ภูเก็ต หรือที่เคยรู้จักแต่โบราณในนาม เมืองถลาง เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ของประเทศไทย ลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างจากจังหวัดอื่นโดยสิ้นเชิง คือเป็นเกาะซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภูเก็ต มีจังหวัดที่ใกล้เคียงทางทิศเหนือ คือ จังหวัดพังงา ทางทิศตะวันออก คือ จังหวัดพังงาและจังหวัดกระบี่ ทั้งเกาะล้อมรอบด้วยทะเลอันดามัน และยังมีเกาะที่อยู่ในอาณาเขตของจังหวัดภูเก็ตทางทิศใต้และตะวันออก การเดินทางเข้าสู่ภูเก็ตนอกจากทางเรือแล้ว สามารถเดินทางโดยรถยนต์ซึ่งมีเพียงเส้นทางเดียวผ่านทางจังหวัดพังงา ข้ามสะพานสารสินและสะพานคู่ขนาน คือสะพานท้าวเทพกระษัตรีเข้าสู่ตัวจังหวัด และทางอากาศซึ่งมีท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตรองรับ ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะ ด้านทิศตะวันตก
เนื้อหา[ซ่อน] |
[แก้] ประวัติ
ดูบทความหลักที่ ประวัติศาสตร์จังหวัดภูเก็ต
เดิมคำว่า ภูเก็ต นั้นใช้คำว่า ภูเก็จ อันแปลว่าเมืองแก้ว ตรงกับความหมายเดิมซึ่งชาวทมิฬเรียก มณีคราม ตามหลักฐาน พ.ศ. 1568 ภูเก็ตเป็นที่รู้จักของนักเดินเรือที่ใช้เส้นทางระหว่างจีนกับอินเดีย โดยผ่านแหลมมลายู หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดก็คือ หนังสือภูมิศาสตร์และแผนที่เดินเรือของทอเลมี เมื่อประมาณ พ.ศ. 700 กล่าวถึงการเดินทางจากแหลมสุวรรณภูมิลงมาจนถึงแหลมมลายู ซึ่งต้องผ่านแหลม จังซีลอน หรือเกาะภูเก็ตนั่นเอง[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
จากประวัติศาสตร์ไทย ภูเก็ตเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรตามพรลิงก์ ต่อมาจนถึงสมัยอาณาจักรศิริธรรมนคร เรียกเกาะภูเก็ตว่า เมืองตะกั่วถลาง เป็นเมืองที่ 11 ใน 12 เมืองนักษัตร โดยใช้ตราเป็นรูปสุนัข จนถึงสมัยสุโขทัย เมืองถลางไปขึ้นกับเมืองตะกั่วป่า ในสมัยอยุธยา ชาวฮอลันดามาสร้างสถานที่เก็บสินค้าเพื่อรับซื้อแร่ดีบุกจากเมืองภูเก็ต
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้เกิดสงครามเก้าทัพขึ้น พระเจ้าปดุง กษัตริย์ของประเทศพม่าในสมัยนั้น ได้ให้แม่ทัพยกทัพมาตีหัวเมืองปักษ์ใต้ เช่น ไชยา นครศรีธรรมราช และให้ยี่หวุ่นนำกำลังทัพเรือพล 3,000 คนเข้าตีเมืองตะกั่วป่า เมืองตะกั่วทุ่ง และเมืองถลาง ซึ่งขณะนั้นเจ้าเมืองถลาง (พญาพิมลอัยาขัน) เพิ่งถึงแก่อนิจกรรม ท่านผู้หญิงจัน ภรรยา และคุณมุก น้องสาว จึงรวบรวมกำลังต่อสู้กับพม่าจนชนะเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2328 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงจันเป็น ท้าวเทพกระษัตรี และคุณมุกเป็นท้าวศรีสุนทร
