ประมาณกลางเดือนตุลาคมจะมีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ มรสุมนี้มีแหล่งกำเนิดจากบริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกเหนือแถบประเทศมองโกเลียและจีน จึงพัดพาเอามวลอากาศเย็นและแห้งจากแหล่งกำเนิดเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ท้องฟ้าโปร่ง อากาศหนาวเย็นและแห้งแล้งทั่วไป โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคใต้จะมีฝนชุกโดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออก เนื่องจากมรสุมนี้นำความชุ่มชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุม | |
การเริ่มต้นและสิ้นสุดมรสุมทั้งสองชนิดอาจผันแปรไปจากปกติได้ในแต่ละปี 4. ฤดูกาล
ประเทศไทยโดยทั่ว ๆ ไปสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู ดังนี้ 1. ฤดูร้อน | ระหว่างกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม | 2. ฤดูฝน | ระหว่างกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม | 3. ฤดูหนาว | ระหว่างกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ | |
![ภูมิศาสตร์น่ารู้.....ตอน อากาศ[[ร้ายๆ]]ในประเทศไทย](https://widget.sanook.com/static_content/widget/full/emo_1/2141/401141/e5c4faa829b5021a17e50c08ba14be25_1242439029.gif) ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และเป็นระยะที่ขั้วโลกเหนือหันเข้าหาดวงอาทิตย์ โดยเฉพาะเดือนเมษายนบริเวณประเทศไทย มีดวงอาทิตย์อยู่เกือบตรงศรีษะในเวลาเที่ยงวัน ทำให้ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์เต็มที่ สภาวะอากาศจึงร้อนอบอ้าวทั่วไป ในฤดูนี้แม้ว่าโดยทั่วไปจะมีอากาศร้อนและแห้งแล้ง แต่บางครั้งอาจมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบน ทำให้เกิดการปะทะกันของมวลอากาศเย็นกับมวลอากาศร้อนที่ปกคลุมอยู่เหนือประเทศไทย ซึ่งก่อให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงหรืออาจมีลูกเห็บตกก่อให้เกิดความเสียหายได้ พายุฝนฟ้าคะนองที่เกิดขึ้นในฤดูนี้มักเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าพายุฤดูร้อน ลักษณะอากาศในฤดูร้อนพิจารณาจากอุณหภูมิสูงสุดของแต่ละวัน โดยมีเกณฑ์การพิจารณาดังนี้ อากาศร้อน อุณหภูมิระหว่าง 35.0 'ซ. - 39.9 'ซ. อากาศร้อนจัด อุณหภูมิตั้งแต่ 40.0 'ซ. ขึ้นไป ฤดูฝน
เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมเมื่อมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย และร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านประเทศไทยทำให้มีฝนชุกทั่วไป ร่องความกดอากาศต่ำนี้ปกติจะพาดผ่านภาคใต้ในเดือนพฤษภาคม แล้วจึงเลื่อนขึ้นไปทางเหนือตามลำดับจนถึงช่วงประมาณปลายเดือนมิถุนายน จะพาดผ่านอยู่บริเวณประเทศจีนตอนใต้ ทำให้ฝนในประเทศไทยลดลงระยะหนึ่ง และเรียกว่าเป็นช่วงฝนทิ้ง ซึ่งอาจนานประมาณ 1 - 2 สัปดาห์หรือบางปีอาจเกิดขึ้นรุนแรงและมีฝนน้อยนานนับเดือน