สาเหตุการเกิดโรคความดันโลหิตสูง อาหารที่ควรงดโรคความดันโลหิตสูง ปัญหาโรคความดันโลหิตสูง


1,068 ผู้ชม


สาเหตุการเกิดโรคความดันโลหิตสูง อาหารที่ควรงดโรคความดันโลหิตสูง ปัญหาโรคความดันโลหิตสูง

 

 

 ดูแลตัวเองเมื่อเป็นความดันโลหิตสูง

ดูแลตัวเองเมื่อเป็นความดันโลหิตสูง

ความดันโลหิตสูง กลายเป็นอีกหนึ่งโรคฮิตที่ทั่วโลกกำลังจับตามอง และเราก็ไม่อยากให้คุณต้องเสี่ยงกับความร้ายแรงที่ว่านี้ ดังนั้น มาลองทำความรู้จักกับโรคความดันโลหิตสูงและดูแลตนเองถ้าต้องเป็นโรคนี้กันดีกว่า

ความดันโลหิตสูง คือ ภาวะที่มีค่าเเรงดันที่ทำกับผนังหลอดเลือดสูงกว่าปกติ เเรงดันในเลือดที่สูงเป็นระยะเวลานานทำให้ผนังหลอดเลือดบริเวณตำเเหน่งต่างๆ เสื่อมลง ถ้าผนังหลอดเลือดที่เสื่อมนี้เกิดขึ้นที่สมองสามารถทำให้เกิดเส้นเลือดในสมองเเตกหรือตีบได้ เกิดที่หลอดเลือดหัวใจสามารถทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดได้ เกิดขึ้นที่หลอดเลือดที่ไตสามารถทำให้การทำงานของไตลดลงอาจถึงไตวายได้

ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะความกดดันโลหิตสูง ได้เเก่

มีประวัติครอบครัวเป็นความดันโลหิตสูง

มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตราฐาน

มีอายุมากกว่า 45 ปี สำหรับผู้ชาย เเละ 55 ปี สำหรับผู้หญิง

ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย

ผู้ที่สูบบุหรี่ เเละดื่มสุรา

เป็นเบาหวาน

มีความเครียดสูง

วัดค่าความดันโลหิตกันหน่อย

ค่าปกติของความดันโลหิต คือ ความดันที่ไม่เกิน 120/80 มม. ปรอท ทุกคนควรวัดความดัน อย่างน้อย 1 ครั้งใน 2 ปี ถ้าตรวจพบว่ามีค่าความดันโลหิตสูงกว่าระดับปกติ ควรได้รับการตรวจบ่อยครั้งขึ้น และในคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ก็ควรควบคุมความดันโลหิตให้ต่ำกว่า 130/80 มม. ปรอท ในผู้ป่วยที่มีโรคต่อไปนี้ร่วมด้วย อันได้เเก่ โรคหัวใจขาดเลือด โรคไต โรคเบาหวาน เเละโรคหลอดเลือดบางชนิด

อันตรายแน่ถ้าไม่ดูแลตนเอง

เกิดภาวะสายตาเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว เพราะถูกแรงดันเลือดจากภาวะความดันโลหิตสูง หรืออาจรุนแรงถึงขึ้นตาบอด หลอดเลือดในตาอาจแตกจนพบการตกเลือดในตาให้เห็นอย่างชัดเจน หรือมีอาการบวมในชั้นตาที่รับภาพ

เกิดอาการทางสมอง หลอดเลือดในสมองตีบหรือแตก ซึ่งเป็นอาการที่พบในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่รุนแรง และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง อาการแสดงคือมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ร่วมกับอาการชักหรือไม่รู้สึกตัว และหากไม่เสียชีวิตก็อาจเกิดอัมพาต