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รวบรวมหัวเมืองชายทะเลตะวันตกตั้งเป็น มณฑลภูเก็จ และเมื่อปี พ.ศ. 2476 ได้ยกเลิกระบบมณฑลเทศาภิบาล เปลี่ยนมาเป็น จังหวัดภูเก็ต จนถึงปัจจุบัน
[แก้] หน่วยการปกครอง
การปกครองแบ่งออกเป็น 3 อำเภอ 17 ตำบล 103 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (เทศบาลนครภูเก็ต) 2 เทศบาลเมือง (เทศบาลเมืองป่าตอง) (เทศบาลเมืองกะทู้) 6 เทศบาลตำบล 9 องค์การบริหารส่วนตำบล
[แก้] ประชากร
ชาวเลเป็นชาวกลุ่มแรก ๆ ที่มาอาศัยอยู่บนเกาะภูเก็ต จากนั้นมาจึงกลุ่มชนอื่น ๆ อพยพตามมาอีกจำนวนมาก ทั้งชาวจีน ชาวไทย ชาวมาเลเซีย ฯลฯ จนมีวัฒนธรรมเฉพาะเป็นของตนเองสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน นับเป็นสีสันอย่างหนึ่งของภูเก็ต ตามบันทึกของฟรานซิส ไลต์ กล่าวถึงชาวภูเก็ตว่าเป็นพวกผสมผสานกันทางด้านเชื้อชาติและวัฒนธรรมกับชาวมลายู โดยเฉพาะคนไทยจำนวนมากในสมัยนั้นทำตัวเป็นทั้งอิสลามมิกชนและพุทธศาสนิกชน คือ ไม่รับประทานหมูแต่สักการะพระพุทธรูป ขณะที่กัปตันทอมัส ฟอร์เรสต์ ชาวอังกฤษที่เดินเรือมายังภูเก็ต ใน พ.ศ. 2327 ได้รายงานว่า "ชาวเกาะแจนซีลอนพูดภาษาไทย ถึงแม้ว่าเขาจะเข้าใจภาษามลายู พวกเขามีลักษณะหน้าตาคล้ายกับชาวมลายู ท่าทางคล้ายชาวจีนมาก"
ปัจจุบันชาวภูเก็ตส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนกลุ่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชาวจีนฮกเกี้ยน ชาวจีนช่องแคบ ชาวจีนกวางตุ้ง ฯลฯ รวมไปถึงชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม แถบอำเภอถลาง โดยเฉพาะชาวไทยมุสลิมมีจำนวนถึงร้อยละ 20-36 ของประชากรในภูเก็ต มีมัสยิดแถบอำเภอถลางราว 30 แห่งจาก 42 แห่งทั่วจังหวัด มีกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล กลุ่มอูรักลาโว้ยและพวกมอแกน (มาซิง) ซึ่งมอแกนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ มอเกนปูเลา (Moken Pulau) และ มอเกนตาหมับ (Moken Tamub) และยังมีชนกลุ่มต่างชาติอย่างชาวยุโรปที่เข้าลงทุนในภูเก็ต รวมไปถึงชาวอินเดีย มีชาวคริสต์ในภูเก็ต ราว 300 คน ชาวสิกข์ที่มีอยู่ราว 200 คน และชาวฮินดูราว 100 คน และแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ลาว และเขมร ราวหมื่นคน
[แก้] บุคคลสำคัญ
- ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร
- หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง
- หลวงปู่สุภา กันตะสีโล (หลวงปู่สุภา กนฺต สีโล)
- พระยารัษฎานุประดิษฐมหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง)
- ศิรินทรา ยายีทายาทรุ่นที่ 7 ของพระนางมะซูรีย์
[แก้] สถานที่สำคัญ
- ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตเป็นศาลากลางที่ไม่เหมือนใครด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นทั้งยังเป็นโบราณสถาณที่ยังใช้การอยู่จนกระทั่งปัจจุบันอีกด้วย
- วัดฉลอง (ปัจจุบันชื่อ วัดไชยธาราราม) พ.ศ. ๒๔๑๙ ศิษย์พ่อท่านแช่มต่อสู้กับอั้งยี่
- วัดพระนางสร้าง มีลายแทง "พิกุลสองสารภีดีสมอแดงจำปาจำปีตะแคง..." พระพุทธรูปดีบุกที่เก่าแก่ที่สุด
- อนุเสาวรีย์ ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๙
- เกาะสิเหร่ มีชาวเลกลุ่มอูรักลาโว้ย รองเง็งคณะแม่จิ้ว ประโมงกิจเป็นแม่เพลงอันดามัน
- ศาลเจ้ากะทู้เป็นที่แรกเริ่มเทศกาลกินผัก (เจี๊ยะฉ่าย)
- ศาลเจ้าบางเหนียว ศาลเจ้าใกล้บริเวณท่าเรือที่ชาวต่างชาติรับส่งสินค้ามีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี
- ศาลเจ้าแสงธรรมหรืออ๊ามเตงก่องต๋อง ศาลเจ้าเก่าแก่แห่งหนึ่งของภูเก็ตมีสถาปัตยกรรมที่งดงามมาก เป็นศาลเจ้าประจำตระกูลตัน
- ศาลเจ้าบ้านท่าเรือหรือ ฮกเล่งเก้ง เป็นที่ประดิษฐานองค์พระโป๊เซ้งไต่เต่ องค์พระประธานของศาลเจ้า
- ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย หรือ จุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง หรือ คนภูเก็ตเรียกว่า อ๊ามจุ๊ยตุ๋ย
- วัดพระทอง มีพระผุดมาจากดิน มีลายแทงยัก๓ ยัก๔ หามผีไปเผา ผีไม่ทันเน่าหอมฟุ้งตรลบ
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง มีเทวประธานคือพระวิษณุ จดหมายเหตุท้าวเทพกระษัตรี หง่อก่ากี่ ชาวเล
- พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ มีเหมืองจำลองเหมืองแล่น เหมืองรู เหมืองหาบ เหมืองฉีด เหมืองเรือขุด; โลหะดีบุก เพชรภูเก็จ เพชรพังงา แทนทาลัม วิถีชีวิตชาวกะทู้
- สนามบินนานาชาติภูเก็ตอยู่ติดชายทะเลระหว่างหาดในยางและหาดไม้ขาว
- ฮ่ายเหลงอ๋องพญามังกร ณ ลานเฉลิมพระเกียรติฯ 72 พรรษา อยู่ในตัวเมืองภูเก็ต
[แก้] สถานที่ท่องเที่ยว
- พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคาคีรี ตั้งอยู่บนยอดเขานาคเกิด พระพุทธรูปใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ต
- อุทยานแห่งชาติสิรินาถ
- สถาปัตยกรรมแบบจีน-โปรตุเกส (Sino-Portuguese Architecture) บริเวณถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนพังงา ถนนเยาวราช และถนนกระบี่ในอำเภอเมืองภูเก็ต
- เขารัง เป็นภูเขาเตี้ยๆในอำเภอเมืองภูเก็ต
- สะพานหิน ทะเลของชาวเมืองภูเก็ต อยู่บริเวณตัวเมืองซึ่งในอดีตเคยเป็นสถานที่การทำเหมืองแร่ดีบุกในทะเล
- ภูเก็ตแฟนตาซี ตั้งอยู่บริเวณหาด กมลา
- แหลมพรหมเทพ
- ประภาคารกาญจนาภิเษก
- พิพิธภัณฑ์เปลือกหอย
- สวนสัตว์ภูเก็ต
- บ้านชินประชา
- ร้านหมี่ผัดฮกเกี้ยน
