การใช้สารเคมีของเกษตรกรใช้กับพืชผลทางการเกษตรมีปริมาณมากขึ้นทุกวัน และตกค้างในผลผลิตทางการเกษตรในปริมาณมาณมาก มีผลโดยตรงกับสุขภาพผู้บริโภคเป็นอย่างยิ่ง ถึงเวลาหรือยังที่เราจะหันมาใช้ เกษตรอินทรีย์
ทำไมต้องเกษตรอินทรีย์ (ตอนที่ 1)
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ คอลัมน์ข่าวเกษตรทั่วไป ได้กล่าวถึงสารพิษไซเปอร์เมทริน ที่ตกค้างในพืชผักทางการเกษตร ซึ่งมีการค้นพบเมื่อปี 2546 และมีปริมาณมากขึ้นเป็นลำดับ ปีล่าสุด 2551 พบสารไซเปอร์เมทรินมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของผักและผลไม้ที่ส่งออก สารพิษนี้เป็นอันตรายมากต่อแมลงและมนุษย์ กลุ่มสหภาพยุโรปและประเทศญี่ปุ่นได้กำหนดค่าความปลอดภัย (MRL) ไว้ต่ำมาก คือ 0.03 ppm. แต่ในไทยกลับพบสารนี้ตกค้างในพืชผักสูงถึง 9 ppm.
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่คนเราควรจะหันมาบริโภคพืชผักและทำการผลิตสินค้าเกษตรที่ปลอดสารพิษ โดยเฉพาะผู้ผลิตสินค้าทางการเกษตรหรือเกษตรกรซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบกับอันตรายที่เกิดจากสารพิษตกค้างมากที่สุด ทั้งโดยการฉีดพ่นสารเคมี การบริโภคพืชผักที่ตนเองผลิต เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม “เกษตรอินทรีย์” จึงเป็นอีกหนทางหนึ่งที่เรา ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคไม่ควรมองข้าม
ภาพจาก ครบเครื่องเรื่องเกษตร
เนื้อหาสำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือช่วงชั้นที่ 4
เกษตรอินทรีย์คืออะไร?
เกษตรอินทรีย์ คือการทำการเกษตรด้วยหลักธรรมชาติ บนพื้นที่การเกษตรที่ไม่มีสารพิษตกค้างและหลีกเลี่ยงจากการปนเปื้อนของสารเคมีทางดิน ทางน้ำ และทางอากาศเพื่อส่งเสริมความอุดสมสมบูรณ์ของดิน ความหลากหลายทางชีวภาพ ในระบบนิเวศน์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้กลับคืนสู่สมดุลธรรมชาติโดยไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์หรือสิ่งที่ได้มาจากการตัดต่อพันธุกรรม ใช้ปัจจัยการผลิตที่มีแผนการจัดการอย่างเป็นระบบในการผลิตภายใต้มาตรฐานการผลิตเกษตรอินทรีย์ให้ได้ผผลิตสูงอุดมด้วยคุณค่าทางอาหารและปลอดสารพิษโดยมีต้นทุนการผลิตต่ำเพื่อคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจพอเพียง แก่มวลมนุษยชาติ และสรรพชีวิต
ทำไมต้องเกษตรอินทรีย์?
การใช้ทรัพยากรดินโดยไม่คำนึงถึงผลเสียของ ปุ๋ยเคมีสังเคราะห์ ก่อให้เกิดความไม่สมดุลในแร่ธาตุและกายภาพของดินทำให้สิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ในดินนั้นสูญหาย และไร้สมรรถภาพความไมาสมดุลนี้เป็นอันตรายยิ่งกระบวนการนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ผืนดินที่ถูกผลาญไปนั้น ได้สูญเสียความสามารถในการดูดซับแร่ธาตุ ทำให้ผลผลิตมีแร่ธาตุ วิตามิน และพลังชีวิตต่ำเป็นผลให้เกิดการขาดแคลนธาตุอาหารรองในพืช พืชจะอ่อนแอ ขาดภูมิต้านทานโรคและทำให้การคุกคามของแมลง และเชื้อโรคเกิดขึ้นได้ง่ายซึ่งจะนำไปสู่การใช้สารเคมีฆ่าแมลงและเชื้อราเพิ่มขึ้น ดินที่เสื่อมคุณภาพนั้น จะเร่งการเจริญเติบโตของวัชพืชให้แข่งกับพืชเกษตร และนำไปสู่การใช้สารเคมีสังเคราะห์กำจัดวัชพืช ข้อบกพร่องเช่นนี้ก่อให้เกิดวิกฤติในห่วงโซ่อาหาร และระบบการเกษตรของเราซึ่งทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมอย่างยิ่ง ในโลกปัจจุบันประเทศไทยนำเข้าสารเคมีสังเคราะห์ทางการเกษตรเป็นเงินปีละ 4-5 หมื่นล้านบาท เกษตรกรต้องซื้อปัจจัยการผลิตที่เป็นสารเคมีสังเคราะห์ในการเพาะปลูกทำให้การลงทุนสูง และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่ราคาผลผลิตในรอบยี่สิบปี ไม่ได้สูงขึ้นตามสัดส่วนของต้นทุนที่สูงขึ้นนั้นมีผลทำให้เกษตรกรขาดทุน มีหนี้สินล้นพ้นตัวเกษตรอินทรีย์จะเป็นหนทางของการแก้ปัญหาเหล่านั้นได้
เป็นเกษตรอินทรีย์ได้อย่างไร?