นอกจากนี้ ยังมีภาวะหัวใจล้มเหลว เป็นผลสืบเนื่องมากจากโรคความดันโลหิตสูงเพราะกล้ามเนื้อหัวใจต้องทำงานมากขึ้นเพื่อออกแรงบีบส่งเลือดต้านความดันในหลอดเลือด จึงทำให้กล้ามเนื้อหัวใจโต ห้องหัวใจแคบลง และสูญเสียความสามารถในการบีบเลือดไปเลี้ยงร่างกาย อาการแสดงคือเกิดอาการเหนื่อย หอบหายใจลำบาก เจ็บหน้าอก และภาวะความดันโลหิตสูงยังเป็นสาเหตุสำคัญทำให้หลอดเลือดงหัวใจตีบตัน กล้ามเนื้อหัวใจจะขาดเลือดอย่างรุนแรงจนเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย ความผิดปกติที่ระบบไต เช่น ไตพิการ หรือไตอักเสบ เกิดอาการบวมน้ำตามร่างกาย

ปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อมีความดันโลหิตสูง

1. ลดน้ำหนัก

2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

3. ลดอาหารที่มีเกลือเป็นส่วนประกอบ

4. ลดความเครียด

5. งดสูบบุหรี่

6. ลดหรืองดเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์

7. หันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

8. รับประทานยาเเละมาพบเเพทย์อย่างเป็นนิสัย

อาหารสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง

นอกจากการดูแลตนเองในแบบข้างต้นแล้ว ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงยังสามารถ เลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงจากอันตรายของโรคได้อีกด้วย

ในประเทศไทยได้มีการแนะนำอาหารหรือสมุนไพรเพื่อลดระดับความดันโลหิต เช่นการรับประทานกระเทียม ใบขึ่นช่าย หญ้าหนวดแมว หรืออีกหลายอย่าง แต่ยังไม่ได้มีการทดลองเชิงวิทยาศาสตร์ เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการวิจัยบทบาทของอาหารต่อความดันโลหิตที่เรียกว่าThe Approaches Dieatary Stop Hypertension เป็นการศึกษาแผนการรับประทานอาหารร่วมกับการรับประทานอาหารที่มีเกลือต่ำ ซึ่งให้ผลดีต่อการรักษาความดันโลหิตสูง และยังป้องกันความดันโลหิต

รายการอาหารที่ควรรับประทาน

ในแต่ละมื้อของผู้ป่วยความดันหิตสูงควรประกอบด้วย

แป้ง ข้าว บะหมี่ ก๊วยเตี๋ยว หรือขนมจีน ที่เทียบเท่าปริมาณ 1 ส่วนไม่เกิน 2 ทัพพี

ผัก มื้อละจาน อาจจะเป็นผักกาดขาว ผักบุ้ง ผักคะน้า แตงกวา มะเขือเทศ ฯลฯ

เนื้อสัตว์ 4-5 ชิ้นคำ ควรจะเป็นพวกปลามากกว่าสัตว์อื่นๆ หากเป็นไก่หรือเป็ดต้องลอกหนังออก หมูต้องเป็นหมูเนื้อแดง

ผลไม้ขนาดกลาง มื้อละผล เช่น ส้ม 1 ลูก หรือฝรั่ง 1 ลูกหรือมะม่วงครึ่งซีกหรือสัปปะรส 6 ชิ้น หรือมะละกอ 8 ชิ้น หริแตงโม 12 ชิ้น หรือกล้วยหอมครึ่งลูก หรือกล้วยน้ำวา1ผล หรือชมพู่ 2-3 ผลหรือขนุน 2-3 ยวง หรือทุเรียนขนาดเล็ก 1เม็ด ฯลฯ

นม ต้องเป็นชนิดพร่องมันเนย หรือโยเกิร์ต วันละ 2 กล่อง

ถั่ว ได้แก่ถั่ลิสง มะม่วงหิมพานต์ แอลมอนต์ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดแตงโม ถั่วลันเตา ถั่วแระ ถั่วเขียว ฯลฯ

น้ำมัน ให้ใช้น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันทานตะวัน น้ำมันข้าวโพดแทนน้ำมันปามล์ พยายามหลีกเลี่ยงอาหารทอด ผัด ให้ใช้อบ ต้มหรือเผา


แหล่งที่มา : e-magazine.info , lifestyle.th.msn.com

อัพเดทล่าสุด