ชื่อวิทยาศาสตร์ | Boesenbergia rotunda (Linn.) Mansf., |
ชื่อวงศ์ | Zingiberaceae |
ชื่ออังกฤษ | - |
ชื่อท้องถิ่น | กะแอน, ขิงทราย, จี๊ปู, ซีฟู, เป๊าะซอเร้าะ, เป๊าะสี่, ระแอน, ว่านพระอาทิตย์ |
1. ฤทธิ์ขับลม
กระชายมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีฤทธิ์ขับลม (1)
2. ฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้
กระชายสามารถลดการบีบตัวของลำไส้หนูตะเภา (2, 3) และหนูขาว (4-7) โดยกระชายมีสาร cineole มีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ (8, 9) ซึ่งเป็นสาเหตุการปวดเกร็งได้
3. ฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุอาการแน่นจุกเสียด
กระชายสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli (10-13) ซึ่งเป็นสาเหตุของการแน่นจุกเสียด โดยกระชายมีสาร pinostrobin และ panduratin A มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ได้ (10)
4. ฤทธิ์ลดการอักเสบ
กระชายสามารถลดการอักเสบ (14-17) โดยกระชายมีสาร 5, 7-dimethoxyflavone มีฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์ postaglandin (15) และ pinostrobin มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ cyclooxygenase-2 (17) ซึ่งเป็นสาเหตุของการอักเสบได้
5. หลักฐานความเป็นพิษและการทดสอบความเป็นพิษ
5.1 การศึกษาความเป็นพิษ
จาก hippocratic screening เมื่อใช้ 5, 7-dimethoxyflavone จากกระชายในขนาด 3 ก./กก. (10 เท่าของขนาดรักษาการอักเสบ) พบพิษต่ำมาก และไม่พบการตายในหนูถีบจักร โดยทำการสังเกตใน 7 วัน แต่จะลดการหายใจ และอุณหภูมิร่างกาย เนื่องจากการกดประสาทส่วนกลาง (14)
5.2 พิษต่อเซลล์
สารสกัดเมทานอลของกระชายความเข้มข้น 20 มคก./มล. เป็นพิษต่อเซลล์ Raji (18)
5.3 ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์
สารสกัดรากกระชายกับน้ำร้อนและน้ำในขนาด 0.5 ซี.ซี./แผ่น ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ต่อ B. Subtilis ทั้ง 2 สายพันธุ์ H-17 (Rec+) และ M-45 (Rec-) รวมทั้งเมื่อใช้น้ำคั้นจากรากสดก็ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ (19) แต่จะเสริมฤทธิ์ของสารa-amino-3, 8-dimethylimindazo (4, 5-¦) quinoxaline ในการก่อมะเร็งในตับ (20) นอกจากนี้สาร pinocembrin chalone, pinocembrin, cardamonin และ pinostrobin จากกระชายมีฤทธิ์ต้านการก่อกลายพันธุ์ (21)
การใช้กระชายรักษาอาการแน่นจุกเสียด
นำเหง้าแห้งประมาณครึ่งกำมือต้มเอาน้ำดื่ม (22)