วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 เวลา 9 นาฬิกา 9 นาที


733 ผู้ชม


เป็นส่วนหนึ่งของวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 เวลา 9 นาฬิกา 9 นาที ด้วยการร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีมหาราชา   

วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 เวลา 9 นาฬิกา 9 นาที

วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 เวลา 9 นาฬิกา 9 นาที
ที่มาภาพ เด็กดี.คอม

       คณะประสานงานโครงการ 9 ในดวงใจ ขอความร่วมมือประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ได้แสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีมหาราชา ในวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 เวลา 9 นาฬิกา 9 นาที โดยพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ ให้ดังกระหึ่มไปทั่วเมือง ไม่ว่าพสกนิกรชาวไทย หรือชาวต่างชาติ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ทุกคนสามารถร้องเพลงที่ไหนก็ได้ จะร้องอยู่ที่บ้านก็ได้ (ที่มา นสพ.ไทยรัฐ)
         เพื่อเป็นการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อประบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ปวงชนชาวไทยได้แสดงถึงความรัก  สมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ  และมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประวัติศาสตร์วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 เวลา 9 นาฬิกา 9  นาที   การทำความดีเพื่อถวายในหลวง  การแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบิดา มารดา  ครู อาจารย์ ผู้มีพระคุณ 

เหมาะสำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 1 - ช่วงชั้นที่  4
สาระดนตรี มาตรฐาน ศ 2.2   เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของดนตรีที่ 
                                       เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล

                                                 
ประวัติเพลงสรรเสริญพระบารมี  
         เพลงสรรเสริญพระบารมี มีเค้าโครงว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้มีเพลงที่มีลักษณะคล้ายเพลงสรรเสริญพระบารมีอยู่ก่อนแล้ว ใช้บรรเลงในเวลาพระมหากษัตริย์เสด็จลงท้องพระโรงและเสด็จขึ้น แต่เพลงสรรเสริญพระบารมีในฐานะเพลงชาตินั้น เริ่มปรากฏในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยมีการใช้เพลง God Save the King ซึ่งเป็นเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงชาติของอังกฤษ บรรเลงเป็นเพลงถวายความเคารพแด่องค์พระมหากษัตริย์ ตามแบบอย่างการฝึกทหารของอังกฤษ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ได้ใช้ทำนองเพลงนี้แต่งคำร้องสรรเสริญพระบารมีถวายโดยให้ชื่อว่า "เพลงจอมราชจงเจริญ"จนกระทั่งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้เสด็จประพาสเมืองสิงคโปร์และเกาะชวาในปี พ.ศ. 2414 ขณะที่ทรงประทับอยู่ที่สิงคโปร์นั้น ทหารอังกฤษได้ใช้เพลง God Save the King บรรเลงเป็นเพลงเกียรติยศรับเสด็จ ปัญหาจึงเกิดขึ้นว่าทั้งอังกฤษและไทยต่างใช้เพลงสรรเสริญพระบารมีเพลงเดียวกัน ต่อมาเมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปยังเมืองปัตตาเวีย ชาวฮอลันดาที่ตั้งอาณานิคมที่นั้น ได้ถามถึงเพลงประจำชาติของไทย เพื่อจะได้นำไปบรรเลงรับเสด็จ พระองค์จึงมีพระราชดำริแก่ครูดนตรีไทย ให้แต่งเพลงแตรวงรับเสด็จเพื่อใช้แทนเพลง God Save the King
       คณะครูดนตรีไทยจึงได้เสนอเพลงบุหลันลอยเลื่อน (หรือเพลงทรงพระสุบิน) ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ใช้เป็นเพลงสรรเสริญพระบารมี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายเฮวุดเซน (Heutsen) ครูดนตรีในกรมทหารมหาดเล็กชาวฮอลันดา เรียบเรียงทำนองขึ้นใหม่ให้เป็นทางดนตรีตะวันตก และได้ใช้เป็นเพลงสรรเสริญพระบารมีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2414 จนถึง พ.ศ. 2431  ดร. สุกรี เจริญสุข ได้สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเพลงเดียวกันกับเพลงสรรเสริญเสือป่า ซึ่งใช้เป็นเพลงเกียรติยศของเสือป่าในสมัยรัชกาลที่ 6
        ต่อมาจึงมีการเปลี่ยนมาใช้เพลงสรรเสริญพระบารมีฉบับที่เป็นผลงานของ ปโยตร์ ชูรอฟสกี้ (Pyotr Schurovsky) นักประพันธ์ชาวรัสเซีย เมื่อ พ.ศ. 2431 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงนิพนธ์เนื้อร้องประกอบและได้ออกบรรเลงครั้งแรกที่ศาลายุทธนาธิการในปีเดียวกัน  ต่อมาทรงนิพนธ์เนื้อร้องของเพลงนี้อีกหลายเนื้อร้องเพื่อขับร้องในกลุ่มต่าง ๆ กัน เช่น ทหาร นักเรียนชาย นักเรียนหญิง เป็นต้น แต่มีเนื้อร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีอีกสำนวนหนึ่งที่เป็นพระนิพนธ์ในพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ สำนวนนี้เป็นสำนวนสำหรับทหารเรือขับร้องโดยเฉพาะ  เนื้อร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีฉบับปัจจุบันนั้น เดิมทีเป็นเนื้อร้องที่พระองค์ได้นิพนธ์ขึ้นเพื่อใช้ในพระราชพิธีลงสรงของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ต่อมาเมื่อถึงรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำเพลงสรรเสริญพระบารมี มาพระราชนิพนธ์คำร้องขึ้นใหม่ โดยทรงรักษาคำร้องเดิมเอาไว้เกือบทุกอย่าง ยกเว้นแต่ทรงเปลี่ยนคำร้องในท่อนสุดท้ายว่า ฉะนี้ ให้เป็น ชโย และประกาศใช้ ในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2456 และใช้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เพลงสรรเสริญพระบารมีไม่ได้ใช้ในฐานะเพลงชาติอีกต่อไป แต่ยังคงใช้ในฐานะของเพลงถวายความเคารพแด่องค์พระมหากษัตริย์ มีอยู่ช่วงหนึ่งมีการตัดทอนเพลงนี้ให้สั้นลง แต่ได้ยกเลิกการใช้แล้ว