ในเดือนกรกฎาคมปกติร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนกลับลงมาทางใต้พาดผ่านบริเวณประเทศไทยอีกครั้ง ทำให้มีฝนชุกต่อเนื่อง จนกระทั่งมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดเข้ามาปกคลุมประเทศไทยแทนที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณกลางเดือนตุลาคมประเทศไทยตอนบน จะเริ่มมีอากาศเย็นและฝนลดลง โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เว้นแต่ภาคใต้ยังคงมีฝนชุกต่อไปจนถึงเดือนธันวาคมและมักมีฝนหนักถึงหนักมากจนก่อให้เกิดอุทกภัย โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออกซึ่งจะมีปริมาณฝนมากกว่าภาคใต้ฝั่งตะวันตก อย่างไรก็ตามการเริ่มต้นฤดูฝนอาจจะช้าหรือเร็วกว่ากำหนดได้ประมาณ 1 - 2 สัปดาห์ เกณฑ์การพิจารณาปริมาณฝนในระยะเวลา 24 ชั่วโมงของแต่ละวันตั้งแต่เวลา 07.00 น. ของวันหนึ่งถึงเวลา 07.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ตามลักษณะของฝนที่ตกในประเทศที่อยู่ในเขตร้อนย่านมรสุมมีดังนี้
ฝนวัดจำนวนไม่ได้ | ปริมาณฝนน้อยกว่า 0.1 มิลลิเมตร | ฝนเล็กน้อย | ปริมาณฝนระหว่าง 0.1 - 10.0 มิลลิเมตร | ฝนปานกลาง | ปริมาณฝนระหว่าง 10.1 - 35.0 มิลลิเมตร | ฝนหนัก | ปริมาณฝนระหว่าง 35.1 - 90.0 มิลลิเมตร | ฝนหนักมาก | ปริมาณฝนตั้งแต่ 90.1 มิลลิเมตรขึ้นไป | ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนานราว 1-2 สัปดาห์ เป็นช่วงเปลี่ยนฤดูจากฤดูฝนเป็นฤดูหนาว อากาศแปรปรวน ไม่แน่นอน อาจเริ่มมีอากาศเย็นหรืออาจยังมีฝนฟ้าคะนอง โดยเฉพาะบริเวณภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออกลงไปซึ่งจะหมดฝน และเริ่มมีอากาศเย็นช้ากว่าภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศในฤดูหนาวพิจารณาจากอุณหภูมิต่ำสุดของแต่ละวัน โดยมีเกณฑ์การพิจารณาดังนี้ อากาศหนาวจัด | อุณหภูมิต่ำกว่า 8.0 'ซ. | อากาศหนาว | อุณหภูมิระหว่าง 8.0 'ซ. - 15.9 'ซ. | อากาศเย็น | อุณหภูมิระหว่าง 16.0 'ซ. - 22.9 'ซ. | | |
5. อุณหภูมิ ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อน สภาวะอากาศโดยทั่วไปจึงร้อนอบอ้าวเกือบตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีของประเทศไทยมีค่าประมาณ 27 ํซ. อย่างไรก็ตามอุณหภูมิจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่และฤดูกาล พื้นที่ที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินบริเวณตั้งแต่ภาคกลาง และภาคตะวันออกตอนบนขึ้นไปจนถึงภาคเหนือจะมีอุณหภูมิแตกต่างกันมาก ระหว่างฤดูร้อนกับฤดูหนาว และระหว่างกลางวันกับกลางคืน โดยในช่วงฤดูร้อนอุณหภูมิสูงสุดในตอนบ่าย ปกติจะสูงถึงเกือบ 40 ํซ. หรือมากกว่านั้นในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม โดยเฉพาะเดือนเมษายนจะเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนจัดที่สุดในรอบปี ส่วนฤดูหนาวอุณหภูมิต่ำสุดในตอนเช้ามืดจะลดลงอยู่ในเกณฑ์หนาวถึงหนาวจัด โดยเฉพาะเดือนธันวาคมถึงมกราคมเป็นช่วงที่มีอากาศหนาวมากที่สุดในรอบปี ซึ่งในช่วงดังกล่าวอุณหภูมิอาจลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็งได้ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณพื้นที่ซึ่งเป็นเทือกเขาหรือบนยอดเขาสูง สำหรับพื้นที่ซึ่งอยู่ติดทะเลได้แก่ภาคตะวันออกตอนล่าง และภาคใต้ความผันแปรของอุณหภูมิในช่วงวันและฤดูกาลจะน้อยกว่า โดยฤดูร้อนอากาศไม่ร้อนจัดและฤดูหนาวอากาศไม่หนาวจัดเท่าพื้นที่ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน |
