ท่ามกลางภาวะการแข่งขันสูงในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวตลอดเวลา การดำเนินธุรกิจอย่างมีกลยุทธ์ แผนงาน กิจกรรมที่ชัดเจน สอดคล้องกับแนวโน้มสภาพความเป็นจริงของตลาด และสามารถแข่งขันได้ในวงการธุรกิจโดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ทางด้านเศรษฐกิจและสังคมเป็นองค์ประกอบสำคัญย่อมเป็นการสร้างโอกาสให้สามารถดำเนินธุรกิจในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล การดำเนินการทางธุรกิจที่ทำให้สินค้าและบริการผ่านจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภค หรือผู้ใช้โดยผ่านกิจกรรมต่างๆ ทางด้านการตลาด การวิจัยด้านการตลาดจะสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นและความต้องการของกิจการที่จะต้องมีการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีหลักเกณฑ์ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่มีการแข่งขันที่มีความรุนแรงมากขึ้น นอกจากนั้นการวิจัยการตลาดยังช่วยให้ได้ข้อมูลและข่าวสารที่มีประโยชน์ต่อการตัดสินใจ เช่น การวิจัยตลาดเพื่อประเมินการยอมรับของผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด การประเมินทำเลที่ตั้งใหม่ของร้านค้า การประเมินประสิทธิผลของการโฆษณาทางโทรทัศน์หรือสื่อประชาสัมพันธ์ที่มีต่อผลิตภัณฑ์
การวิจัยธุรกิจเป็นกระบวนการที่นำแนวคิดเชิงวิทยาศาสตร์ มาใช้รวมกับแนวคิดทางการตลาดและการบริหาร โดยดำเนินการอย่างมีระเบียบและกฎเกณฑ์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล การดำเนินงานกับข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อใช้ในการตัดสินใจ ซึ่งการวิจัยทางธุรกิจจะมีประโยชน์อย่างมากในการใช้แก้ปัญหา และเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพและสามารถลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจได้ ปัจจุบันองค์กรธุรกิจต่างๆ ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง รวมไปจนถึงขนาดเล็ก ต่างก็พยายามดำเนินการวิจัยเชิงธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการขององค์กรให้ดีขึ้นและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุดตามผลการวิจัยที่ค้นพบ
การวิจัยธุรกิจในปัจจุบันที่องค์กรต่างๆ พยายามจัดทำขึ้นเพื่อศึกษาข้อมูลของกลุ่มผู้บริโภคสามารถจัดประเภทโดยถือเกณฑ์เทคนิคหรือหน้าที่ การศึกษาโดยการทดลอง การสำรวจ หรือการสังเกต การจัดประเภทการวิจัยตามจุดมุ่งหมาย หรือหน้าที่แสดงลักษณะของปัญหาของธุรกิจซึ่งมีอิทธิพลต่อทางเลือกของวิธีการต่างๆ (มหาวิทยาลัยเกริก, 2550)
การวิจัยด้วยการทดลองให้กลุ่มตัวอย่างรับสื่อประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาเป็นการวิจัยรูปแบบหนึ่งที่นักวิจัยการตลาดนิยมนำมาใช้ในการกระบวนการวิจัยบ่อยครั้ง แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่พบว่าการรับสื่อประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาสามารถสร้างความจดจำได้ แต่มักจะเป็นการจดจำได้ในคุณลักษณะภายนอกของตัวผลิตภัณฑ์มากกว่าคุณสมบัติภายหรือคุณค่าของผลิตภัณฑ์นั้นอย่างแท้จริง และถึงแม้ว่าจะแสดงถึงการจดจำได้แล้วนั้นก็ยังไม่อาจบ่งชี้ว่าผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวหรือไม่ในอนาคต นอกจากนี้การดำเนินการวิจัยเชิงทดลองนั้นหากตัวแปรที่นำมาใช้ศึกษามีความคล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกันย่อมให้ผลการศึกษาที่ไม่แตกต่างกันมากนัก โดยเฉพาะหากนำมาเปรียบเทียบถึงประสิทธิภาพในการสื่อสารด้วยแล้วนั้นจำเป็นต้องมีการควบคุมปัจจัยภายนอกต่างๆ ให้ครอบคลุมเพื่อให้การศึกษาและผลที่ได้รับสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของงานวิจัยที่วางไว้แต่ต้น โดยอาจจำเป็นต้องควบคุมตัวแปรอื่นๆ ที่จะมีผลต่อต่องานวิจัยครั้งนี้ อาทิ กลุ่มอายุ เพศ อาชีพ ระดับการศึกษา เป็นต้นเพื่อพิจารณาว่าตัวแปรอื่นเข้ามามีอิทธิพลต่อตัวแปรตามหรือไม่อย่างไร อีกทั้งจะเป็นประโยชน์ต่อแนวทางการวางแผนการตลาดของผลิตภัณฑ์ต่อไปในอนาคตได้ (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2551)
ผลจากการค้นคว้าและวิจัยในอดีตสะท้อนว่าผู้ที่ได้รับข้อมูลการประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาอย่างระเอียดจะได้มีความรู้ ความรู้สึก และสามารถสังเคราะห์ รวมไปถึงรู้สึกใกล้ชิดกับผลิตภัณฑ์มากกว่าการได้มองเห็นหรือ ได้รับข่าวสารเพียงสั้นๆ ดังนั้นการทำการสื่อสารการตลาดหรือประชาสัมพันธ์จึงควรมีข้อความกล่าวถึงคุณสมบัติของสินค้าที่บ่งบอกเอกลักษณ์และความเป็นตัวตนของผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำและเข้าใจ รวมไปถึงการเกิดความต้องการที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาทดลองใช้ หรืออาจสรุปได้ว่าเพียงรูปลักษณ์ของสินค้าที่มองเห็นในหนังสือ หรือกระดาษโฆษณาอาจยังไม่สื่อถึงความเป็นตัวตนของตัวสินค้า หากแต่ตัวหนังสือประกอบหรือคำอธิบายคุณลักษณะของสินค้าจะช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจเกี่ยวผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น อันจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภคในการพิจารณาเปรียบเทียบความรู้สึกและความต้องการของตนต่อตัวผลิตภัณฑ์นั้นว่ามีความใกล้ชิดหรือน่าสนใจในการจะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมากน้อยเพียงใด การมีเพียงข้อความอธิบายหรือบทบรรณาธิการเพียงอย่างเดียว หรือมีเพียงรูปภาพของสินค้าเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถสื่อสารถึงผู้บริโภคได้ครบถ้วน หากแต่เมื่อนำวิธีการทั้ง 2 แบบมาใช้ร่วมกันน่าจะส่งผลดีต่อเจ้าของผลิตภัณฑ์มากที่สุด อีกทั้งในส่วนของผู้บริโภคก็สามารถรับรู้คุณสมบัติและรูปแบบของผลิตภัณฑ์ไปพร้อมๆ กันซึ่งจะง่ายต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ง่ายขึ้นเมื่อพิจารณาจากการสื่อสารทั้ง 2 รูปแบบ