วิธีป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดโรคหัวใจ วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจ สถิติการเป็นโรคหัวใจ
โรคไม่ติดต่อเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย ความหมายและความสำคัญของโรคไม่ติดต่อ โรค ไม่ติดต่อ หมายถึง โรคที่เกิดจากความผิดปกติหรือความเสื่อมโทรมของร่างกายและจิตใจ ไม่สามารถที่จะติดต่อไปหาบุคคลอื่นได้ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคนิ่ว โรคจิต และโรคประสาท โรคความดันเลือดต่างๆเป็นต้น ขณะ นี้ความสำคัญของโรคไม่ติดต่อกำลังเพิ่มมากขึ้น ไม่เฉพาะประเทศไทย แต่รวมถึงประเทศที่กำลังพัฒนาจำนวนมาก สำหรับประเทศไทยโรคติดต่อลดลงเหลือเพียง 3 โรคใหญ่ คือ โรคเอดส์ วัณโรค และไข้เลือดออก แต่โรคไม่ติดต่อกำลังมีบทบาทในการเป็นภัยต่อสุขภาพของประเทศ โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ทำให้เกิดการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และที่เป็นปัญหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือ โรคที่เกิดจากการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุ สำหรับ กลุ่มเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อ ที่ผ่านมาคือวัยทำงาน เพราะมีความเครียด ขาดการออกกำลังกาย เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง แต่ปัจจุบันเริ่มตั้งแต่แม่และเด็ก แม่ต้องมีความรู้ในการเลี้ยงลูก เพราะเด็กไทยเป็นเด็กที่อ้วนมากขึ้น อย่างน่าเป็นห่วง และเด็กที่อ้วนเมื่อเติบโตก็จะเป็นคนอ้วน มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เบาหวาน ซึ่งขณะนี้เด็กไทยที่เป็นโรคเบาหวานก็มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ ดังนั้น ตอนนี้ทุกกลุ่มต้องทราบว่าตัวเองมีสิทธิ์จะมีความเสี่ยง เ นื่องจากปัญหาสาธารณสุขไทยได้เปลี่ยนไปตามการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม จากสังคมเกษตรสู่สังคมอุตสาหกรรม ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน เช่น การบริโภคเปลี่ยนไป มีวิถีชีวิตที่รีบเร่ง การออกกำลังกายน้อยลง และมีความเครียดเพิ่มขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังซึ่งเป็นโรค ที่ไม่ติดต่อกำลังทวีความรุนแรงขึ้น จากสถิติปัญหาสาธารณสุขไทยมีอุบัติการณ์ของโรคเพิ่มขึ้น 5 อันดับแรกของผู้ป่วยที่มารักษาในโรงพยาบาลล้วนเป็นโรคที่ไม่ติดต่อ ปัจจัยที่เป็นสาเหตุของโรคไม่ติดต่อ ภัย เงียบที่คุกคามสุขภาพของคนในยุคปัจจุบันเนื่องจากมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยน แปลงของระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆภายในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไม่ติดต่อ สภาพ เศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปมีอิทธิพลต่อรูปแบบการดำเนินชีวิตของ ประชากรโดยพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปหลายประการ เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อ ปัจจัย เสี่ยงที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคไม่ติดต่อที่เป็นปัญหาสำคัญ ได้แก่ ความเครียด การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ความดันเลือด การขาดการออกกำลังกาย โคเลสเตอรอลและความอ้วน แนวทางการปฏิบัติโดยทั่วไปในการป้องกันโรคไม่ติดต่อ ๑. ต้องรักษาอนามัยส่วนบุคคลให้ดี ๒. จัดให้มีการสุขาภิบาลที่ดี ๓. ล้างพืชผักให้สะอาดก่อนรับประทาน รับประทานอาหารที่สุกสะอาด ปราศจากสารปนเปื้อน ๔. เลือกซื้ออาหารที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา มีมาตรฐาน ระบุวันเดือนปีที่ผลิต และวันหมดอายุ ๕.ควรออกกำลังการอย่าสม่ำเสมอ ตัวอย่างและแนวทางการป้องกัน รักษาโรคไม่ติดต่อที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ การป้องกันโรค แบ่งออกเป็น 3 ระดับได้แก่ ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ โดย 1. การป้องกันปฐมภูมิ (Primary Prevention) เป็นการป้องกันก่อนที่จะมีโรคเกิดขึ้น 2. การป้องกันทุติยภูมิ (Secondary Prevention) เป็น การป้องกันในคนที่เกิดโรคขึ้นแล้วแต่ยังไม่มีอาการแสดงชัดเจน เพื่อลดผลเสียของโรคที่เกิดขึ้น โดยการวินิจฉัยโรคแต่เริ่มแรกก่อนมีอาการแสดง และให้การรักษาแต่เนิ่นๆ 3. การป้องกันตติยภูมิ (Tertiary Prevention) เป็นการป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยที่เป็นโรคแล้ว โดยให้การรักษา และการทำกายภาพบำบัด ตัวอย่างของโรค อารการและวิธีป้องกัน
|
แหล่งที่มา : mpirial.ispace.in.th