โอกาสในการอ่าน ที่พลาดไม่ได้
บทนำ ชิงส.ส.เขตคึกคัก เทือกโต้ ไม่สนฟ้องยุบปชป.
แหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/today ฉบับวันที่ 25 พฤษภาคม 2554
ประเด็นข่าว จากหัวข้อประเด็น จะเห็นว่าเป็นข่าวการเมืองที่ประชาชนกำลังให้ความสนใจ
ทำให้ต้องหาวิธีติดตามข่าวอยู่เสมอและวิธีที่คนทั่วไปเลือกใช้กันอยู่เสมอคือการอ่าน
การอ่านมี 2 ลักษณะ คืออ่านออกเสียง และการอ่านในใจ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
มาตรฐานการเรียนรู้ที่ ท. 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้ และความคิด เพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ
แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน
เนื้อเรื่อง โอกาสในการอ่าน ที่พลาดไม่ได้
การอ่านหนังสือเป็นสิ่งสิ่งจำเป็นสำหรับคนทั่วไป ในการแสวงหาความรู้ โดยเฉพาะเด็ก
ในวัยศึกษาเล่าเรียน แต่การอ่าน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สำคัญกับบุคคลอีกหลายวัย หลายอาชีพ
แต่จะมีความสำคัญต่อทุกคนที่มีความอยากรู้ อยากเห็น เรียกได้ว่าอยากเรียนรู้เรื่องต่างๆ ในสิ่งที่เราเอง
ไม่เคยรู้ หรือเป็นสิ่งที่รู้มาบ้างแล้วและอยากศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่สามารถทำได้ง่าย
คือการอ่านโดยเฉพาะการอ่านในใจ ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากการอ่านประเภทนี้ส่วนมากจะเป็นในสถานที่ชุมชน
ที่ต้องมีมารยาท มีกฏกติกา เพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์ สถานที่ ที่ใช้ในการแสวงหาความรู้
และเนื่องจากการอ่านในใจ เป็นบทบาทเฉพาะตัวของบุคคลที่มีจุดมุ่งหมายจะจับใจความอย่างรวดเร็ว
คือ รู้เรื่องเร็วและถูกต้องโดยไม่ใช้อวัยวะที่ช่วยในการออกเสียงเคลื่อนไหวเลยการอ่านในใจจะช่วยให้เข้าใจ
เนื้อความได้เร็วกว่าการอ่านออกเสียงและผู้อ่านจะรับรู้เรื่องราวเเต่เพียงผู้เดียว การอ่านในใจมีวิธีดังต่อไปนี้
๑. การอ่านอย่างละเอียด เป็นการอ่านเพื่อศึกษาหาความรู้ ผู้อ่านจะต้องมีพื้นฐานความรู้ในเรื่องที่อ่าน
พอสมควรควรอ่านรายละเอียดของเรื่องตั้งเเต่ต้นจนจบ จะทำให้มองเห็นการเชื่อมโยงระหว่าง
ใจความสำคัญได้
๒. ผู้อ่านต้องมีจุดมุ่งหมายในการอ่าน และต้องมีพื้นฐานความรู้ในเรื่องที่จะอ่าน ในการอ่านผู้อ่านจะต้อง
จับใจความส่วนรวมให้ได้ว่าเป็นเรื่องอะไร เมื่ออ่านจบควรเรียบเรียงใจความสำคัญเป็นภาษาของตนเอง
๓. อ่านอย่างรวดเร็ว เป็นการอ่านที่ไม่ต้องเก็บรายละเอียด แต่อ่านเพื่อให้ทราบเรื่องราวเท่านั้น นิยมใช้
อ่านหนังสือประเภทบันเทิงคดีเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ เช่น อ่านนวนิยาย เรื่องสั้น นิตยสาร หนังสือพิมพ์
๔. อ่านอย่างคร่าวๆ เป็นการอ่านอย่างรวดเร็ว เพื่อต้องการค้นหาคำตอบจากข้อความบางตอน การอ่านวิธีนี้
เหมาะสำหรับผู้ที่มีพิ้นฐานการอ่านที่ดีพอ
๕. อ่านเพื่อวิจารณ์ ผู้อ่านต้องใช้ประสบการณ์เดิมของตนให้เป็นประโยชน์ เพื่อทำความเข้าใจจุดมุ่งหมาย
ของผู้เขียนการเสนอข้อเท็จจริง และข้อคิดเห็น หรือการใช้ความหมายตรง และโดยนัย
แนวปฏิบัติในการอ่านในใจ
การอ่านในใจต้องอาศัยความเเม่นยำในการจับตามองดูตัวหนังสือ การเคลื่อนไหวสายตา การเเบ่งช่วงวรรคตอน
ซึ่งต้องฝึกให้เกิดความเเม่นยำและรวดเร็วจึงจะสามารถเก็บได้ครบทุกคำการอ่านในใจมีเเนวปฏิบัติ ดังนี้
๑. กวาดสายตามองตัวอักษณให้ได้ช่วงประมาณ ๕-๖ คำ เป็นอย่างน้อย
๒. ไม่ควรทำปากขมุบขมิบในขณะอ่าน ต้องฝึกเรื่องอัตราความเร็วของตาและสมอง
๓. ไม่ควรอ่านย้อนหลังจากอ่านจบ อ่านจากซ้ายไปขวาโดยตลอด
๔. ทดสอบความเข้าใจหลังจากอ่านจบ โดยใช้วิธีตั้งคำถามสรุปเรื่องราวที่อ่าน
ประเด็นคำถาม
1. จงอธิบายถึงความสำคัญของการอ่าน
2. การอ่านในใจมีจุดมุ่งหมายอย่างไร
การบูรณาการ
บูรณาการกับสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาเรื่องการอ่านข่าว
แหล่งอ้างอิง : https://www.thairath.co.th/today ฉบับวันที่ 25 พฤษภาคม 2554
: https://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=2605
: https://www.kroobannok.com/blog/35092
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=3998