ฟังเพลงสรรเสริญพระบารมี

                                                      เนื้อร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
                                                         

      ข้าวรพุทธเจ้า  เอามโนและศิระกราน 
นบพระภูมิบาล  บุญดิเรก 
เอกบรมจักริน  พระสยามินทร์ 
พระยศยิ่งยง  เย็นศิระเพราะพระบริบาล 
ผลพระคุณ ธ รักษา  ปวงประชาเป็นสุขศานต์ 
ขอบันดาล  ธ ประสงค์ใด 
จงสฤษดิ์ดัง  หวังวรหฤทัย 
ดุจถวายชัย  ชโย 
วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 เวลา 9 นาฬิกา 9 นาที
ที่มาภาพ วีกิพิเดีย

วาระและโอกาสที่ใช้
เพลงสรรเสริญพระบารมี ใช้บรรเลงในโอกาสดังต่อไปนี้ 
       1. พิธีที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ/หรือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน ต้องบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทั้งรับและส่งเสด็จฯ 
       2ง พิธีที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ/หรือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมกับประมุขต่างประเทศ ให้บรรเลงเพลงชาติของประมุขต่างประเทศก่อน แล้วจึง บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี รับเสด็จฯ เมื่อประมุขต่างประเทศเสด็จฯ กลับ หรือไปตามลำพัง ให้บรรเลงเพลงชาติของประเทศนั้น เพื่อส่งเสด็จฯ 
       3. พิธีที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เสด็จพระราชดำเนิน ให้บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทั้งรับและส่งเสด็จฯ 
       4.พิธีที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร และ/หรือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เสด็จพระราชดำเนินให้บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทั้งรับและส่งเสด็จฯ 
       5. พิธีที่ผู้แทนพระองค์ ปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในงานเสด็จพระราชดำเนินต่างๆ 
           5.1 ถ้าผู้แทนพระองค์ คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี หรือพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จพระราชดำเนินให้บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทั้งรับและส่งเสด็จฯ 
           5.2ถ้าผู้แทนพระองค์เป็นบุคคลอื่น เมื่อผู้แทนพระองค์มาถึง ไม่ต้องบรรเลงเพลงใด ๆ และเมื่อผู้แทนพระองค์นั่งเรียบร้อยแล้ว ให้บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นการเปิดงานและปิดงาน เมื่อผู้แทนพระองค์กลับไม่ต้องบรรเลงเพลงใด ๆ 
       6. การใช้ในช่วงเวลาเปิดการแสดงหรือฉายภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์  และการแสดงบันเทิงที่ส่วนใหญ่แสดงในโรงภาพยนตร์ จะใช้ในพิธีเปิดเท่านั้น 
        7. ใช้ในช่วงเริ่มต้นและยุติยกเลิกการกระจายเสียงหรือการแพร่ภาพออกอากาศ ของสถานีวิทยุกระจายเสียง และสถานีวิทยุโทรทัศน์ ที่มีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งจะไม่ทุกสถานี หรือหากมีก็จะมีการฉายทั้งสถานีฟรีวิทยุ สถานีฟรีโทรทัศน์ สื่อแห่งชาติ สาธารณะ และสื่อการศึกษา ซึ่งอาจจะมีบางสถานี ที่จะมีการฉายหรือออกเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีดังกล่าว ในช่วงเปลี่ยนแปลงวันและเวลาการออกอากาศจากเดิมไปสู่ใหม่ 
      
สานต่อก่อปัญญา
       
 1.การถวายความเคารพแด่องค์พระมหากษัตริย์ ในครั้งแรกใช้เพลงใดบรรเลง
        2. เพลงใดที่ใช้ทำนองเพลง God Save the King และมีการแต่งคำร้องสรรเสริญพระบารมีขึ้นใหม่ 
       3. เพลงสรรเสริญพระบารมีที่ใช้ในปัจจุบัน  ประกาศใช้ครั้งแรกเมื่อใด 

บูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้
        กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

 กิจกรรมเสนอแนะ
        ควรฝึกปฏิบัติการขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีให้ถูกต้องตามจังหวะ  เนื้อร้อง และทำนองเพลง

แหล่งที่มาข้อมูล
    
     วีกิพิเดีย

 
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1585

อัพเดทล่าสุด