สถิติอุณหภูมิ ( 'ซ.) ของประเทศไทยในฤดูกาลต่างๆ
อุณหภูมิ | ภาค | ฤดูหนาว | ฤดูร้อน | ฤดูฝน | เฉลี่ย | เหนือ | 23.1 | 28.0 | 27.3 | | ตะวันออกเฉียงเหนือ | 23.9 | 28.5 | 27.7 | | กลาง | 26.1 | 29.6 | 28.3 | | ตะวันออก | 26.4 | 28.9 | 28.1 | | ใต้ | | | | | - ฝั่งตะวันออก | 26.3 | 28.1 | 27.7 | | - ฝั่งตะวันตก | 26.8 | 28.3 | 27.4 | | สูงสุดเฉลี่ย | เหนือ | 30.8 | 35.8 | 32.2 | | ตะวันออกเฉียงเหนือ | 30.3 | 35.0 | 32.3 | | กลาง | 31.7 | 35.5 | 32.8 | | ตะวันออก | 31.7 | 33.9 | 32.1 | | ใต้ | | | | | - ฝั่งตะวันออก | 29.9 | 32.8 | 32.1 | | - ฝั่งตะวันตก | 31.9 | 34.0 | 31.4 | | ต่ำสุดเฉลี่ย | เหนือ | 17.1 | 21.4 | 23.7 | | ตะวันออกเฉียงเหนือ | 18.3 | 23.0 | 24.2 | | กลาง | 21.1 | 24.6 | 24.8 | | ตะวันออก | 21.8 | 25.0 | 25.0 | | ใต้ | | | | | - ฝั่งตะวันออก | 22.0 | 23.2 | 23.7 | | - ฝั่งตะวันตก | 22.9 | 23.7 | 24.1 | หมายเหตุ : ค่าเฉลี่ยในคาบ 30 ปี (พ.ศ. 2514 -2543) | |
สถิติอุณหภูมิสูงที่สุด ( 'ซ.) ของประเทศไทยในช่วงฤดูร้อน
ภาค | อุณหภูมิสูงที่สุด | วันที่ | เดือน | พ.ศ. | จังหวัด | เหนือ | 44.5 | 27 | เม.ย. | 2503 | อุตรดิตถ์ | ตะวันออกเฉียงเหนือ | 43.9 | 28 | เม.ย. | 2503 | อุดรธานี | กลาง | 43.5 | 29 | เม.ย. | 2501 | กาญจนบุรี | | | 14 | เม.ย. | 2526 | กาญจนบุรี | | | 14,20 | เม.ย. | 2535 | กาญจนบุรี | ตะวันออก | 42.9 | 23 | เม.ย. | 2533 | ปราจีนบุรี (อ.กบินทร์บุรี) | ใต้ | | | | | | - ฝั่งตะวันออก | 41.2 | 15 | เม.ย. | 2541 | ประจวบคีรีขันธ์ (สกษ.หนองพลับ อ.หัวหิน) | - ฝั่งตะวันตก | 40.5 | 29 | มี.ค. | 2535 | ตรัง | หมายเหตุ 1.สกษ. หมายถึง สถานีอากาศเกษตร 2. ข้อมูลในคาบ 55 ปี (พ.ศ.2494 - 2551) | |
สถิติอุณหภูมิต่ำที่สุด ( 'ซ.) ของประเทศไทยในช่วงฤดูหนาว
ภาค | อุณหภูมิต่ำที่สุด | วันที่ | เดือน | พ.ศ. | จังหวัด | เหนือ | 0.8 | 27 | ธ.ค. | 2542 | ตาก ( อ.อุ้มผาง ) | ตะวันออกเฉียงเหนือ | -1.4 | 2 | ม.ค. | 2517 | สกลนคร (สกษ.สกลนคร) | กลาง | 5.2 | 27 | ม.ค. | 2536 | กาญจนบุรี (อ.ทองผาภูมิ) | ตะวันออก | 7.6 | 16 | ม.ค. | 2506 | สระแก้ว (อ.อรัญประเทศ) | ใต้ | | | | | | - ฝั่งตะวันออก | 6.4 | 26 | ธ.ค. | 2542 | ประจวบคีรีขันธ์(สกษ.หนองพลับ อ.หัวหิน) | - ฝั่งตะวันตก | 13.7 | 21 | ม.ค. | 2499 | ระนอง | หมายเหตุ 1.สกษ. หมายถึง สถานีอากาศเกษตร 2. ข้อมูลในคาบ 55 ปี (พ.ศ.2494 - 2551 | |
ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1189