- จุดชมวิวเขาขาด
- แหลมพันวา
- อ่าวมะขาม
- อ่าวกะหลิม
- เกาะไม้ท่อน
- เกาะรัง
- เกาะราชา
- เกาะเฮ
- แหลมสิงห์
สถานที่ท่องเที่ยวส่วนมากในจังหวัดภูเก็ตจะเป็นชายหาดต่าง ๆ ที่อยู่ในอำเภอถลาง อำเภอกะทู้ และอำเภอเมืองภูเก็ต ได้แก่
- หาดกมลา
- หาดสุรินทร์
- หาดป่าตอง
- หาดกะรน
- หาดกะตะ
- หาดราไวย์
- หาดในหาน
- หาดไตรตรัง
- หาดในยาง
- หาดไม้ขาว
- หาดในทอน
- หาดบางเทา
[แก้] เทศกาลสำคัญ
[แก้] ภาษาถิ่น
ภาษาถิ่นของจังหวัดภูเก็ตเป็นภาษาถิ่นใต้ที่ไม่เหมือนถิ่นอื่นในภาคใต้ โดยจะมีสำเนียงภาษาจีนฮกเกี้ยนและภาษามาลายูปนอยู่มาก ดังนั้นภาษาถิ่นภูเก็ตจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พบได้เฉพาะแถบภูเก็ต และพังงาเท่านั้น ในอดีตนั้นชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในภูเก็ตนั้นส่วนใหญ่ล้วนเป็นชาวจีนอพยพมาจากมณฑลฮกเกี้ยน เมื่อเข้ามาอาศัยอยู่ในภูเก็ตแล้วก็ได้นำเอาวัฒนธรรมต่างๆมากมายเข้ามาใช้ หนึ่งในนั้นก็คือ ภาษา ซึ่งในยุคแรกๆนั้นได้ติดต่อสื่อสารกันด้วยภาษาจีนฮกเกี้ยน ต่อมามีการค้าชายมากขึ้นต้องติดต่อกับต่างชาติมากขึ้น ชาวจีนฮกเกี้ยนบางส่วนก็ไปมาหาสู่กับปีนัง มาเลย์ บ้าง มีการค้าขายแร่ดีบุกต่างๆมากขึ้น ทำให้ภาษามาลายูหรือภาษามาเลย์เริ่มเข้ามาผสมปนเข้าด้วยกันกับภาษาฮกเกี้ยน ทำให้เกิดเป็นภาษาที่ผสมสำเนียงเข้าด้วยกัน เป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในภูเก็ตและใกล้เคียง ภาษาฮกเกี้ยนในภูเก็ตนั้นปัจจุบันยังคงมีใช้อยู่เพียงแต่สำเนียงอาจจะเพี้ยนไปจากภาษาฮกเกี้ยนเดิมบ้าง เพื่อปรับให้เข้ากับการออกเสียงของคนภูเก็ต ซึ่งใกล้เคียงกับภาษาฮกเกี้ยนที่ใช้กันในปีนัง มาเลย์ หรือ สิงคโปร์ เนื่องจากมีการปรับเสียงให้เข้ากับสัทอักษรการออกเสียงของคนภูเก็ต บางคำในภาษาฮกเกี้ยนจึงไม่เหมือนกันภาษาฮกเกี้ยนแท้ของจีน แต่ก็ใกล้เคียง นอกจากนี้ยังพบว่าระบบไวยากรณ์ที่ใช้นั้นบ้างก็ยืมมากจากภาษาฮกเกี้ยนด้วย เช่น บ่อน้ำ ในภาษากลาง แต่ภาษาภูเก็ตจะเรียก น้ำบ่อ (水井)ซึ่งมาจากคำว่า จุ้ยแจ้(水井) ที่แปลจากหลังมาหน้า โดยจุ้ย 水 น้ำ ส่วน แจ้ 井แปลว่าบ่อ นั่นเอง เป็นต้น ภาษาภูเก็ตบ้างก็เรียก ภาษาบาบ๋า
คำทั่วไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ภาษาภูเก็ต | อักษรจีน | ภาษากลาง |
อ๊าม | 庵 | ศาลเจ้า |
โซสี | กุญแจ | |
แคะจ่าน | โรงแรม | |
อี่เส่งก้วน | โรงพยาบาล | |
ซาตู๋ | ตู้เสื้อผ้า | |
เกี่ยมตู๋ | ตู้กับข้าว | |
จ๊าว | วิ่ง | |
ซึ่งตู๋ | ตู้เย็น | |
กาโต้ | กรรไกร | |
จ่วนป๋าย | ไขควง | |
เจี่ยนสี | ตะหลิว | |
เอี่ยนปิด | ดินสอ | |
ปิด | ปากกา | |
หม่อปิด | พู่กัน | |
อี้ | เก้าอี้ | |
อั๊วจ๋าน | ปิ่นโต | |