การเกษตรปัจจุบัน สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเกษตรอินทรีย์ได้โดยเริ่มต้นศึกษาหาความรู้จากมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ที่ถูกกำหนดขึ้นควรเริ่มต้นด้วยความสนใจ และศรัทธาหลักทฤษฎีเพื่อการปฏิบัติ โดยศึกษาหาความรู้จากธรรมชาติเมื่อเริ่มปฏิบัติตามนี้แล้ว ก็นับได้ว่าก้าวเข้าสู่การทำเกษตรอินทรีย์ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเกษตรอินทรีย์ในระยะปรับเปลี่ยนเมื่อปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องตามาตรฐานเกษตรอินทรีย์ไม่นานก็จะเป็นเกษตรอินทรีย์ได้
มาตรฐานการผลิตพืชอินทรีย์ของประเทศไทย มีประเด็นหลักสำคัญ ดังนี้
- ที่ดินไม่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่ำกว่ามาตรฐานกำหนด
- พื้นที่ปลูกต้องไม่มีสารเคมีสังเคราะห์ตกค้าง
- ไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ในกระบวนการผลิต
- ไม่ใช้เมล็ดพันธุ์ที่คลุกสารเคมีสังเคราะห์
- ไม่ใช้สิ่งที่ได้จากการตัดต่อทางพันธุกรรม
- ไม่ใช้มูลสัตว์ที่เลี้ยงอย่างผิดมาตรฐาน
- ปัจจัยการผลิตจากภายนอกต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน
- กระบวนการผลิตต้องปราศจากสิ่งปนเปื้อนสารเคมีสังเคราะห์
- ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ และสิ่งแวดล้อม
- ต้องได้รับการรับรองมารฐานอย่างเป็นทางการ
หลักการผลิตพืชอินทรีย์
1. เลือกพื้นที่ที่ไม่เคยทำการเกษตรเคมีมาไม่น้อยกว่า 3 ปี
2. เป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างดอนและโล่งแจ้ง
3. อยู่ห่างจากโรงงานอุตสาหกรรม
4. อยู่ห่างจากแปลงที่ใช้สารเคมีและปุ๋ยเคมี
5. ห่างจากถนนหลวงหลัก
6. มีแหล่งน้ำที่ปลอดสารพิษ
ประเด็นคำถามเพื่อนำไปสู่การอภิปรายในห้องเรียน
1. นักเรียนคิดว่าสารพิษที่ตกค้างในพืชผลการเกษตรมีปริมาณมากพอที่จะเป็นอันตรายต่อคนเราหรือไม่ เพราะเหตุใด
2. นักเรียนคิดว่าเกษตรกรควรหันมาผลิตพืชผลทางการเกษตรแบบเกษตรอินทรีย์ได้หรือยัง เพราะเหตุใด
3. เกษตรอินทรีย์ จะแก้ปัญหาเรื่องความยากจนของเกษตรกรได้หรือไม่เพราะเหตุใด
กิจกรรมเสนอแนะ
ศึกษาวิธีการลงทุนทำการทำเกษตรในท้องถิ่น ว่าส่วนมากทำการเกษตรแบบใด มีต้นทุนการผลิตที่ต้องใช้จ่ายมากที่สุดเกี่ยวกับเรื่องใด และสุดท้ายมีกำไรจากการทำการเกษตรมากน้อยเพียงใด จัดทำเป็นรายงานกลุ่มนำส่งครูผู้สอน
การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ
สามารถบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับเรื่องการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช
ภาพจาก มูลนิธิข้าวขวัญ
แหล่งที่มาของข้อมูล
ศูนย์รวมข่าวสารการเกษตร
https://www.organic.moc.go.th/uploadfile/32/doc/agri.doc
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=218