เมื่อฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนหมดไปครึ่งหนึ่ง ความกำหนัดในหญิงวัยทองหลายๆคนก็จะลดลงไปด้วย เกิดความเฉื่อยชาทางเพศ ประกอบกับในหญิงวัยทองบางคน
เนื้อหาสำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา)
สอนระดับชั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การดูแลและส่งเสริมสุขภาพของผู้ใหญ่วัยทองและผู้สูงอายุ
สาระที่ 2 ชีวิตและครอบครัว
มฐ.พ. 2.1 เข้าใจและเน้นคุณค่าของตนเองครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการดำเนินชีวิต
การพัฒนาทางเพศของเด็กวัยรุ่นเริ่มต้นเมื่อรังไข่และอัณฑะเริ่มผลิตฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนเพศหญิง "เอสโตรเจน" จากรังไข่จะทำให้เด็กผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงของสรีระจากเด็กหญิงเป็นหญิงสาว มีการเจริญเติบโตของเต้านม สะโพกขยายไหล่แคบ ผมสลวย ผิวงาม เสียงเพราะ มีขนขึ้นแบบของสตรี มีการพัฒนาของอวัยวะเพศหญิง ในขณะที่ ฮอร์โมนเพศชาย "เทสโทสเตอโรน"จากอัณฑะจะจำแลงเด็กชายให้เป็นชายหนุ่ม มีกล้ามเนื้อแข็งแรง ไหล่กว้าง ก้นปอด เสียงห้าว มีหนวดเคราและขนขึ้นแบบผู้ชาย หน้าผากเถิก และมีการพัฒนาของอวัยวะเพศชาย ทั้งสองเพศเริ่มมีความสนใจซึ่งกันและกัน เริ่มมีกำหนัดหรือความต้องการทางเพศอันเป็นผลของเทสโทสเตอโรน หรือ"ฮอร์โมนแห่งกำหนัด" ในผู้หญิงนั้นประมาณครึ่งหนึ่งของเทสโทสเตอโรนผลิตมาจากรังไข่ และอีกครึ่งหนึ่งมาจากต่อมหมวกไต รังไข่และอัณฑะจะเริ่มทำงานเมื่ออายุประมาณ 9-12 ปี และผลิตฮอร์โมนเต็มที่เมื่อ หญิงชายอายุระหว่าง 20-25 ปี ในผู้หญิงนั้นหลังจากอายุประมาณ 40-45 ปี การทำงานของรังไข่ก็เริ่มลดประสิทธิภาพลง และเมื่ออายุประมาณ 50 ปี ในผู้หญิงส่วนมากรังไข่ซึ่งเปรียบเสมือนโรงงานผลิตฮอร์โมนเพศหญิงและเทสโทสเตอโรนก็จะปิดสนิท เป็นการเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนหรือวัยทอง ฮอร์โมนเพศหญิงก็จะหมดไป ส่วนฮอร์โมนแห่งความกำหนัดหรือเทสโทสเตอโรนก็จะลดลงทันทีอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง
เมื่อฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนหมดไปครึ่งหนึ่ง ความกำหนัดในหญิงวัยทองหลายๆคนก็จะลดลงไปด้วย เกิดความเฉื่อยชาทางเพศ ประกอบกับในหญิงวัยทองบางคนอาจมีอาการอื่นของการหมดประจำเดือนผสมเข้ามาอีก เช่น อาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออก นอนไม่หลับตลอดจนอาการทงประสาท เช่น ความเครียด ความหงุดหงิด วิตกกังวล เศร้าซึม ขาดความมั่นใจ อาจมีภาระการงานมากขึ้นด้วย ก็จะยิ่งทับถมปั่นทอนความรู้สึกทางเพศลงไปอีก
เยื่อบุช่องคลอดซึ่งปกติเป็นเซลส์แผ่นกลมๆบางๆ เหมือนข้าวเกรียบปากหม้อซ้อนกันอยู่ 50-60 ชั้น มีการสร้างน้ำหล่อลื่นซึ่งหลั่งออกมาเมื่อเกิดอารมณ์เพศ ทำให้มีเพศสัมพันธ์ได้อย่างมีความสุข แต่เมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนหมดไป เยื่อบุช่องคลอดก็จะบางลงเหลือเซลล์อยู่เพียงไม่กี่ชั้น การสร้างน้ำหล่อลื่นก็จะงวดหมดไป ทำให้ช่องคลอดอักเสบ แห้ง เวลามีเพศสัมพันธ์จะเจ็บปวด จะยิ่งทำให้มีความเฉื่อยชาทางเพศมากขึ้นไปอีกหลายเท่าทวีคูณ
แหล่งที่มา: waithong.com
ข่าวสารจากแพทย์
เขียนโดย ศ.นพ.นิกร ดุสิตสิน
ศูนย์วิจัยและพัฒนาเพศศาสตรศึกษา
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ประเด็นคำถาม
1. อะไรที่บ่งบอกได้ว่าเป็น สตรีวัยทอง
2. วัยทองเกิดขึ้นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงอายุกี่ปีขึ้นไป
3. ปัญหาสุขภาพทางเพศของสตรีวัยทองมาจากสาเหตุใด
4. เมื่อย่างเข้าสู่วัยทอง ควรปฏิบัติตนอย่างไร ไม่ให้ครอบครัวเกิดปัญหา
กิจกรรมเสนอแนะ
1. แนะนำกิจกรรมนันทนาการคลายเครียดให้นักเรียนลองไปปฏิบัติกับผู้ปกครอง
2. ให้นักเรียนไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมทางอินเตอร์เน็ต
3. จัดนิทรรศการ หรือ เชิญเจ้าหน้าที่กองสุขภาพมาให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาและสาเหตุ
รวมทั้งการปฏิบัติตนเมื่อย่างเข้าสู่วัยทอง
การบูรณาการกับกลุ่มสาระอื่นๆ
1. ภาษาไทย อ่านออกเสียง คัดไทย สรุปบทความ การวิเคราะห์บทความในข่าว
2. สังคมศึกษา และวัฒนธรรม บทบาทของเยาวชนที่มีต่อผู้สูงอายุ
3. ศิลปะ วาดภาพผู้สูงอายุ ตามจินตนาการของนักเรียน
4. วิทยาศาสตร์ ความสำคัญของเซลล์และสิ่งมีชีวิต
5. สุขศึกษาและพลศึกษา(พลศึกษา) การจัดกิจกรรมการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=2334