เตี่ยนสี่ | โทรทัศน์ | |
หนา | ตะกร้า | |
บี๊น | แปรง | |
หล่าวถุ้ย | บันได | |
เต้ง | ตะเกียง |
[แก้] อาหารและขนมพื้นเมือง
- โลบะ - เป็นเครื่องในหมูปรุงกับเครื่องพะโล้ นำมาทอดรับประทานกับเต้าหู้ทอดราดน้ำจิ้ม
- หมี่ฮกเกี้ยน - หมี่เหลืองผัดสูตรฮกเกี้ยนซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิมพื้นเมืองโดยเฉพาะจะมีเนื้อกุ้ง,ปลา,หอย,หมู,ปลาหมึก โรยหน้าด้วยเจี้ยนผ้างหรือหอมเจียว รัปประทานคู่กับหอมแดงหรือแค็บหมู
- หมี่หุ้นปาฉ่าง - เป็นเส้นหมี่แห้งรับประทานกับน้ำต้มกระดูก
- หมี่สั่ว - เป็นอาหารเช้าของชาวภูเก็ต จะขายพร้อมกับข้าวต้ม หรือโจ๊ก
- เบือทอด - เป็นกุ้งกับหญ้าช้องหรือใบเล็บครุฑชุบแป้งทอด รับประทานกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษ
- โอต๊าว - ลักษณะคล้ายกับหอยทอดภาคกลาง ใช้หอยติบผัดกับแป้ง เผือก และไข่ ทานกับกากหมูทอดและถั่วงอก ปัจจุบันนิยมใช้หอยนางรมแทนหอยติบ เพราะหาได้ง่ายกว่า
- โอ๊ะเอ๋ว - เป็นของหวานคล้ายวุ้นน้ำเชื่อมใส่น้ำแข็ง ทำมาจากกล้วยน้ำว้าผสมกับสาหร่ายทะเลชนิด
- สับปะรดภูเก็ต - สับปะรดพันธุ์พื้นเมืองที่มีรสชาติหวานกรอบ อร่อย ต่างกับสับปะรดที่อื่น ซื้อได้ที่ตลาดสดทั่วไป
- น้ำชุบภูเก็ต - เป็นน้ำพริกกะปิน้ำใส ๆ ใส่กุ้งสด หัวหอม พริก และมะนาว รับประทานกับข้าวหรือขนมจีน
- บ๊ะจ่าง - เป็นขนมที่นิยมของชาวภูเก็ต ทำจากข้าวเหนียวผัดซีอิ้ว มีไส้หมูอยู่ข้างใน
- แกงไตปลา - เป็นแกงยอดนิยมของชาวภูเก็ต ทำจาก ไส้ปลาหรือเครื่องในปลา มาหมักไว้และทำเป็นเครื่องแกง รับประทานกับข้าว หรือขนมจีน
- ขนมจีน - นิยมทานเป็นอาหารเช้าและเย็น ทานกับน้ำแกงหลายรสชาติซึ่งมีลักษณะเป็นพื้นเมือง ทั้งแกงไตปลา น้ำชุบหยำ น้ำยา น้ำพริก ส่วนใหญ่เป็นเส้นหมัก มีเส้นสดอยู่บ้าง
- ขนมจีบติ่มซำ - เป็นอาหารเช้าของชาวภูเก็ต มักไม่รับประทานในมื้ออื่น มีอยู่ทั่วไปบนเกาะภูเก็ต สามารถหารับประทานได้ไม่ยาก มีหลากหลายแบบให้เลือกรับประทานทาน น้ำจิ้มแต่ละร้านจะต่างกันไปตามเคล็ดลับ ชาวภูเก็ตนิยมเรียกว่า เสี่ยวโบ๋ย
- เกลือเคย - คล้ายกับน้ำปลาหวาน ปรุงจากพริกขี้หนู กุ้งแห้ง ตำละเอียด กะปิ ซีอิ้ว น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว และน้ำ เวลารับประทาน ใช้ราดบนเลือดหมูต้ม เต้าหู้เหลือง แตงกวา และผลไม้อื่น ๆ
[แก้] การศึกษา
โรงเรียน
ระดับอุดมศึกษา
- มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
- มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เขตการศึกษาภูเก็ต
[แก้] สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
- ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกเฟื่องฟ้า (Bougainvillea sp.)
