ปุ๋ยตัวกลางตามสำมะโนครัวเรียก ปุ๋ยฟอสฟอริค มักเรียก ปุ๋ยฟอสเฟต เพราะรูปปุ๋ยในท้องตลาดมักเป็นฟอสเฟต ไม่เรียกปุ๋ยฟอสฟอรัสเพราะแท็คติกทางการค้าพ่อค้าไม่ขายเดี่ยว ๆ แต่พ่วงออกซิเจนมาเพียบคงเพื่อเอาไว้ให้อ็อกซิเย่นแก่เกษตรกรไม่ให้ลูกค้าตายง่าย ๆ
มุมเกษตร...................................................................................................................ดินเหนียว
ปุ๋ยตัวกลางกับทางเลือก
ปุ๋ยตัวกลางตามสำมะโนครัวเรียก ปุ๋ยฟอสฟอริค มักเรียก ปุ๋ยฟอสเฟต เพราะรูปปุ๋ยในท้องตลาดมักเป็นฟอสเฟต ไม่เรียกปุ๋ยฟอสฟอรัสเพราะแท็คติกทางการค้าพ่อค้าไม่ขายเดี่ยว ๆ แต่พ่วงออกซิเจนมาเพียบคงเพื่อเอาไว้ให้อ็อกซิเย่นแก่เกษตรกรไม่ให้ลูกค้าตายง่าย ๆ เหมือนเราซื้อข้าวโพดเขาไม่ขายแต่ฝักแต่ชั่งขายทั้งต้นทั้งฝักคิดเงินเราเสร็จสรรพ ธาตุฟอสฟอรัสพืชดูดใช้เพื่อ ให้ติดดอกง่าย สร้างอาณาจักรราก พืชผลเก็บเกี่ยวได้เร็วและสม่ำเสมอ กระตุ้นการแตกกอ สร้างสมดุลของธาตุอาหารในต้นพืช ฯลฯ แม่ปุ๋ยที่นิยมใช้ คือ 11-52-0 และ 18-46-0
ปุ๋ยตัวกลางจากแม่ปุ๋ยสองชนิดนี้ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีก็เสียของ เช่น สูญเสียเมื่อใช้ในดินด่าง หรือ ดินเปรี้ยว ซึ่งปุ๋ยตัวกลางจะถูกดินตรึงไว้เร็วจนพืชดูดใช้ไม่ทันอาจต้องใช้ตัวกลางจำพวกอื่นแทน ซึ่งพระเอกยอดนิยมในดินเปรี้ยวคือ หินฟอสเฟต ถ้าเปรี้ยวจัดต้องใส่บ่อยใช้พระเอกเปลือง ผลดีเห็นชัดถ้าใช้ร่วมกับปุ๋ยตัวหน้าตัวหลังเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้แม่ปุ๋ย 11-52-0 หรือ 16-48-0 ในดินปกติปุ๋ยสูตรต่าง ๆ ใช้ได้ดีแต่แพงหูฉี่ สมัยก่อนปุ๋ยตัวกลางแพงกว่าตัวหน้าและตัวหลังสุด ๆ สมัยนี้หลังผ่านทวิภาคีมัดมือเกษตรกรชก และ ภาวะน้ำมันดีด ปุ๋ยของเราก็ดัดจริตดีดราคาขึ้นลงไม่เป็น เกษตรกรตาดำ ๆ เลยถูกดีดหลายทาง ราคาปุ๋ยตัวหน้า-ตัวหลังแพงทิ้งโค้งแซงตัวกลางฉิว ปุ๋ยหินฟอสเฟตที่ถูก ๆ ก็พอมีอุ่นใจให้เลือกใช้แต่ถ้าปริมาณมากก็ต้องดูตาแรงงานหน่อยเพราะพ่อโขกไม่เลี้ยง ลูกละเหนาะ ๆ ๓๐ ถ้วน ถ้าเผลอก็เล่นลักไก่ใส่ปุ๋ยส่งเดช ดังนั้นก่อนจ้างต้องลำเลิกบุญคุณให้มากเข้าไว้ หรือ จะชักแม่น้ำทั้งห้าได้แก่ น้ำมูก น้ำตา น้ำลาย เป็นอาทิก็ได้ อย่าลืมกันงบค่าระวางขนส่งอีกล่ะ ถ้าแก้ค่าโสหุ้ยตกล่ะก็ขอเชียร์ เพราะ ปุ๋ยหินฟอสเฟตเป็นพวก “น้ำซึมบ่อทราย” ใส่ระยะหนึ่งนอนตีพุงได้หลายปีหยุดใส่อีกยาว
หินฟอสเฟต (0-3-0) เป็นแร่ธรรมชาติชื่อ “อพาไทด์” ในท้องตลาดส่วนใหญ่เป็นพวกแคลเซียมอพาไทด์ ส่วนน้อยเป็นพวกเหล็กอพาไทด์ แถวบ้านของผู้เขียนราคากระสอบ (๕๐ ก.ก.) ละ ๑๑๐ บาท เป็นปุ๋ยตัวกลางน่าใช้เพราะสิริรวมมีประมาณ ๒๐% แต่อยู่ในรูปที่พืชดูดใช้ได้ทันใจประมาณ ๓% ไม่มีชักเปอร์เซ็นต์ คุณสมบัติเป็นปูนเพราะแคลเซียมมาก และเป็นธาตุอาหารที่พืชต้องการ ควรใส่โดยวิธีหว่าน และ คราดกลบ ครั้งละ ๒๐๐-๕๐๐ ก.ก. ต่อไร่ เว้นช่วงใส่สะสมในระยะข้ามปีให้ได้สัก ๑ ตัน ขึ้นไป ดินเปรี้ยวใส่มากหน่อย หยุดใส่ได้อีกหลายปีเพราะใส่ตุนไว้เยอะ แหล่งปุ๋ยตัวกลางอื่นที่เป็นตัวเลือกได้แก่ กระดูกป่น และ มูลค้างคาว ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง มูลค้างคาวมีฟอสฟอรัสสะสมจากแมลงที่ค้างคาวชอบกิน แหล่งปุ๋ยตัวกลางที่ดีอีกตัวหนึ่ง คือ มูลนกนางแอ่นเพราะนกพวกนี้ชอบกินปลา แต่ผู้เขียนยังไม่เคยเห็นรายงานผลวิเคราะห์เป็นเอกสาร จึงไม่ขอยืนยัน ปุ๋ยแพงมาก ๆ ก็คงต้องหายาถ่ายให้พวกนกพวกนี้กินบ้างแล้ว จะได้ถ่ายเยอะ ๆ
ปุ๋ยหินฟอสเฟตเกิดปฏิกิริยาในดินได้สารละลายฟอสเฟตในดินซึ่งพืชดูดใช้ได้
อาการขาดธาตุฟอสฟอรัสของพืชตระกูลถั่วใบเป็นสีม่วงแดง กล้าพืชแคระแกร็น
กิจกรรมเสนอแนะ
ทำตามลำดับขั้นตอน
การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ
คณิศาสตร์ วิทยาศาสตร์
เขียนโดย
อาจารย์วิจัย ไชยยงค์
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=866