- ต้นไม้ประจำจังหวัด: ประดู่ (Pterocarpus indicus)
- คำขวัญประจำจังหวัด: ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม
[แก้] เพลงประจำจังหวัด
- ยอดนารีศรีถลาง - ประพันธ์โดย ประสิทธิ ชิณการณ์ ทำนองโดย ประพันธ์ ทิมเทศ
- อ้อมกอดอันดามัน
- ภูเก็ตจ๋า
- สดุดีย่าจันย่ามุก
- ไข่มุกอันดามัน
- ภูเก็ตเมืองงาม
- หาดราไวย์
- ของกินภูเก็ต (หรอยๆ)
- ภูเก็ตราตรี
- ตะวันรอนที่แหลมพรหมเทพ
- ภูเก็ตเมืองสวรรค์
- ภูเก็ต (สะพานรักสารสิน)
- ยินดีที่มาเยือน
- หาดสุรินทร์
- สัญญาหน้าอ๊าม
- สุดสวาทหาดภูเก็ต
- ปลื้มภูเก็ต
[แก้] สถาปัตยกรรมย่านเมืองเก่าภูเก็ต
สถาปัตยกรรมในย่านการค้าเมืองเก่าภูเก็ตบนถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนกระบี่ ถนนพังงา ถนนเยาราช และซอยรมณีย์ รวมทั้งถนนใกล้เคียงเริ่มมีการพัฒนาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงของการล่าอาณานิคมของประเทศตะวันตกแลกะการค้าแร่ดีบุกเฟื่องฟู ในยุคนั้นภูกเตเป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติทั้งจีน อินเดีย อาหรับ มาเลย์ และยุโรปเข้ามาทำการค้าและอาศัยอยุ่ เช่นเดียวกับเมืองท่าอื่นๆในแหลมมาลายู เช่น ปีนัง มะละกา และสิงคโปร์ การก่อสร้างและออกแบบอาคารจึงได้รับอิทธิพลจากนานาชาติไปด้วย ลักษณะของสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าในเมืองภูเก็ต อาจแบ่งได้ 3 ยุค คือ ยุคแรกประมาณช่วงพ.ศ. 2411-2443 เป็นช่วงของการเริ่มพัฒนาเมือง ยุคที่สองพ.ศ. 2444-2475 เป็นช่วงของการผสมผสานรูปแบบสถาปัตยกรรมเอเชียกับยุโรป และยุคที่สามยุคนี้ได้กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ตซึ่งชาวภูเก็ตทุกคนภาคภูมิใจ และตั้งใจจะรักษาให้คงอยู่สืบไป
[แก้] ห้างสรรพสินค้า
[แก้] อำเภอเมือง
- Central Festival Phuket SFX & Tops Market
- Robinson Ocean Tops Market
- เทสโก้ โลตัส + Home Pro
- เทสโก้ โลตัส ราไวย์
- เทสโก้ โลตัส เจ้าฟ้า
- บิ๊กซี
- คาร์ฟูร์
- แม็คโคร
- HomePro ฉลอง
- Index Living Mall
- Ocean
- ภูเก็ต ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์
- Big One Supermarket
- Coliseum Paradise
- SB Design Square
- House & Home
- ศูนย์การค้า Expo
- Phuket Square
- homeworks & Power Buy
- Outlet Village
[แก้] ป่าตอง
- Jungceylon Robinson & Carrefour & SF Cinema City
- Ocean Plaza หาดป่าตอง
- Ocean Plaza ถนนบางลา หาดป่าตอง
[แก้] ถลาง
- ตลาด โลตัส เชิงทะเล
- ถลาง ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์